ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 7 July 2011

น้ำลดตอผุดคอป.สรุปชี้ชัดทหารฆ่าให้ลากขึ้นศาล DSIตกเป็นเครื่องมือมาร์ค-จี้ยุติขังลืมแดง-ค้านนิรโทษ

ที่มา Thai E-News

รายงานความคืบหน้า คอป ครั้งที่ 1

พอดีเห็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าเรื่องปรองดองต้องปล่อยให้คอป.ทำ ความจริงเขาเคยสรุปเสนอต่อนายกฯอภิสิทธิ์ไปแล้ว แต่ชายคนนั้นเพิกเฉย...

เอกสารสรุปรายงานการสอบสวนของคอป.ที่นายอภิสิทธิ์เป็นคนตั้ง และสรุปเสนอต่อนายอภิสิทธิ์นั้น ไม่มีตอนใดเลยกล่าวถึงชายชุดดำว่าเป็นผู้สังหารเหยื่อ 10 เมษายน-19 พฤษภาคม 2553 แต่ได้ระบุชัดเจนว่า จากการตรวจสอบจนถึงขณะทำรายงานนี้พบว่าอย่างน้อย 13 ราย เกิดจาก การกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ แต่ก็ไม่มั่นใจระบบสอบสวนว่าถูกผู้มีอำนาจแทรกแซงหรือไม่เพราะไม่เคยมีการ ดำเนินคดีจึงควรนำทหารขึ้นศาลโดยเร็ว ส่วนDSIนั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลขาดความเป็นกลาง ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง และศาลก็ไม่เข้าใจสถานการณ์จึงไม่ยอมให้ประกันตัว

แล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังจะรอฟังผลสอบสวนอะไรอีกนานเท่าไหร่ ในเมื่อคอป.เคยมีข้อเสนอแล้วคือให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาก่อน ในระหว่างมีการพิจารณาคดี ที่สำคัญได้คัดค้านการนิรโทษกรรม(อ่านรายงานละเอียดด้านบน)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
7 กรกฎาคม 2554

1.เป็นที่ทราบกันดีว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เคยยอมรับแม้สักครั้งเดียวว่า ทหารภายใต้คำสั่งศอฉ.ที่เขารับผิดชอบสูงสุดเป็นผู้สังหารผู้ชุมนุมใน เหตุการณ์ 10 เมษายน -19 พฤษภาคม (ดูจากบันทึกเฟซบุ๊คทั้ง 8 ฉบับของ เขา และคำปราศรัยที่ราชประสงค์ 23 มิถุนายน 2554)และได้โยนให้ชายชุดดำเป็นผู้รับผิดชอบต่อการสังหาร แต่ก็ไม่เคยปรากฎความคืบหน้าว่ามีการดำเนินคดีต่อชายชุดดำ

2.เอ่ยปากครั้งแรก"เสียใจ"แต่ไร้คำขอโทษ โยนให้เหยื่อสังหารโดนลูกหลง

ต่อ มาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นางคำจันทร์ แสงจันทร์ ชาวบ้าน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ แม่ของเหยื่อ 1 ใน 92 ศพ ร่ำไห้เข้าสอบถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ระหว่างไปหาเสียงใกล้บ้าน ว่าใครกันแน่ฆ่าลูกชาย ? โดยที่นายอภิสิทธิ์เอ่ยคำว่า"เสียใจ"เป็นครั้งแรกต่อเหยื่อสังหาร แต่ยังไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบ โดยอ้างว่าคงตายเพราะโดนลูกหลง

