วันที่ 18 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ทีมเศรษฐกิจของพรรค พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการทำนโยบายของพรรคเพื่อไทย ว่า นโยบายขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ว่าเป็นไปได้ยาก ยืนยันว่านโยบายว่าเป็นไปได้ หลังการแถลงนโยบายตนจะจัดให้มีการทำเวิร์คช็อป ให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรรมกร นายจ้าง เข้ามาแสดงความเห็น ยืนยันไม่กระทบการเงินและการคลัง พรรคคำนวณไว้หมดแล้ว หากขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ประชาชนจะได้รับเงินเดือนเพียง 7,600 บาท ซึ่งในความเป็นจริงยังไม่พอต่อกับการดำรงชีวิต ยืนยันเรื่องนี้ภาคอุตสาหกรรมเสียสละเพราะมีแผนรองรับไว้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยตอนนี้
นายสุชาติ กล่าวว่า นอกจากนั้น ยังมีวิธีช่วยกรรมกรด้วยนโยบายการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็น 23 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้กรรมกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้พี่ชายคนโตต้องกระจายรายได้ไปให้กับน้องๆ เพื่อให้พี่ชายคนโตรวยเร็วยิ่งขึ้น เช่น รองเท้าของเราผลิตและส่งออกนอกประเทศอย่างเดียว หากน้องสามารถซื้อรองเท้าจากที่ทำงานได้ จะขายได้ปีละ 4 แสนคู่ เห็นได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนร่ำรวยขึ้น ไม่ใช่ยากจน
นายสุชาติ กล่าวว่า อีกนโยบายหนึ่งที่ต้องการจะทำเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานใน ประเทศ คือ ตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมชายแดน เพื่อให้คนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ รัฐบาลจะเก็บภาษีจากกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ในระดับที่ต่ำ ส่วนนโยบายการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียน เบื้องต้นจะแจกให้กับนักเรียน ป. 1 ราคาเครื่องละ 5,000 บาท จำนวน 8 แสนเครื่อง เป็นเงิน 4,000 ล้านบาท ตนมีแนวคิดที่จะลดค่าโฆษณาของรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ ที่ซื้อโฆษณาบนป้ายขนาดใหญ่ นำเงินมาซื้อแท็บเล็ตให้กับนักเรียน เบื้องต้นอาจซื้อได้มากกว่าที่กำหนดในนโยบาย
เมื่อถามถึงกรณีหลายฝ่ายมองว่าหลายนโยบายด้านเศรษฐกิจของเพื่อไทยอาจทำ ไม่ได้จริง นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องดูยี่ห้องของพรรคเพื่อไทย ตนยืนยันว่าเพื่อไทยสามารถทำได้จริงทั้งหมด เรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มุ่งมั่นที่จะทำ นโยบายด้านต่างๆ ของพรรคจะเดินหน้าได้ประมาณต้นปี 2555 ส่วนค่าแรงขั้นต่ำนั้นจะเริ่มได้ วันที่ 1 ม.ค.55 อย่างแน่นอน แต่ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลและหารือกับคณะกรรมการไตรภาคีก่อน