ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 11 June 2011

รวมการเฉพาะเกลียด เวรกรรมตามทันมาร์คในชาตินี้ ไปที่ไหนชาวบ้านด่าไม่ไว้หน้าไอ้ฆาตกรโกหก

ที่มา Thai E-News

อภิสิทธิ์:ฝ่ายเขามีกองกำลังชุดดำไปฝึกมาและยิงใส่ทหารและประชาชน

เฮียยอดรัก( ถลกเสื้อเผยรอยกระสุน ):ผมกล้าพูดว่าผมโดนยิง 3 นัด ถูกทหารยิงไล่มาตั้งแต่กองทัพบกจนถึงสวนมิสกวัน จึงอยากถามว่าทำไมต้องยิงประชาชน แล้วทำไมต้องใช้กระสุนจริง อยากได้คำตอบเพียงคำเดียวว่าใครเป็นคนสั่งฆ่า แล้วถ้าปฏิเสธว่าไม่ใช่ แล้วทหารลงมือได้อย่างไร?

อภิสิทธิ์:กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมดวันนี้อย่าไปตัดสินว่าใครถูกหรือผิด

เฮียยอดรัก:วันนี้อยากถามตรงๆ ว่าถ้าท่านไม่ได้สั่งแล้วใครสั่ง ทหารลงมือเองอย่างนั้นหรือ

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
10 มิถุนายน 2554

เวรกรรมมีจริง ไปที่ไหนก็โดนชาวบ้านรุมสาปแช่ง ตะแบงเหงื่อตกชายชุดดำๆๆๆ



เมื่อวันก่อนที่กรุงเทพฯ ชาวบ้านเปิดซักฟอกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัวต่อตัวขณะหาเสียงถามใครสั่งทหารฆ่าประชาชน ทำไมสั่งทหารฆ่า 91 ศพ ทำไมผ่านไปเป็นปียังลงโทษผู้บงการผู้สังหารไม่ได้ บอกผิดหวังประชาธิปัตย์ทั้งที่เคยลงคะแนนให้มาก่อน

ขณะที่มาร์คเฉไฉไปตอบว่า รัฐบาลชุดก่อนก็สังหารพันธมิตรตอนชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 และถามกลับว่าแล้วใครสั่งชายชุดดำฆ่าพ.อ.ร่มเกล้า และฆ่าทหาร ชาวบ้านตอบว่า ไม่รู้เพราะเป็นชาวบ้านธรรมดา จะไปรู้ได้ไง แต่นายอภิสิทธิ์ต้องรู้สิว่าใครสั่งทหารออกมาฆ่าประชาชน เพราะมีตำแหน่งนายกฯ และทหารออกมาก็ออกมาตามคำสั่ง

ใครสั่งยิง! แดงเปิดแผลให้อภิสิทธิ์ดู หาเสียงที่โคราชอ่วมหูอื้อ โดนแม่เฒ่าบุกด่าด้วย ไม่รับผิดชอบคดี91ศพ


ข่าวสด รายงานว่า "มาร์ค"บุกหาเสียงโคราชเจออีกเป็นชุด ทวงถามกรณีสลายม็อบเสื้อแดง 91 ศพ แม่เฒ่าบุกต่อว่าหน้าอนุสาวรีย์ย่าโมไม่รับผิดชอบแถมกล่าวหาคนตายฆ่ากันเอง ก่อนจะเจออีกถูกชุดหนุ่มใหญ่ถามใครสั่งฆ่า ทำใจดีสู้ขอคุยด้วยเจอถามตรงไปตรงมาย้ำใครสั่งใช้กระสุนจริงยิงผู้ชุมนุมจน ชี้แจงไม่เป็น ไม่เท่านั้นเหยื่อยังเปิดเสื้อโชว์รอยกระสุนให้ดูด้วย ด้านบิ๊กป๊อกโผล่นิด้าอ้างเพ้อเจ้อกล่าวหาทหารฆ่า ยืนยันไม่ได้สั่ง

