ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 23 July 2011

เช็กเสียงใครเหมาะ"ท่านประธาน"

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ รายงานพิเศษ


หาก เป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันประกาศรับรองส.ส.ให้ได้ ร้อยละ 95 เพื่อให้ทันเปิดสมัยประชุมนัดแรก ภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 1 ส.ค. นี้

ทำให้เก้าอี้ประธานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งจะทำหน้าที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถูกจับตามอง

ให้หลัง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ ระบุมีชื่ออยู่ในใจแล้ว เป็นคนที่มีประสบการณ์

อดีตรองประธานสภา ทั้ง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ที่มีชื่อขับเคี่ยวกันมาแต่ต้น ก็ยิ่งอยู่ในข่าย

ในมุมมองของเพื่อนส.ส. และส.ว. ที่ต้องทำงานร่วมกัน ยอมรับได้หรือไม่ เห็นว่าใครเหมาะสมกว่ากัน หรือเห็นว่าควรเป็นตัวเลือกอื่น



นิคม ไวยรัชพานิช

ส.ว.ฉะเชิงเทรา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1


ผมมองว่า พ.อ.อภิวันท์ มีคุณสมบัติความเหมาะสมเพียงพอกับตำแหน่งประธานรัฐสภา เพราะเป็นผู้ที่มีความเด็ดขาดและเคร่งครัดในข้อกฎระเบียบเป็นอย่างมาก

ถึงแม้จะมีความนุ่มนวลน้อยกว่านายสมศักดิ์ ซึ่งได้รับการสนับ สนุนจากส.ส.อีสานที่เคยสังกัดกลุ่มขุนค้อน ก็ตาม แต่ก็น่าจะสามารถควบคุมเกมในสภาได้ดี โดยเฉพาะในสภาวะที่เกิดความวุ่นวาย

ซึ่งนายสมศักดิ์ ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์และบททดสอบนี้ จึงไม่รู้ว่าจะสามารถทำหน้าที่ได้ดีเพียงใด แต่สำหรับพ.อ.อภิวันท์ เคยมีผลงานรองประธานสภาคนที่ 2 ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า มีการพยายามวางตัวเป็นกลาง แม้จะมีท่าทีที่อาจตกเป็นเป้าล่อต่อกรณีในฐานะนักเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อ แดงบ้างก็ตามที

ตำแหน่งประธานสภา ไม่ว่าคนใดจะได้รับเลือก หรือจะวางตัวเป็นกลางหรือไม่ กฎระเบียบก็บังคับควบคุมอยู่ และหากเป็นเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม ส.ส.ให้การยอมรับแล้ว ทุกคนก็ควรเคารพในความคิดเห็น

คุณสมบัติความพร้อมของประธานสภา ต้องมีบุคลิกภาพที่ดี พร้อมด้วยวัยวุฒิ และมีความคิด ความหนักแน่นในกฎระเบียบข้อบังคับการประชุม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงการสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีได้ นอกจากนี้ ก็ควรสามารถที่จะติดต่อสื่อสารกับนานาประเทศ เป็นตัวแทนในนามสภาไทยในเวทีโลกได้อีกด้วย

ส่วนรองประธานสภาที่คาดว่าจะเป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นคนใดก็รู้สึกยินดี และสนับสนุนที่จะเห็นระบบการทำงานของสภาไทยมีสีสันความนุ่มนวลมากขึ้น เช่นเดียวกับที่วุฒิสภาก็มีรองประธานวุฒิสภาที่เป็นผู้หญิงเช่นเดียวกัน



วิทยา แก้วภราดัย

อดีตประธานวิปรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์


ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภา เป็นใครก็ได้ที่ยึดตามข้อบังคับและเดินตามแนวข้อบังคับอย่างเคร่งคัด และต้องรู้ตัวว่าการเป็นประธานสภาหมายถึงความเป็นกลางและเป็นบุคคลของสภา ลดทิฐิความเป็นตัวตนที่พรรคตัวเองสังกัดอยู่ แค่นั้นก็ทำได้แล้ว

ส่วนชื่อของ พ.อ.อภิวันท์และนายสมศักดิ์ ทั้ง 2 ท่านมีประสบการณ์ทั้งคู่ แต่อยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะตัดสินมอบหมายหน้าที่นี้ให้ใคร แต่เวลาเป็นแล้วต้องไม่เป็นคนของพรรค ผมจึงมองว่าคงเป็นได้พอๆ กันทั้ง 2 ท่าน

