ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Friday, 29 July 2011

300 บ.เพื่อใคร?

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด



สัญญาอันดับต้นๆ ที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับปากไว้กับประชาชนตอนหาเสียงโดยเฉพาะค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

กำลังถูกจับจ้องว่าจะเป็นจริงหรือไม่

หลังจากนายกฯ ปูเข้าบริหารประเทศเต็มตัวในเร็วๆ นี้

ที่บอกว่าจะเป็นจริงหรือเปล่า ก็เพราะมีกระแสต่อต้านนโยบายนี้จากกลุ่มนายทุน

องค์กรที่ควบคุมธุรกิจและอุตสาหกรรมสำคัญๆ หยิบ ยกเหตุผลต่างๆ นานา

อ้างว่าโรงงานจะต้องปิดตัวกันระนาว

ต่างชาติจะย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านแทน

ธุรกิจเอสเอ็มอีอยู่ไม่ได้

สินค้าจะแพงหูฉี่ เศรษฐกิจจะสะดุดเพราะภาวะเงินเฟ้อ

ทั้งหมดเป็นเหตุผลของกลุ่ม "นายทุน" ที่รวมพลังออกมาบีบ "ยิ่งลักษณ์" ตั้งแต่เนิ่นๆ

ในทางกลับกัน ผู้ใช้แรงงานก็สนับสนุนค่าแรง 300 บาท

เครือ ข่ายแรงงาน ไม่ว่าจะองค์กรแรงงานระดับสภาองค์การลูกจ้าง องค์กรแรงงานระดับสหพันธ์แรงงาน กลุ่มสหภาพแรงงานย่านอุตสาหกรรมต่างๆ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านแรงงาน

เรียกร้องให้รัฐบาลใหม่เร่งทำค่าแรง 300 บาทให้เป็นจริงพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ

เพราะค่าจ้างขั้นต่ำ 215 บาทแทบจะอยู่ไม่ได้แล้ว

เมื่อเกิดความเห็นขัดแย้งระหว่างนายทุนกับกรรมกร

ก็ต้องเทียบดูตัวเลขแรงงานขั้นต่ำของไทยกับเพื่อนบ้านประกอบ

ค่าแรงกรรมกรไทยดีกว่าแค่เวียดนาม กัมพูชา และพม่าเท่านั้น

เพราะคนอินโดฯ ได้ค่าแรงวันละ 226 บาท ฟิลิปปินส์ได้ 286 บาท มาเลย์ก็ทะลุไปถึง 318 บาทแล้ว

ที่สำคัญค่าครองชีพของทั้ง 3 ประเทศก็ต่ำกว่าไทย แต่ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้กระทบ

เศรษฐกิจก็ยังขับเคลื่อนไปได้ อุตสาหกรรมใหญ่ๆ ก็ยังอยู่รอด

แล้วทำไมเมืองไทยถึงทำไม่ได้ !?

ถึงเวลาวัดใจ นายกฯ ปูว่าจะเลือกเพิ่มค่าแรงให้ชนชั้นรากหญ้าที่หาเช้ากินค่ำและจมอยู่กับกองหนี้

หรือเลือกคง "กำไร" ของชนชั้นนายทุน

ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาในช่วงต้นเดือนส.ค.

แต่อย่างน้อยก็ยังรู้สึกดีๆ ในตอนนี้ ที่เห็นข่าวเสี่ยปั๊มน้ำมันที่พิษณุโลกติดประกาศรับสมัครเด็กปั๊ม

โดยให้ค่าแรงวันละ 300 บาท

เจ้าของกิจการเล็กๆ ยอมเจียดกำไรไปจ่ายค่าแรงเพิ่มให้ลูกน้อง

นายทุนใหญ่ๆ ของประเทศเห็นข่าวนี้แล้วไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ !?