โดย จรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
5 กรกฎาคม 2554
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่๓ กรกฎาคม ๒๕๑๑ ผ่านไปด้วยดี ประชาชนไทยไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างคึกคัก มีจำนวนมากถึง ๗๔ เปอร์เช็นต์ และผลของการเลือกตั้งไปเป็นตามความคาดหมาย พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งจำนวน ๒๖๕ คน เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นับเป็นเสียงข้างมากอย่างสัมบูรณ์( absolute majority)
ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนเจตนารมณ์ทั่วไปของประชาชนคนไทยที่ต้องการ ให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย อันเป็นสิทธิกำหนดใจตนเอง ( right to self determination ) ของพลเมืองไทย และสะท้อนความก้าวหน้าทางสังคมการเมืองที่ยอมรับผู้นำสตรี และที่สำคัญ แสดงว่าประชาชนไทยไม่ต้องการฝ่ายเผด็จการ ไม่ต้องการอำมาตยาธิปไตย โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่มือเปื้อนเลือดจากการสังหารหมู่เมื่อเดือนเมษายนและพฤษภาคม ปีที่แล้ว มีคนเสียชีวิต ๙๑ ค น บาดเจ็บเกือบ๒๐๐๐ คน พรรคนี้จึงได้รับเลือกตั้งเพียง๑๖๐ คน
ก่อนและหลังการเลือกตั้ง ผู้คนทั้งหลายวิตกกังวลว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงข้างมาก แต่จัดตั้งรัฐบาลลำบาก ด้หากตั้งรัฐบาลได้ ก็บริหารประเทศไม่นาน จะมีฝ่ายจงรักภักดี อำมาตยาธิปไตย อาทิ ขบวนการต่อต้านทักษิณ พันธมิตรเสื้อเหลือง สื่อมวลชน คนชั้นกลางและกองทัพฯลฯ คอยต่อต้าน เป็นอุปสรรคขัดขวาง
ทว่า เมื่อผลเลือกตั้งออกมาดังกล่าว และพรรคเพื่อไทยเชิญชวนพรรคอื่นอีก๔ พรรคมาร่วม ซึ่งแสดงถึงความใจกว้างทางการเมือง และแนวทางสามัคคีปรองดอง ทำให้ให้รัฐบาลมีเสียงในสภาจำนวนมากยิ่งขึ้น เพิ่มความชอบธรรมทางการเมือง การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยคงจะราบรื่น
อย่างไรก็ตาม วิกฤติทางการเมืองที่ดำรงอยู่มากว่า๕ ปี และฝ่ายที่ไม่เชื่อระบอบประชาธิปไตย ดูถูกพรรคและนักการเมือง ไม่เอาการเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนชั้นสูงและชนชั้นกลางบน คงไม่ยอมรับและเคารพการตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ผู้เป็นเจ้าของอำนาจ อธิปไตย ย่อมจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ทางการเมืองจากการเลือกตั้งทั่วไป พวกเขาจะเตรียมผนึกกำลังและเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทุกวิถีทาง สันติและรุนแรง เปิดเผยและลับ กระทั่งเรียกร้องรัฐประหาร ดังนั้น ข้าพเจ้าขอเรียกร้องประชาคมโลกให้สนใจติดตามสถานการณ์ในประเทศไทย เฉพาะหน้า ขอให้สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ภาคภาษาอังกฤษ
The Results of July 3rd Election--- A Victory for Thai Democracy
The general election on July 3, 2011 went well. Thai people as many as 75-percent went to the poll with enthusiasm, and the result was in line with expectations. The Pheu Thai Party won the election with 265 MPs that is more than half of the total MPs. It is an absolute majority.
The results of this election reflect the general will of Thai people who want Pheu Thai Party to form the government, and Ms. Yingluk Shinawatra as the first female Thai Prime Minister. This is the rights to self-determination of the Thai citizen echoing the social and political progress of Thai society in accepting female leadership. More importantly, it shows the Thai people do not want any more dictatorship and aristocracy, especially from the Democrat Party whose hands are bloody from the April and May massacres that killed 91 and injured nearly 2000 people. The Democrat won only 160 MPs.