มาร์คไปโคราชเจอบี้คดี 91 ศพ

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเริ่มที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ระหว่างนั้นมีผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงสีม่วง ถือดอกกุหลาบสีแดง ปะปนอยู่บริเวณด้านหน้าเวทีห่างจากจุดที่นายอภิสิทธิ์ยืนเพียง 3 เมตร ได้ตะโกนเสียงดังใส่นายอภิสิทธิ์ทันทีต้องการมาถามคนชื่อนายอภิสิทธิ์ว่าใคร ฆ่าประชาชน พร้อมยืนยันว่ามาคนเดียว ไม่ใช่คนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง หรือคนเสื้อเขียว ไม่ใช่พวกคนหลากสี อายุ 68 ปีแล้ว อยู่ปราจีนบุรี "ฉันดูทีวีมาตอนแรกก็ไม่เชื่อแต่เห็นคนที่เป็นนักศึกษาระดับปริญญาโทถูกราด น้ำมัน ไปเผาไฟเขาแล้วเอาไปติดคุก เขาเพิ่งออกมา ป้าเพิ่งดูข่าวจากทีวีช่องหนึ่ง เป็นรัฐบาลมาไม่เคยทำให้บ้านเมืองดีขึ้น อย่างนี้แล้วใครเขาจะไปไว้ใจได้ ดีแต่พูด เวลาเกิดการปะทะกัน ต่อสู้กันทางประชาธิปไตยก็หาว่าเสื้อแดงฆ่ากันเอง ไม่ยุติธรรม หาความยุติธรรมไม่เจอ วันนี้ฉันไม่ขอสาปแช่ง เพราะวันนี้เป็นวันพระ ต้องขอสาธุยกมือไหว้ย่าโมให้ท่านเป็นพยาน ใครทำดี ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติก็ขอให้ได้ดี เจริญก้าวหน้า แต่คนไหนโกง ทำลายบ้านเมือง ฉันไม่ขอสาปแช่ง แต่ผีย่าโปรดกรุณา เพราะ 91 ศพตาย ถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบ ไม่เคยออกมาขอโทษประชาชน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่หญิงชราคนดังกล่าวกำลังต่อว่านายอภิสิทธิ์นั้น กลุ่มสนับ สนุนซึ่งเป็นสตรีสวมเสื้อสีเหลือง และหญิงวัยกลางคนอีกคนก็ได้เข้าไปต่อว่าด้วยถ้อยคำรุน แรง จนหวิดเกิดการปะทะกัน เจ้าหน้าที่จึงแยกหญิงชราคนดังกล่าวออกไป

เจอถาม"ใครสั่งฆ่าประชาชน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์พร้อมคณะได้ขึ้นรถแห่ผ่านไปยังถนน โพธิ์กลาง และเลี้ยวซ้ายลงเดินบริเวณถนนสุรนารีผ่านตลาดแม่กิมเฮง ซึ่งขณะเดินหาเสียงขอคะแนนอยู่นั้น ได้มีชายสวมเสื้อยืดสีเขียว ทราบชื่อภายหลังว่านายพิสิษฐ์ โล่ห์พินิจ หรือยอดรัก คนสู้ชีวิต อายุ 56 ปี อาชีพทำโต๊ะจีน อดีตเชฟโรงแรมแห่งหนึ่ง ขี่รถมอเตอร์ไซค์เมื่อผ่านรถแห่ที่นายอภิสิทิ์กำลังยืนไหว้ขอคะแนนเสียงอยู่ ก็ตะโกนเสียงอันดัง 2 ครั้งถึงกรณีเหตุการณ์สลายม็อบจนมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ จากนั้นก็ได้ขี่มอเตอร์ไซค์หลบเข้าไปยังวัดสะแก อ.เมือง อย่างไรก็ตาม เมื่อนายอภิสิทธิ์เดินเท้าต่อไปอีกระยะก็เจอกับนายพิสิษฐ์ ซึ่งยืนรวมกลุ่มอยู่กับแม่ค้าขายผลไม้ ซึ่งเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ครั้งแรกนายพิสิษฐ์ไม่อยากจะพบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้มาบอกว่านายอภิสิทธิ์ต้องการที่จะพูดคุยด้วย

เนชั่น รายงานว่า นายยอดรัก คนสู้ชีวิต ได้ตะโกนเสียงดัง 2 ครั้งว่า "ไอ้ฆาตกร ไอ้ฆาตกร" จากนั้นขี่มอเตอร์ไซด์เข้าไปยังวัดสะแก


เมื่อนายอภิสิทธิ์พบ นายพิสิษฐ์ก็กล่าวทันทีว่า "ผมขอคุยกับนายกฯ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว นายกฯ คงจำผมได้ บ้านท่านผู้หญิงพูนสุข พนม ยงค์ ผมไปทำก๋วยเตี๋ยว ผมให้ความอนุ เคราะห์พรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ผมอยากถามไม่มากมายเรื่องของน้ำมันฝา 3 สีเป็นของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ผมไม่เคยเจอตั้งแต่เกิดมา ผมอยูสีลมแต่มาทำกิจการที่โคราช ผมขอถามอีกคำเดียวถ้าอยากให้ผมกลับมารักพรรคประชาธิปัตย์ ถามนายกฯ จริงๆ ใครสั่งฆ่าประชาชน" พร้อมกันนี้ นายพสิษฐ์ได้กล่าวกับ รปภ.ของนายอภิสิทธิ์ว่า "เจ้าหน้าที่ไม่ต้องมาจับมือผม ผมไม่ต่อยนายกฯ แน่ ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ขอให้นายกฯ ตอบคำถามผม แล้วผมจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์"

เปิดแผลโชว์รอยกระสุนถูกยิง

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเข้าไปยืนประชิดตัวนายพิสิษฐ์พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้า หน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองโคราช กล่าวอย่างใจเย็น แต่ก็มีเหงื่อแตกออกมา เบื้องต้นได้ชี้แจงถึงเรื่องของราคาน้ำมันปาล์มและน้ำมันพืช และยืนยันว่าน้ำมันไม่ใช่ของคนในพรรค ปชป. อย่างแน่นอน

"ส่วนเหตุการณ์ปีที่แล้วไม่มีใครสั่งฆ่าประชาชน พี่ลองคิดดูคนเป็นรัฐบาลเวลาเกิดความเสียหายทุกคนก็ต้องมาต่อว่ารัฐบาล เมื่อปี 2552 เกิดเหตุจราจลต่างๆ เราสามารถคลี่คลายได้ แต่พอปี 2553 ปรากฏว่าฝ่ายเขามีกองกำลังชุดดำไปฝึกมาและยิงใส่ทหารและประชาชนทำให้เกิด ความวุ่นวายเพิ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2553" เมื่อนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงตอนนี้ทำให้นายพิสิษฐ์แย้งพร้อมถลกเสื้อเผย รอยกระสุน ก่อนกล่าวว่า วันดังกล่าวตนก็อยู่ที่สะพานมัฆวานฯ กล้าพูดว่าตนโดนยิง 3 นัด ถูกยิงไล่มาตั้งแต่กองทัพบกจนถึงสวนมิสกวัน ครัวผู้ชุมนุมถูกตีเละเทะ จึงอยากถามว่าทำไมต้องยิงประชาชน แล้วทำไมต้องใช้กระสุนจริง ตนถูกยิงตั้ง 3 นัด แต่เพราะมีของดีเลยยิงไม่เข้า

