ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Friday, 26 August 2011

คุกสาว24พ้นโทษเฉียด60แม่วอนพท.-นปช.ยื่นมือ คอป.ปรองดองศาลต้องเป็นกลาง-รู้จักคดีการเมือง

ที่มา Thai E-News



รายงานความคืบหน้า คอป ครั้งที่ 1
แม่ของสาวเสื้อแดงวัย 24ถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี หากต้องรับโทษตามคำตัดสิน เธอจะได้รับอิสรภาพตอนอายุ 57 วอนให้นปช.-ส.ส.เพื่อไทยยื่นประกัน

ส่วนเอกสารนี้เป็นของศอฉ.ที่เคยเสนอนายกฯกล่าวถึงศาลว่า พึงใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาด้วยความระมัดระวัง ไม่ตั้งข้อหากับผู้ที่เกี่ยวข้องในการชุมนุมรุนแรงเกินสมควร..ศาลยุติธรรม ควรได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน และเป็นกลางเพื่อให้สามารถเข้าใจสถานการณ์ในภาพรวมได้อย่างรอบด้าน และมีข้อมูลที่เพียงพอในการให้ความเป็นธรรม โดยเฉพาะสถานการณ์ภายหลังที่มีการเปลี่่ยนแปลงการปกครองประเทศโดยการรัฐ ประหารเมื่อวันที่่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
25 สิงหาคม 2554

เวบไซต์ ข่าวสดออนไลน์รายงาน ว่า วันที่ 25 ส.ค. นางวาสนา มาบุตร อายุ 49 ปี มารดาของ น.ส.ปัทมา มูลมิล อายุ 24 ปี ซึ่งศาลจังหวัดอุบลราชธานี พิพากษาให้จำคุก 33 ปี 4 เดือน โดยตัดสินว่า ร่วมกับพวกวางเพลิงเผาอาคารศาลากลางจังหวัด โดยนางวาสนาเรียกร้องให้กลุ่ม นปช.และพรรคเพื่อไทย ช่วยประกันตัวบุตรสาวในชั้นอุทธรณ์ และให้ช่วยเหลือผลทางคดี เพราะได้รับโทษสถานหนัก พร้อมทั้งเชื่อว่าบุตรสาวไม่ได้เป็นผู้เผาอาคารศาลากลาง เพียงแต่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วยเท่านั้น
ปัทมา มูลมิล

โดยนางวาสนา เล่าว่า น.ส.ปัทมาเป็นลูกคนที่ 3 และเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว โดยเข้าร่วมชุมชนกับกลุ่ม นปช.ทั้งที่ จ.อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ เพราะต้องการช่วยเหลือประเทศชาติให้มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ส่วนวันเกิดเหตุเผาศาลากลางบุตรสาวมาช่วยเปิดร้านขายอาหารตามสั่งที่ตั้ง อยู่เลขที่ 168 ในซอยชยางกูร 21 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง

หลังจากนั้นก็ได้ออกไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยบุตรสาวเล่าว่า วันเกิดเหตุวิ่งหลบหนีเข้าไปในอาคารศาลากลางจังหวัด เพราะกลัวถูกทหารยิง และได้พบกับชายสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ในมือถือขวดบรรจุน้ำมัน พร้อมยื่นน้ำมันให้กับบุตรสาว เพื่อใช้ราดอาคารศาลากลาง แต่ลูกสาวไม่รับ ชายคนดังกล่าวจึงเอาขวดน้ำมันกลับไปราดเอง และวิ่งหลบหนีไป

ส่วนความช่วยเหลือตั้งแต่บุตรสาวถูกจับกุม ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจาก นปช.หรือ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีเพียงอาจารย์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแห่งหนึ่ง ฝากเงินไว้ที่ร้านค้าสวัสดิการของเรือนจำให้กับผู้ต้องขัง นปช.ใช้จ่ายคนละ 1,000 บาทต่อเดือน ปัจจุบันนางวาสนาต้องจ่ายเงินกู้รายวันๆละ 500 บาท เพื่อใช้หมุนเวียนในร้านขายอาหารตามสั่ง เพราะมีเงินไม่พอใช้และยังขาดคนช่วยเหลือระหว่างให้บริการลูกค้าด้วย

ด้านนายวัฒนา จันทสิงห์ ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ยังไม่สามารถยื่นประกันตัวผู้ต้องหา 9 คน ที่ยังถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาล เพราะส.ส.เพื่อไทยอีสานใต้ที่จะใช้ตำแหน่งประกันตัวยังติดประชุมสภา ไม่สามารถเดินทางมายื่นประกันในวันนี้ จึงนัดเลื่อนยื่นขอประกันในชั้นอุทธรณ์ในวันที่ 26 ส.ค.

สำหรับการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ขณะนี้กำลังพิจารณาจะยื่นอุทธรณ์ทั้ง 9 คน หรือยื่นเฉพาะ 4 รายที่ถูกลงโทษสถานหนัก โดยต้องรอดูท่าที่พนักงานอัยการจะมีความเห็นต่อคำพิพากษาของศาลชั้นต้นอย่าง ไรด้วย แต่สำหรับ 4 ผู้ต้องหาที่ถูกลงโทษสถานหนัก จะต้องยื่นอุทธรณ์แน่นอน เพราะเรายังไม่สิ้นความสงสัย เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายเป็นผู้ใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผา มีเพียงภาพถ่ายที่ผู้ต้องหาอยู่ในอาคารศาลากลางขณะเกิดเพลิงไหม้เท่านั้น

ตัดสินคุกตลอดชีวิตคดีการเมือง ศาลขัดหลักปรองดองที่ศอฉ.เสนอ

ทั้งนี้คอป.เคยนำเสนอคดีคนเสื้อแดงกับกระบวนการยุติธรรมยื่นต่ออดีตนายกฯอภิสิทธิ์ (คลิ้กดูรายละเอียด)

คอป.เห็นว่ารัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกํากับควบคุมการ ใช้อํานาจรัฐ ทุกฝ่ายพึงใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาด้วยความระมัดระวัง ไม่ตั้งข้อหากับ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการชุมนุมรุนแรงเกินสมควร ควร ให้ความสําคัญกับการคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของทุกฝ่าย ให้โอกาสในการต่อสู้คดีและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ต้องหา ซึ่่งต้องได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ

์และส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะศาลยุติธรรมได้รับข้อมูลที่ครบ ถ้วนและเป็นกลางเพื่อให้สามารถเข้าใจสถานการณ์ในภาพรวมได้อย่างรอบด้าน และมีข้อมูลที่เพียงพอในการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นที่่พึ่งสุดท้าย มีความจําเป็นต้องเข้าใจถึงความซับซ้อนของปัญหา โดยพึงตระหนักถึงพัฒนาการที่ยาวนานและความซับซ้อนของปัญหาที่นํามาสู่ความ ขัดแย้ง โดยเฉพาะสถานการณ์ภายหลังที่มีการเปลี่่ยนแปลงการปกครองประเทศโดยการรัฐ ประหารเมื่อวันที่่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ทําให้ในสายตาของคนบางกลุ่มการกล่าวอ้างถึงกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมมีปัญหาเรื่่องความชอบธรรมและความสอดคล้องกับหลัก นิติธรรม


เสื้อแดงตัดสินอย่างไว มาร์ค-เทือกคนสั่งฆ่ายังลอยนวล ชวนท้าผิดก็เอาผิดเลย

เมื่อวันก่อน ส.ส.ดร.สุนัย จุลพงศธร กับส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประท้วงลบเหลี่ยมมีดโกนของชวน หลีกภัย ที่ฉวยโอกาสปรักปรำทักษิณว่าสั่งฆ่า 3จังหวักดชายแดนภาคใต่ ซึ่งตอนท้ายนายชวนต้องออกมาตอบณัฐวุฒิที่อภิปรายพาดพิงว่านายอภิสิทธิ์สั่ง ฆ่าคนเสื้อแดง 92 ศพแต่ไม่ยอมรับ โดยบอกว่า

ที่บอกว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์สั่งฆ่า 91 ศพ เรื่องนี้ไม่ใช่การแก้แค้น แต่ต้องดำเนินการตามหลักนิติธรรม ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ใครเผาบ้านเผาเมืองเผาศาลากลาง ก็ต้องสอบกันตามกฎหมาย การยึดหลักนิติธรรมไม่ใช่การแก้แค้น นายกฯสั่งฆ่าคนถ้าศาลว่าผิดก็ต้องผิด ใครเผาศาลากลางถ้าศาลว่าผิดก็ต้องผิด

*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง

-จำคุก 4 เสื้อแดงอุบล 33 ปี 4 เดือน-ปล่อย 9 ผู้บริสุทธิ์หลังขังฟรีปีกว่า

-คอป.สรุปชี้ชัด ทหารฆ่าให้ลากขึ้นศาล DSIตกเป็นเครื่องมือมาร์ค-ศาลตัดสินต้องดูบริบทด้วยว่ามีแรวจูงใจจากทางการ เมือว ไม่ใช่คดีอาชญากรรม-จี้ยุติขังลืมแดง-ค้านนิรโทษฯ

- ฮิวแมนไรต์ฯกดดันปูเอาผิดฆาตกร-ฟันหัวโจกพธม.หลังดองคดี3ปีลอยนวล