Before and after the election, many were concerned that although Pheu Thai Party may be the party to a majority, they will have difficulty in forming the government; or if it could, it will not allow to govern for a long periods of time. Royalists, Aristocrats and wannabe such as anti-Thaksin forces PAD Yellow shirts, some sector of the press, some middle class, and the armed forces etc. will resist and obstruct.
When the results of the election came out showing Pheu Thai Party won the solid majority, it still invited four other political parties to join in forming a coalition government. This shows political openness. In addition, the specific direction for unity and reconciliation advocates by Pheu Thai encourages other to join. This raises the number of MPs; hence enhance political legitimacy. The forming of the government by Pheu Thai party ought to be smooth.
However, the political crisis that existed for more than five years, couple with parties that do not believe in democracy, that look down upon political parties and politicians, that do not believe in electoral process, which include people in high society, some middle class, probably will not accept nor respect the will of the people, who are sovereign. They will not accept defeat from this general election. They will join forces and will move against the government in any way---peaceful or violent, open or clandestine, even calling for a coup.
Therefore, I urge the international community to monitor the situation in Thailand. In this first stage, support the forming of government by the party that won the election.
Jaran Ditapichai
Former National Human Rights Commissioner
******
รวมภาพพลพรรคแดงเริงร่าฉลองชัยทั่วไทยทั่วโลก
จุดพลุฉลองชัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหลังทราบผลเลือกตั้ง3ก.ค.
จุดพลุฉลอง-คนเสื้อแดงนัดหมายฉลองชัยทั่ว ทั้งโลก โดยในต่างประเทศมีนัดหมายรวมพลลุ้นผลเลือกตั้งนับจากเวลาเที่ยงวันที่หลาย รัฐในอเมริกา ที่ยุโรปรวมตัวกันที่เยอรมนี ส่วนในไทยมีนัดหมายกันที่ทำการพรรคเพื่อไทย และฉลองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงค่ำ รวมทั้งอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ เชียงใหม่ และทุกพื้นที่ทั่วไทย
เชียงใหม่ฉลองสุดเหวี่ยง
บรรยากาศเฉลิมฉลองชัยชนะของคนเสื้อแดงเชียงใหม่ที่อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์
CHICAGO ,USA
ภาพ ชาวไทยในชิคาโก้ มลรัฐอิลลินอยส์ได้ออกมมาร่วมกันเฉลิมฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยแจ้งว่า เราชาวเสื้อแดงและผู้ร้กประชาธิปไตยยังคิดถึงพี่น้องของเราอีกจำนวนมากที่ ยังรอความยุติธรรมอยู่ในเรือนจำ และอีกจำนวนมากที่ได้รับความบาดเจ็บล้มตาย
"แม้ว่าวันนี้พวกเราจะเฉลิมฉลอง แต่งานของผู้รักประชาธิปไตยยังต้องดำรงต่อไป เราจะต้องทำการรณรงค์ให้ปลดปล่อยนักโทษการเมื่องทั้งหมด คนเสื้อแดงจงสามัคคีกัน"
LA+SANDIEGO,USA.
พลพรรคเสื้อแดงปิดร้านฉลองชัยที่แอลเอ และฉลองยาวต่อในวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎา
จยย.แดงชูธงนปช. พกตีนตบขี่เย้ยหน้าปชป.
หนังสือพิมพ์ข่าวสด รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ได้แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเดินทางกลับบ้านพักไปแล้ว ขณะที่บรรดาแกนนำพรรคบางส่วน เจ้าหน้าที่พรรค และสื่อมวลชนยังคงปักหลักอยู่ เพื่อรอนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคที่มีข่าวว่าจะเดินทางเข้ามา นั้น ปรากฎว่าได้มีกลุ่มจักรยานยนต์พร้อมคนซ้อนท้าย รวมประมาณ 10 คัน สวมเสื้อสีแดงและถือธงแดง นปช. ป้ายพ่นสีแดงเบอร์ 1 และตีนตบ บีบแตรเสียงดังยาวแล่นมาบนถนนเศรษฐศิริ โดยเมื่อผ่านหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนคำ ว่าเบอร์ 1 เบอร์ 1 และเมื่อเคลื่อนผ่านไปสักพักหนึ่งก็ได้ย้อนกลับมาอีกรอบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส.น.บางซื่อที่อยู่ประจำป้อม 2 นาย นั่งมองดูอยู่ด้วย