หนังสือพิมพ์ ข่าวสดรายงานคำพูดของนายอภิสิทธิ์ที่พูดกับแม่ของเหยื่อสังหารว่า

"ความจริงผมได้อ่านรายงานอยู่ แต่ไม่มีโอกาสได้มาพบ ใจของผมจริงๆ อยากมาพบ แต่ส่วนใหญ่จะมีปัญหา เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงเขาก็ไม่อยากให้พบ เพราะเขามีปัญหากับผม มาวันนี้ก็ขอแสดงความเสียใจ ยืนยันได้ว่าสำหรับผมและรัฐบาล มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำ ให้คนไทยด้วยกันต้องมาเสียชีวิต เท่าที่ฟังผู้ตายน่าจะโดนลูกหลงมากกว่า เพราะ อาศัยอยู่ที่บ่อนไก่ ผมจะติดตามและเร่งรัด แต่จะให้ผมไปยุ่งกับการสอบมากไม่ได้ เพราะเดี๋ยวก็จะมากล่าว หาผมว่าไปสั่งอีกก็จะทำให้มันยาก แต่รับปากว่าจะตามเรื่องให้ เพราะเรื่องนี้ต้องค้นหาความจริงต่อเนื่องต่อไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

3.รายงานจากคอป.ซึ่งอภิสิทธิ์เป็นคนตั้งระบุอย่างน้อย13ศพฝีมือเจ้าหน้าที่ ไม่มีตอนไหนเอ่ยว่าเป็นฝีมือชายชุดดำ

รายงานอะไร? ที่นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าเขาได้อ่านอยู่

หนังสือเรียนนายกรัฐมนตรี เรื่องรายงานความคืบหน้า 6 เดือนแรก

คงจะเป็นรายงานของ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาข้อความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)ที่ศ.คณิต ณ นคร เป็นประธาน และคอป.นี้นายอภิสิทธิ์แต่งตั้งมากับมือ ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ที่คอป.284/2554ถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 เมษายน 2554 รายงานความคืบหน้าของการสอบสวน

รายงานฉบับนี้(อ่านรายละเอียดหนังสือที่คอป.ส่งถึงนายกฯอภิสิทธิ์และรายละเอียดผลการสอบสวนที่ลิ้งค์ http://www.thaitruthcommission.org/thaitruth/Pages/result.aspx)

รายงานความคืบหน้า คอป ครั้งที่ 1

สาระสำคัญคือ คอป.รายงานเอกสารชุดนี้มีความยาว 134 หน้า ที่สำคัญคือหัวข้อที่3.4.4 ในหน้า 14 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่ตรวจพบเบื้องต้นในขณะนี้คือ

(๑) มียอดผู้เสียชีวิตรวม ๙๒ ราย๑๓ โดยเสียชีวิตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ๘๙ ราย เสียชีวิตที่จังหวัดอุดรธานี ๒ ราย และเสียชีวิตที่จังหวัดขอนแก่นอีก ๑ ราย

(๒) จากการตรวจสอบจนถึงขณะทำรายงานนี้พบว่าอย่างน้อย ๑๓ ราย เกิดจาก การกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ซึ่งข้อนี้ตรงกับการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ในเอกสารของคอป.ที่นายอภิสิทธิ์เป็นคนตั้ง และสรุปเสนอต่อนายอภิสิทธิ์เมื่อ 20 เมษายน 2554 ไม่มีตอนใดเลยกล่าวถึงชายชุดดำว่าเป็นผู้สังหารเหยื่อ10เมษายน-19พฤษภาคม 2553

ชี้รัฐแทรกแซงทั้งที่ชัดเจนทหารฆ่าแต่ยังไม่เคยดำเนินคดี

ตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นที่นําไปสู่ความไม่มั่นใจในระบบการสอบ สวนว่าถูกแทรกแซงจากผู้มีอํานาจหรือไม่ ได้แก่ปัญหาจากกรณีที ่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๓ ราย มีข้อสงสัยว่าน่าจะเกิดจากการกระทําของเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าปฏิบัติการตาม หน่าที่ แต่ยังไม่ปรากฏว่าได้มีการไต่สวนเป็นคดีวิสามัญฆาตกรรมและดําเนินการให้เป็น ไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๐ วรรคสาม สี่ และห้า หน่วยงานที่เกี่่ยวข้อง จึงควรดําเนินการให้สอดคล้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอย่างเคร่ง ครัดโดยเร็ว เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย รวมทั งเจ้าหน้าที่แสดงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในศาล -รายงานสรุปถึงนายกรัฐมนตรีระยุในตอนหนึ่ง

