ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 30 July 2011

คนนอกพรรคในมือ "ทักษิณ" โควตากลาง ครม. "ยิ่งลักษณ์" ศก.-ความมั่นคง ปูพรมทักษิณกลับบ้านราบรื่น ??

ที่มา มติชน





ระหว่างที่แกนนำตัวจริง ทั้งในตึกชินวัตร กำหนดสคริปต์สำหรับแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

กลุ่ม ก๊วน มุ้ง ทั้งภาคเหนือ อีสานในพรรค ต่างวิ่งต่อรองเก้าอี้เสนาบดีในช่วงโค้งสุดท้ายกันอย่างดุเดือด จนทำให้โผคณะรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์ 1" เปลี่ยน ไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา

เพราะดัชนี-ภาพลักษณ์ "ครม." จะเป็นตัวเปิดทางปูพรมให้ "ทักษิณ" กลับบ้านได้ราบรื่นขึ้น

ดังนั้น โควตารัฐมนตรีอย่างน้อย 4-5 คนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ-ความมั่นคง จึงถูกส่งสัญญาณว่าเป็น "โควตากลาง" ของ "ทักษิณ"

ด้วยการ "กัน" โควตารัฐมนตรีเกรดเอบางกระทรวงให้พ้นจากการวิ่งเต้น-ต่อรองของบรรดากลุ่มก๊วน

โควตา แรก กระทรวงการต่างประเทศ คือ "วิกรม คุ้มไพโรจน์" อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ ซึ่งมีบทบาทช่วยเหลือ "ทักษิณ" เมื่อครั้งลี้ภัยการเมืองและยังเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ "ทักษิณ" ฮุบสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้สำเร็จ

รายที่ 2 "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่คาดว่าจะมาใช้ชั้นเชิงด้านเศรษฐศาสตร์เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของ เศรษฐกิจโลก

เผือกร้อนรอโยนเข้ามือ รมว.ต่างประเทศคนใหม่ มีทั้งสาง-สานประโยชน์ด้านการต่างประเทศให้กับ "ทักษิณ" พ่วงด้วยการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ที่ "กระทรวงมหาดไทย" เวลานี้ตามโผล่าสุดมีชื่อของ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" หัวหน้าพรรค อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย รั้งเป็นเต็ง 1 ส่วน "พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก" ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 3 คนที่ "ทักษิณ" ไว้ใจไม่แพ้ "ยงยุทธ" เกาะกระแสตามมาเป็นเต็ง 2

เพราะ "ยิ่งลักษณ์" กับ "ทักษิณ" หนุนกันคนละคน จึงต้องลุ้นจนวินาทีสุดท้าย แต่ "บิ๊กข้าราชการมหาดไทย" สายเพื่อไทย ต่างมั่นใจเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ว่า "ยงยุทธ" จะแซงทางโค้งเบียดขึ้นนั่งเก้าอี้ "มท.1" ได้ในที่สุด

เหตุผลที่ "ยงยุทธ" ควรได้เป็นเจ้าของรหัส "มท." ตามความเห็นของแกนนำพรรค อาทิ รอบรู้ช่องทางการบริหารงานทั้งด้าน "คน" และ "งบประมาณ" เพราะในแต่ละปี "มหาดไทย" ได้งบฯกว่า 3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะ "กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น" เพียงกรมเดียว กำงบฯถึง 1 ใน 3 ของกระทรวง

จึงแน่นอนว่า "มหาดไทย" ยุค "ยิ่งลักษณ์ 1" จะใช้กลไกท้องถิ่นกดปุ่มปล่อยงบประมาณ "แสนล้าน" เพื่อเอาใจชนชั้นรากหญ้าได้สะดวกง่ายดาย

งาน เร่งด่วนอีกวาระหนึ่งที่ รมว. มหาดไทยคนใหม่จะเร่งสะสาง คือโยกย้าย สลายขั้ว ข้าราชการที่อยู่ขั้ว "ภูมิใจไทย" ให้พ้นเส้นทางอำนาจตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด

ทั้งผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด นายอำเภอ โดยเฉพาะถิ่น "อีสานใต้" ย่านจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา

ขณะ เดียวกัน ข้าราชการที่เติบโตในสาย "ทักษิณ" ถูกเด้งเข้ากรุ โดนลด ชั้น ลดบทบาท ก็มีแนวโน้มว่าจะถูก ชุบชีวิต คืนชีพในเส้นทางสายราชการ เรียงหน้าขึ้นมารับตำแหน่งสำคัญในกระทรวงอีกครั้ง

สำหรับ "กระทรวงพาณิชย์" มีชื่อ "วิรุฬ เตชะไพบูลย์" เหนียวแน่นมานาน สอดแทรกด้วยอีกหลายชื่อ ทั้ง "เผดิมชัย สะสมทรัพย์" "วัฒนา เมืองสุข"

มรสุม ในกระทรวงพาณิชย์ท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก มีทั้งผลกระทบลูกโซ่อันเกิดจากนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ผุดขึ้นเพื่อเอาใจชาวไร่ชาวนา กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน เช่น รับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท และข้าวหอมมะลิตันละ 20,000 บาท

ขณะที่ "กระทรวงการคลัง" เวลานี้เหลือแคนดิเดตเพียงชื่อเดียว คือ "วิชิต สุรพงษ์ชัย"

ชื่อ ของ "วิชิต" โด่งดังในแวดวงการเงินการธนาคารมาช้านาน เคยนั่งเก้าอี้ ผู้บริหารธนาคารมาหลายแห่ง ก่อนจะนั่งเก้าอี้ "ซีอีโอ" ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน

สำคัญที่สุดเขาเป็นกรรมการบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

โจทย์ ใหญ่ของกระทรวงการคลังหนีไม่พ้นนโยบายประชานิยมของพรรคต้นสังกัด ที่ล่าสุดทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยได้เข็น "นโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน" ทั้งบัตรเครดิตเกษตรกร บัตรเครดิตพลังงาน ขยายฐานภาษี ลดภาษีนิติบุคคล การพักหนี้ครัวเรือน อยู่ในวาระต้องทำ "ทันที"

"กระทรวงกลาโหม" ตำแหน่งนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อเสถียรภาพ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" เป็นอย่างยิ่ง

การ เฟ้นหาคนที่จะมานั่งตำแหน่ง "รมว.กลาโหม" จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แกนนำพรรคได้ยินว่า "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ต่อสายหารือกับกองทัพ เปิดโอกาสให้กำหนดสเป็ก กำหนดชื่อว่าต้องการให้ใครเข้ามากุมบังเหียนด้วยตัวเอง เพื่อให้ถูกใจ "กองทัพ" มากที่สุด

ชื่อในโผ คือ "พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 อดีตของ "ทักษิณ"

ทั้งหมดคือบทสรุป "คนนอก-คนใน" โควตากองกลางที่ "ทักษิณ" ภูมิใจนำเสนอ

..............

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 1-3ส.ค.2554 คลิกอ่านข่าวหมวดอื่นๆ