แต่ที่ผ่านมา พ.อ.อภิวันท์ แม้จะแม่นข้อบังคับการประชุม แต่อาจมีกิจกรรมนอกสภามากเกินไปถือว่าไม่เหมาะสม ดังนั้น หากจะมาเป็นประธานสภา ก็ต้องลดกิจกรรมนอกระบบลง เพราะถือเป็นตัวแทนของสภา

ส่วนนายสมศักดิ์ ก็เคยทำหน้าที่รองประธานสภา มาก่อน มีความเป็นกลาง เป็นตัวของตัวเองดีอยู่ แต่สุดท้ายแล้วจะเป็นใครมาเป็นประธานสภา ก็อยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะให้ใครมาเป็น



วิชาญ มีนชัยนันท์

ส.ส.กทม. ประธานภาคกทม. เพื่อไทย


ผมไม่ทราบว่าแคนดิเดตประธานสภา มีใครบ้าง ที่มีชื่อระหว่างนายสมศักดิ์ กับ พ.อ.อภิวันท์ ให้น้ำหนักการทำงานไม่ต่างกัน เพราะต่างก็ตั้งใจทำงาน แต่สุดท้ายคนที่ตัดสินใจคือว่าที่นายกฯ

ส่วนที่มองว่านายสมศักดิ์ มีความเหมาะสมและมีภาพความเป็นกลาง ขณะที่พ.อ.อภิวันท์ ถูกมองว่าอาจมีการเอนเอียงไปบ้างเพราะไปมีบทบาทในฐานะแกนนำคนเสื้อแดงนั้น ผมไม่อยากให้ไปตัดสินแค่ความเป็นกลาง ไม่เป็นกลาง ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน

แต่ต้องมองเรื่องการทำงานและประสานกับกลุ่มต่างๆ

สำหรับส.ส.ภาคกทม. ไม่ว่าพรรคจะเสนอชื่อใครก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ในฐานะของตัวเองให้ดีที่สุด



อิทธิเดช แก้วหลวง

ส.ส.เชียงราย เพื่อไทย แกนนำกลุ่มวังบัวบาน


ไม่ว่าคณะกรรมการบริหารของพรรคจะเสนอใครขึ้นมา ส.ส.เหนือก็คงไม่ขัดข้อง แต่ถ้าถามความเห็นส.ส.เหนือ ก็ยังให้การสนับสนุนนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย

ขณะรายชื่อแคนดิเดตที่ปรากฏหน้าสื่อทั้งนายสมศักดิ์ และพ.อ.อภิวันท์ นั้น คงให้น้ำหนักความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่พอกัน เพราะทั้ง 2 คน ถือว่ามีประสบการณ์ในการทำงานในสภา มาก่อนเช่นเดียวกัน

แต่ส่วนตัวมองว่าภาพการทำงานของนายสมศักดิ์ ค่อนข้างมีความเป็นกลาง สามารถทำหน้าที่ประสานได้ทุกฝ่าย และเป็นตัวแทน ของส.ส. อีสาน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุด

ขณะที่บุคลิกของ พ.อ.อภิวันท์ เห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะทำงานอย่างอื่นในฝ่ายบริหารน่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจขึ้นอยู่กับว่าที่นายกรัฐมนตรี ว่าจะเลือกใคร



ดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี

คนที่จะมาเป็นประธานสภา คนใหม่ ในความเห็นส่วนตัว ต้องมีความอดทน ใจต้องเย็นเป็นที่ตั้ง ที่สำคัญต้องมีความเป็นกลาง การวินิจฉัยต้องไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง คุณสมบัติตรงนี้จึงจะเป็นที่ยอมรับกับทุกฝ่าย

ส่วนกระแสข่าวที่มีการเสนอแคนดิเดต 2 คน ทั้งพ.อ.อภิวันท� และ นายสมศักดิ์ ที่เป็นตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวผมมองว่า บุคคลทั้ง 2 สามารถเป็นประธานสภา ได้ ไม่มีปัญหา เพราะทั้งคู่ก็ล้วนเป็นบุคคลที่มีความรู้ มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ไม่น่ามีปัญหาอะไร

แต่ในส่วนของ พ.อ.อภิวันท์ อาจมีปัญหาบ้าง เนื่องจากข้องเกี่ยวกับการเป็นแกนนำคนเสื้อแดง อาจเกิดข้อครหาขึ้นได้ แต่จุดเด่นของพ.อ.อภิวันท� คือ คนที่นิ่ง สุขุมและใจเย็น

ขณะที่นายสมศักดิ์ แม้ไม่มีข้อครหาเรื่องเสื้อแดง แต่ติดที่อาจเป็นคนใจร้อนไปหน่อยเท่านั้น

ส่วนตัวมองว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ นายสมศักดิ์ น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