โพลทุกสำนัก ฟันธง "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เบอร์ 1 เพื่อไทย เบียดแซง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คู่แข่งคนสำคัญ เฉียดฉิวในหลายมุม!
แม้บางมุม "อภิสิทธิ์" จะยังเหนือกว่าอยู่ แต่ก็ไม่ใช่การนำขาด ทิ้งหลายช่วงตัว
ดีไม่ดี "เพื่อไทย" ซึ่งเป็นต้นตำรับ "การตลาดการเมือง" เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างกระแส จะงัด "เทคนิคด้านการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์" มาตีกระแส แซงนำ "อภิสิทธิ์" เอาง่ายๆ
แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงจุดนี้ จึงไม่แปลกที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" จะกลายเป็น "ฝันหวาน" ของ "แกนนำเพื่อไทย" ว่านำพาพรรค ชิง "อำนาจรัฐ" กลับคืน และพุ่งขึ้นถึงขั้นครอบครองเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี" ไปกินได้ไม่ยาก
ถึงขั้นบางคนเรียกขาน "ยิ่งลักษณ์" ขั้น "นายกฯหญิง" ไปแล้ว !!!
และเมื่อทุกแกนนำ มองเห็นโอกาสในวิกฤต จึงมีการเตรียมการส่งคนใกล้ชิดตัวเอง มาใกล้ชิด "แคนดิเดตนายกฯ" เอาไว้ก่อนหน้า!!!
นัยว่า จองตำแหน่ง "วอลล์เปเปอร์นายกฯ" เอาไว้แทน "ศิริโชค โสภา" เจ้าของ "วอลล์เปเปอร์อภิสิทธิ์"
ให้เป็น "ตำแหน่งพิเศษ" ในการเป็นสะพานเชื่อมประสานไปสู่โอกาสในการจัดสรรเก้าอี้ "เสนาบดี-งบประมาณ-โครงการ" ไปจนถึงการ "โยกย้ายข้าราชการ" หาก "เพื่อไทย" ชิงตั้ง "รัฐบาล" ได้ และ "ยิ่งลักษณ์" ได้เป็น "นายกฯ"
ที่เห็นๆ กันตอนนี้ก็มี "2 แก๊งใหญ่" เริ่มไหวตัว ส่ง "คนใกล้ชิด" ประกบ "ยิ่งลักษณ์" ระดับคอหอย-ลูกกระเดือก!
แก๊งแรก เป็นคนของ "เฮีย" ที่ตอนนี้นั่งคู่กับ "นายใหญ่" ทั้งวอร์รูม ที่ "ดูไบ" และ "บรูไน" ส่วนอีกแก๊ง เป็นคนของ "เจ๊" เจ้าแม่เมืองหลวง ที่พยายามส่ง "นักการเมืองคนสนิท" มาใกล้ชิด "ยิ่งลักษณ์" ด้วย
แต่รายหลังดูเหมือนจะปิ๋ว! เพราะภาพที่ออกมาชัดเจน ว่า "ยิ่งลักษณ์" ใช้บริการคนของ "เฮีย" มากกว่า "เจ๊"
ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุข้างต้นด้วยหรือไม่ จึงทำให้ "อดีตพันธมิตรเจ๊" จึงมีชื่อเข้าร่วม "ทีมวอร์รูม" ยกร่าง "คำปราศรัย" เตรียม "กรอบ" การหาเสียง ไปจนถึงขั้่นเซ็ต "ประเด็น" ให้สัมภาษณ์สื่อสารมวลชนรายวัน ให้ "ว่าที่นายกฯหญิง" ของเพื่อไทย เป็นกระตั้ก!
หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใด สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ถึงไม่ยี่หระกับสารพัดโพลที่ผลออกมาคล้ายๆ กันว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็น
"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าประชาธิปัตย์ มักจะพูดซ้ำๆ ว่า ผลโพลแต่ละสำนักไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ยืนยันว่าประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย จะได้ ส.ส.ใกล้เคียงกันราว 200 เสียง
"สุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการพรรคออกแนวฮาร์ดคอร์ ถ้าไม่ท้าทายให้เจ้าสำนักโพลต่างๆ นำผลโพลของตัวเองไปแปะข้างฝาไว้ ก็มักกล่าวหาว่าผลโพลดังกล่าว เป็นการสร้างกระแสจากคู่แข่งขัน
เหตุที่ขุนพลสะตอไม่เชื่อผลโพลที่ออกมาระหว่างนี้ เพราะภายในพรรคสีฟ้าก็มีการจัดทำโพลของตัวเอง ดำเนินการโดย "กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ด้วยวิธีการที่ผู้สมัคร ส.ส.บางส่วนหยิบไปล้อเลียนว่า "เป็นวิทยาศาสตร์อย่างยิ่ง"!
"โพลกอร์ปศักดิ์" ก็คือโพลที่ "เทพเทือก" หยิบไปเถียงตลอดเวลา ว่า "แม่นยำ" ยิ่งกว่าโพลเป็นไหนๆ และยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ชนะเพื่อไทย ชัวร์!!
