ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Friday, 22 July 2011

′นิ่ง′

ที่มา มติชน



โดย ปราปต์ บุนปาน

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2554)

การเมืองไทยปลอดโปร่งไปอีกเปลาะหนึ่ง

ภายหลัง กกต. มีมติรับรอง ส.ส. เพิ่มขึ้นอีก 12 คน เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยใน 12 คนนั้น ก็มีรายชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีแนวโน้มจะกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นว่าที่ผู้นำฝ่ายค้าน

รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย และว่าที่นายกรัฐมนตรี รวมอยู่ด้วย

หลังจากนี้ คงต้องจับตามองต่อไปว่า กกต.จะรับรอง ส.ส.ได้ถึงร้อยละ 95 หรือ 475 คน

เพื่อให้มีการเปิดสภาผู้แทนราษฎร เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร/รัฐสภา และเลือกนายกรัฐมนตรี ได้เมื่อไร?

และ 12 แกนนำ นปช. หรือนักการเมืองระดับนำรายอื่นๆ จะได้รับการรับรองให้เป็น ส.ส. ด้วยหรือไม่? ถ้าไม่ จะส่งผลอย่างไรต่อสภาพการเมืองไทยโดยรวม?

แต่อย่างน้อย ดูเหมือนการเมืองไทยกำลังมีเค้าลางว่าจะดำเนินไปอย่างเข้าที่เข้าทางตามระบบระบอบมากยิ่งขึ้น

ส่งผลให้ผู้คนในสังคมมีอาการวิตกกังวลน้อยลง เกี่ยวกับ "อำนาจนอกระบบ" หรือ "มือที่มองไม่เห็น"

ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางกระบวนการประกาศรับรอง ส.ส. ที่ยังไม่เสร็จสิ้น

ผสาน กับบรรยากาศฝุ่นตลบของการกะเก็งรายชื่อ ครม. ชุดใหม่, การตั้งวงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายที่ยังไม่ทันได้ลงมือปฏิบัติของว่าที่รัฐบาล และการลุ้นว่าจะเกิด "อุบัติเหตุทางการเมือง" ขึ้นอีกหรือไม่

มีหลายคนเป็นห่วงเรื่อง "ความไม่นิ่ง" ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

ซึ่งบางฝ่ายเห็นว่า ดีไม่ดีอาจเป็นแรงกระหน่ำซ้ำเติมให้รัฐบาลชุดใหม่ต้องผจญปัญหาหนักหนาสาหัสมากขึ้น

ทว่า หากมองในทางกลับกัน พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นนักการเมืองธรรมดาทั่วๆ ไปคนหนึ่ง

ซึ่งไม่เคยมีอาการ "นิ่ง" มาแต่ไหนแต่ไร แต่มักหลุดอาการต่างๆ นานา หรือคิดอะไรก็เผลอพูดออกมา แบบไม่ค่อยอ้อมค้อมอยู่เสมอ

เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่อาจสลัดพ้น "เงาทักษิณ" อดีตนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเหมือน "ค่าเสื่อมราคา" ของรัฐบาลชุดใหม่โดยปริยาย

ไม่ใช่ปัจจัยเร่งให้รัฐบาลเพื่อไทยพังเร็วขึ้นแต่อย่างใด

กลุ่มคนที่เล่นการเมืองแบบ "นิ่งๆ" "เงียบเชียบ" และ "ไม่เปิดหน้า" ต่างหาก ที่เป็นปัจจัยคุกคามอันน่ากลัวสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ มากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ

อย่างไรก็ตาม สัญญาณจาก กกต.อาจแสดงให้เห็นว่า การเมืองไทยน่าจะเดินหน้าไปสู่ความมีเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้นบ้าง

และคงถึงเวลาที่กลุ่มการเมืองซึ่งมักเล่นการเมืองแบบ "นิ่งๆ" ควรจะกลับเข้าที่ทางอย่าง "สงบนิ่ง" จริงๆ เสียที

เพื่อหลีกทางให้พรรคการเมืองที่ได้รับเสียงข้างมากจากประชาชน มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาล

เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เป็นผู้ตรวจสอบและตัดสินชะตากรรมของรัฐบาลที่เสียงส่วนใหญ่ของพวกเขาเลือกเข้ามาด้วยตัวเอง