เร่งปล่อยตัวผู้ต้องหา ชี้ศาลไม่เข้าใจสถานการณ์ เลยไม่ยอมให้ประกัน

คอป.ระบุในรายงานเหมือนที่เคยทำข้อเสนอต่อนายอภิสิทธิ์มาแล้วคือให้ปล่อยตัว ผู้ต้องหาชั่วคราว ซึ่งจนบัดนี้ศาลก็ไม่ปล่อยตัว แม้มีความพยายามยื่นประกันหลายรอบแล้ว ในรายงานสรุปจึงชี้ว่า
คอ ป.เห็นว่ารัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกํากับควบคุมการใช้อํานาจรัฐ ทุกฝ่ายพึงใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาด้วยความระมัดระวัง ไม่ตั้งข้อหากับ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการชุมนุมรุนแรงเกินสมควร ควรให้ความสําคัญกับการคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของทุกฝ่าย ให้โอกาสในการต่อสู้คดีและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ต้องหา ซึ่่งต้องได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ ์และส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะศาลยุติธรรมได้รับข้อมูลที่ครบ ถ้วนและเป็นกลางเพื่อให้สามารถเข้าใจสถานการณ์ในภาพรวมได้อย่างรอบด้าน และมีข้อมูลที่เพียงพอในการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ระบุDSIมีปัญหาเรื่องวางตัวไม่เป็นกลาง เป็นเครื่องมือรัฐบาลมาร์ค


คอป.ระบุด้วยว่า
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ได้แก่สํานักงานตํารวจแห่งชาติและกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต้องแสดงความเป็นกลางโดยยึดถือหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังที่่จะไม่ทําให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นเครื่องมือของรัฐซึ่ง เป็นส่วนหนึ งของความขัดแย้ง

สรุปว่า นายอภิสิทธิ์ต้องเคยได้อ่านรายงานฉบับนี้ แล้วทำไมยังมาแก้ตัวโยนความผิดให้ชายชุดดำ มีเพียงแค่คำ ว่า"เสียใจ" แต่ยังไม่มีคำขอโทษใดๆ แบบนี้ไม่ใจจืดใจดำไปหน่อยหรือ?

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ควรฟัง คอป.ค้านนิรโทษกรรม เพราะไม่เกิดบทเรียน

ส่วนการที่รัฐบาลใหม่ของยิ่งลักษณ์บอกว่าจะให้คอป.ดำเนินการต่อไป และแสดงท่าทีว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยการนิรโทษกรรมนั้น คอป.สรุปเสนอแนะไว้ว่า

การเสนอให้มีการนิรโทษกรรมผู้เกี่ยวข้องในสถานการณ์ความรุนแรง ทั้งๆที่่เกิดความสูญเสียอย่างมากมายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน การดําเนินการกับผู้ชุมนุมโดยใช้กระบวนการทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทาง อาญาอย่างเคร่งครัดโดยไม่คํานึงถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่นํามาสู่ปัญหา การชุมนุมก็ดี ล้วนมิใช่แนวทาง ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างยั ่งยืน

คอป.เห็นว่าแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง คือการที่สังคมทราบความจริงถึงสภาพปัญหาที่ทําให้ประเทศของเราก้วมาถึงจุด นี้ และเรียนรู้ที่จะแสวงหาทางออกในการแก้ปัญหาร่วมกัน จากประสบการณ์ของประเทศที่เกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่ที่นํามาสู่ความรุนแรงใน ลักษณะเช่นนี้ จะให้ความสําคัญกับการนําเอา หลักความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional justice) มาใช้เป็นกลไกเสริมกระบวนการยุติธรรมกระแสหลักซึ่่งมีข้อจํากัดในการจัดการ กับปัญหาความขัดแย้งที ่มีลักษณะพิเศษเช่นนี้้

