ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 5 July 2011

หุ้นพุ่งกระฉูด-ขานรับรบ."เพื่อไทย" ทุบสถิติสูงสุดรอบ5ปี-กลุ่มชินคึกดีดขึ้นยกแผง

ที่มา ข่าวสด

รายงาน ข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 4 ก.ค. หลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โดยพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้จำนวนที่นั่งส.ส.สูงสุด 264 ที่นั่ง ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้นักลงทุนเห็นความชัดเจนทิศทางการเมืองไทยมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,090.28 จุด เพิ่มขึ้น 48.80 จุด บวก 4.69% มูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) 63,110.36 ล้านบาท สูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี นับ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.49

สำหรับนักลงทุนได้เข้ามาลงทุนใน ตลาดหุ้นอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม ชิน นำโดยบริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) MLINK ปิด 2.2 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 สตางค์ บวก 25.42% บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC ปิด 111 บาท เพิ่มขึ้น 7 บาท บวก 6.73% บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) THCOM ราคาปิด 9.95 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท บวก 15.03% บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SC ราคาปิด 15.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท บวก 12.41% และ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) INTUCH ราคาปิด 35 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท บวก 6.87%

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง เนื่องจากนักลงทุนผ่อนคลายความกังวลจากหลายปัจจัยทั้งต่างประเทศ เรื่องปัญหาหนี้ของกรีซ ที่ได้รับเงินช่วยเหลือ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มดีขึ้น ประกอบกับดัชนีหุ้นในภูมิภาคปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่เริ่มผ่อนคลายลง หลังพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ทำให้สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง และยังยืนยันที่จะแก้ปัญหาความปรองดองด้วยการใช้คณะกรรมการชุดเดิมของรัฐบาล ก่อนหน้า ในการศึกษาแนวทาง ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรม เป็นข่าวที่รับทราบกันไปแล้ว เพราะคงเป็นเรื่องของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือเพื่อรอจังหวะขาย และถ้านักลงทุนจะซื้อให้รอตลาดแกว่ง หลังผ่านพ้นข่าวดีไปแล้ว

ขณะที่ บล. บัวหลวง ออกบทวิเคราะห์ว่า แม้ผลการเลือกตั้งจะไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพอใจได้ แต่ผลการเลือกตั้งที่มีคะแนนเสียงลงที่พรรคเดียวชัดเจน จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนและส่งผลกระทบเชิงบวกต่อดัชนีหุ้นไทยใน สัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะสามารถขับเคลื่อนได้รวดเร็ว และผ่านร่างกฏหมายโดยใช้เวลาน้อยกว่ารัฐบาลที่มาจากหลายพรรค การเมืองผสม ส่วนประเด็นที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ประกอบด้วยการนิรโทษกรรมและคืนทรัพย์สิน 4.6 หมื่นล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การแทรกแซงการปรับตำแหน่งและโยกย้ายข้าราชการทหารและตำรวจ การสอบสวนกรณีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในปี"53 และการสนับสนุนกัมพูชากรณีพิพาทเขาพระวิหาร