วิธีการทำโพลของ ปชป.จะแบ่งออกมาเป็น 3 ช่วงเวลา ที่มีความแม่นยำ ลดหลั่นกันไป
ช่วงแรก ก่อนสมัคร จะวัดได้เฉพาะกระแสพรรค ไม่รวมผู้สมัคร-นโยบาย-และปัจจัยอื่นๆ ดังนั้น ความแม่นยำจะ "น้อยที่สุด"
ช่วงที่สอง หลังสมัครไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง จะวัดได้ทั้งแต้มพรรค-ผู้สมัคร-นโยบายบางส่วน แต่ยังไม่รวมถึงปัจจัยใต้ดินอื่นๆ ความแม่นยำถึงได้ระดับ "ปานปลาง"
และช่วงที่สาม ก่อนวันเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ การทำโพลช่วงนี้จะได้ผลแม่นยำ "มากที่สุด" เพราะคู่ต่อสู้ต่างออกอาวุธมาจนเกือบหมดแล้ว
จึงไม่น่าแปลกใจ ว่าเหตุใดสมาชิก ปชป.จึงไม่ออกอาการสะทกสะท้านต่อผลโพลที่ชี้ว่า "ยิ่งลักษณ์" จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 เพราะยังเหลือเวลาอีกตั้ง 37 วัน กว่าจะถึงวันลงคะแนนจริง !!
การแข่งขันชิงกระแสของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย ถูกจับจ้องมาโดยตลอด
กระทั่งเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง หลัง "เนวิน ชิดชอบ" แกนนำพรรคภูมิใจไทย ออกโรงทำนายว่าทั้ง 2 ผู้โดดเด่น จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง
ทำนายเสียงให้เสร็จสรรพ "พรรคประชาธิปัตย์" จะได้เพียง 160 เสียง ส่วน "พรรคเพื่อไทย" ได้ 210 เสียง
การเด็ดดอกไม้ของ "เนวิน" ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องเฉียบคมในกลเกมการเมือง ย่อมสะเทือนไปถึงดวงดาว แน่นอนว่าบิ๊กเนมพรรคประชาธิปัตย์หลายคน จึงออกมาเต้นผาง ปฏิเสธพัลวัน
แต่ในใจลึกๆ ของบรรดาขุนพลการเมืองตัวจริงของทั้งสามฝ่ายย่อมรู้กันดี เพราะปกติแล้วกระแสผกผันของคะแนนเสียง จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง
ช่วงแรกคือ 7 วันหลังจับเบอร์พรรค ซึ่งชัดเจนว่า "ยิ่งลักษณ์" จาก "พรรคเพื่อไทย" มาแรง ช่วงที่ 2 คือช่วงกลาง ส่วนช่วงที่ 3 คือ 7 วันสุดท้ายก่อนหย่อนบัตร
เมื่อเป็นเช่นนี้ ความกังวลใจจึงตกมาอยู่ที่ "พรรคประชาธิปัตย์" และกังวลใจยิ่งกว่าคือ "เนวิน" ถ้าหากกระแสยังตกอยู่ที่พรรคขนาดใหญ่ 2 พรรค
พรรคขนาดกลางจะไม่มีที่ยืนในการดึงเสียงระบบบัญชีรายชื่อ??
การทำนายอัตราส่วน 160 : 210 ของ "เนวิน" จึงเป็นการปั่นราคาตัวเลขให้พรรคตรงกลางไว้ที่ 130 เสียง ซึ่งสูงกว่าอัตราประเมินที่ "ประชาธิปัตย์" และ "เพื่อไทย" ประเมิน
ยิ่งไปกว่านั้น เก๋าเกมอย่าง "เนวิน" ย่อมไม่พลาดที่จะได้ยินเสียงกระบวนการขับเคลื่อนอย่างลับๆ ของนายใหญ่ และกระบวนการเดินสายขายไอเดีย "นายกฯคนกลาง" ของบิ๊กการเมืองฝ่ายหนึ่ง กับบรรดานักคิดนักเขียนในบ้านเมือง ประมาณว่า "ยิ่งลักษณ์" จะเป็นเพียงตัวชูในการหาเสียง ส่วนนายกฯตัวจริงจะปรากฏตัวในภายหลัง
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์" จาก "พรรคชาติไทยพัฒนา" และอีก 2-3 อะไหล่ ที่ช่วยลดแรงเสียดทาน
โดยก่อนโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง จะมีการยิงนโยบายปรองดองสำคัญซึ่งแหลมคมเพียงพอต่อการดึงกระแสครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมประกาศวาระสำคัญของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ที่จะทุ่มเทสร้างบรรยากาศปรองดอง ด้วยการจัดงานมหามงคลสำคัญยิ่งต่อปวงชนชาวไทย
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองตัวจริงจำนวนหนึ่งในกลุ่ม 111 ที่เห็นด้วยในคาแร็กเตอร์ของผู้นำคนกลางมาบริหารสถานการณ์ รอเวลาอีกไม่เกินขวบปี ที่ผู้เล่นตัวจริงจะพ้นโทษแบนลงสนาม
กระแสใหม่ๆ ที่มีผลต่อการหย่อนบัตร ...จะโหมหนักขึ้นจนถึงระยะ 7 วันสุดท้ายก่อนเข้าคูหา..
(จากคอลัมน์ ปิดไม่ลับสเปเชี่ยล)