4.เอกสารทหาร2ฉบับมัดมาร์คแน่น โฆษณาชวนเชื่อขอใบอนุญาตฆ่า91ศพ รบเต็มอัตรากระสุนจริง-Sniper

นอก จากรายงานของคณะกรรมการที่อิสระเป็นกลาง(แต่นายอภิสิทธิ์เป็นคนตั้ง)อย่างคอ ป.แล้ว ลองอ่านเอกสาร 2 ฉบับของฝ่ายทหาร ก็จะแจ่มชัดขึ้น


เอกสารฉบับที่ 1 การปฏิบัติการข่าวสารโฆษณาชวนเชื่อเพื่อออกใบอนุญาตฆ่า

ทำไมการสลายการชุมนุมคราวนี้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก และสื่อกระแสหลักนำเสนอแต่ภาพเผาบ้านเผาเมือง ไฟไหม้ห้าง เผาโรงหนังสยาม(และคำบ่นว่า พวกเสื้อแดงเลวสมควรตาย)

คำตอบก็คือเพราะการทำโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลและทหารได้ผลมีประสิทธิภาพ ดังรายงานดังต่อไปนี้จากฝ่ายทหารเอวง
พ.อ.บุญ รอด ศรีสมบัติ จากสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง เขียนเปิดเผยปฏิบัติการข่าวสารของทหาร(IO)ช่วงนปช.ชุมนุม มี.ค.-พ.ค.2553 ว่า มีปฏิบัติการสำคัญคือ มุ่งทำให้ทีวีเสื้อแดงจอมืด ปิดเวบไซต์-วิทยุชุมชน เพิ่มความน่าสะพรึงกลัวชายชุดดำแฝงในที่ชุมนุม สร้างผังล้มเจ้าเชื่อมโยงผู้ชุมนุม ตัดต่อคลิปแกนนำมาเรียงภาพใหม่ว่าชี้นำให้เผาบ้านเผาเมือง ชี้ให้สังคมเห็นว่า สถานการณ์สุกงอมที่ต้องจัดการด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาด สุดท้ายคือหาอาวุธมาแสดงว่ายึดได้จากผู้ชุมนุม และชี้ว่าทหารไม่มีการสังหารประชาชน

ผลสำเร็จคือประชาชนและสังคมสนับสนุนรัฐบาลให้ดำเนินมาตรการเฉียบขาดในการ จัดการต่อผู้ชุมนุมในที่สุด หลังการดำเนินการยังมีมีสาวๆกรี๊ดกร๊าดพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ตามเฟซบุ๊คว่าเป็น"ผู้ก่อการรัก"
โดยมีการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารเสนาธิปัตย์ ปีที่ ๖๐ ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๔ ( คลิ้กลิ้งค์เพื่ออ่านรายละเอียดต้นฉบับที่สมบูรณ์ http://www.cdsd-rta.net/images/stories/valasan/valasan%20y60%20b1%202554/AW-SP-69-81.pdf )

AW-SP-69-81

เอกสารฉบับที่ 2 ยุทธการกระชับวงล้อม 14-19 พ.ค.53 "มาร์ค"สั่งกระชับวงล้อมเพื่อ"ยุติ"ไม่ใช่"เจรจา" ยอมรับใช้กระสุนจริง และพลซุ่มยิงสไนเปอร์ รบเต็มอัตราศึก

บทความชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสารเสนาธิปัตย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก ปีที่ 59 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2553 เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อประกอบการจัดทำ”เอกสารแนวทางในการปฏิบัติทาง ทหาร: กรณีศึกษาการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในเมือง” จากความริเริ่มของพล.ท.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เพื่อกำหนดบทบาทของกองทัพบกในการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบในเมืองรูปแบบใหม่
วารสารเสนาธิปัตย์ ฉบับที่ตีพิมพ์เรื่องนี้ ท่านสามารถอ่านบทความต้นฉบับนี้ได้ที่ลิ้งค์ http://www.cdsd-rta.net/images/stories/valasan/valasan%20y59%20b3%20year2553/lesson7.pdf

Lesson 7

โดยมีใจความสำคัญระบุตอนหนึ่งว่า

นโยบายรัฐบาลชัดเจนมาตลอดที่จะใช้มาตรการทางทหารกดดันม็อบกลุ่ม นปช. ความชัดเจนก็คือนโยบายกระชับวงล้อม เพื่อการยุติ การชุมนุมไม่ใช้การกระชับวงล้อมเพื่อเปิดการเจรจา ..และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุม ศอฉ.ในวันที่ 12 พฤษภาคม ให้ฝ่ายทหารเริ่มต้นปฏิบัติการตามแผนยุทธการที่ได้วางไว้

ยุทธการกระชับวงล้อมเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เป็นการปฏิบัติทางทหารเต็มรูปแบบ จึงเห็นได้ว่าภารกิจชัดเจน คือการกระชับวงล้อมด้วยกระสุนจริง จากกำลังหน่วยรบหลักของเหล่าทหารราบ เหล่าทหารม้า และหน่วยส่งกำลังทางอากาศ อย่างเช่น ร.31 รอ.ในภารกิจปฏิบัติการพิเศษ อาจเรียกได้ว่าเป็นการรบในเมืองที่ใช้อาวุธยุทธโธปกรณ์ทางทหารเต็มอัตราศึก ทั้งกำลัง อาวุธประจำกายที่ทันสมัย ชุดสไนปอร์ หน่วยยานเกราะ ซึ่งการปรับกำลังและการเปลี่ยนแปลงทางยุทธวิธีที่สำคัญครั้งนี้ก็เป็นผล สะท้อนจากบทเรียนเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ.2553 นั่นเอง

ควรมีการศึกษาค้นหาตัวแบบที่เหมาะสมในการกำหนดพื้นที่ที่ใช้กระสุนจริง เพราะปัจจุบันยังไม่ทราบว่ามีประเทศใดในระดับนานาชาติที่ได้นำมาปฏิบัติใน การสลายการชุมนุมที่ได้รับการยอมรับ
**********
พึงระลึกว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุม ศอฉ.ในวันที่ 12 พฤษภาคม ให้ฝ่ายทหารเริ่มต้นปฏิบัติการตามแผนยุทธการที่ได้วางไว้ วันรุ่งขึ้นเกิดเหตุการณ์สไนเปอร์สังหารเสธ.แดง และการสังหารที่ชุมชนบ่อนไก่ และขยายวงลุกลามมาจบที่ 19 พฤษภาคม 2553

รายงานเชิงสอบสวน(Investigative news)ของไทยอีนิวส์ฉบับนี้ ไม่ขอจบลงด้วยบทสรุป หรือคำถามใดๆ ในเมื่อความจริงแต่ละบันทัด ชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้ว
********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

"ไก่อู"แสลงใจ91ศพห่วงโยนบาปทหารฆ่า-ยันชุดดำมีตัวตนจริง

-ข้อมูลมัดแน่นสังหารหมู่10เมษา-19พฤษภา ใครฆ่าเสธ.แดง ใครเหี้ย..มสังหารหมู่วัดปทุม ใครเผาCTW?



-เปิดคลิปจตุพรอภิปรายเอกสารลับDSIใครต้องรับผิดชอบความตาย 91 ศพ

-น้ำตาจรเข้เทพเทือกแหลที่ราชประสงค์ ผมเป็นคนสั่งการเองไม่เกี่ยวกับอภิสิทธิ์ หากผิดมาเอาผมเข้าคุกคนเดียว

-คลิป รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ศูนย์สิทธิมนุษยชน ม.มหิดล วิเคราะห์1 ปี ความยุติธรรมที่หายไป