นายอภิสิทธิ์ชี้แจงทันทีว่า เราได้บอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่าวิธีที่จะแก้ปัญหาต้องมีการปิดล้อม แต่ทหารไม่ได้เข้าไป ทหารอยู่กับที่ ระหว่างวันที่ 14-19 พฤษภาคม 2553 แต่เกิดมีกลุ่มคนมาใช้อาวุธจนเกิดการปะทะกัน หน้าที่ของเราคือการพยายามรักษากฎหมาย แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีคำสั่งให้เข้าไปปราบปราม ไม่ได้สั่งให้สลายการชุมนุมแม้แต่วันสุดท้ายของการชุมนุม ทั้งนี้ นายพิสิษฐ์ย้อนถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า "วันนี้อยากถามตรงๆ ว่าถ้าท่านไม่ได้สั่งแล้วใครสั่ง ทหารลงมือเองอย่างนั้นหรือ"

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า "กำลังตรวจสอบ เหตุ การณ์ทั้งหมดวันนี้อย่าไปตัดสินว่าใครถูกหรือผิด ค่อยๆหาความจริง และเมื่อได้ความจริงแล้วค่อยพิจารณาต่อว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ประเทศไทยเราต้องอยู่กันให้ได้อย่างนี้และต้องคุยกันแบบผมกับคุณ และขอขอบคุณที่ฟังผมชี้แจง ไม่โต้เถียงอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านๆ มา" จากนั้นทั้งสองได้จับมือกันก่อนจะไหว้ลา

จากนั้นมีกลุ่มแม่ค้าขายผ้าและผลไม้ราว 4-5 คน ซึ่งยืนอยู่ใกล้เคียงได้ตะโกนโจมตีเป็นระยะ นายอภิสิทธิ์ไม่ได้สนใจและขึ้นรถแห่เพื่อเดินทางต่อไปยังวิทยาลัยเทคนิค นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดหาเสียงจุดที่ 2 ระหว่างทางยังคงเจอคนเสื้อแดงเป็นระยะๆ อาทิ บนรถปิกอัพก็มีแม่ค้าตะโกนด่า ส่วนบนยอดตึกไทยศิลป์ พาราไดซ์ ก็มีคนออกมาโบกธงสีแดงประท้วงตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพยายามสอดส่ายดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

ย้ำถ้าไม่สั่งทหารลงมือได้อย่างไร

นายอภิสิทธิ์ชี้แจงต่อว่า ตอนกลางวันไม่มีการใช้กระสุนจริง ยืนยันว่าไม่มี จนกระทั่งมีการใช้ระเบิดเอ็ม 79 ยิงมาใส่ทหารบาดเจ็บ จึงมีการตอบโต้ และต่อสู้กัน และหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีคนตายที่สีลม พระราม 4 ซึ่งเป็นการตายที่เกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ตนไม่ทราบว่าใครยิง อย่างไรก็ตามนายพิสิษฐ์แย้งว่าในช่วงกลางวันวันที่ 10 เมษายน 2553 มีใช้กระสุนจริงแน่นอน เพราะตนยังยืดปืนเอ็ม 16 ไว้ได้

"ผมเองก็ไม่สบายใจที่มีการกล่าวหาว่าท่านอภิสิทธิ์เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด เราอยากได้คำตอบเพียงคำเดียวว่าใครเป็นคนสั่งฆ่า แล้วถ้าปฏิเสธว่าไม่ใช่ แล้วทหารลงมือได้อย่างไร" นายพิสิษฐ์กล่าว

เหยื่อโหดยันชุดดำเป็นพวกเดียวกับทหารเพราะเจอกับตัวเต็มๆ



ขณะที่นปช.ได้แถลงข่าววานนี้ โดยให้นายกฤษณะ ธัญชัยพงศ์ แนวร่วมนปช.ซึ่งถูกจับกุมพร้อมเพื่อนรวม 3 คน จากเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553 และถูกขังคุก 1 ปีข้อหาฝืนพรก.ฉุกเฉิน ได้เปิดเผยว่าช่วงที่เขาถูกทหารจับกุมตัวนั้น ทหารกลุ่มหนึ่งที่จับกุมและควบคุมตัวเขาอย่างโหดร้ายทารุณ ทั้งบีบคอ เอาน้ำมันราดขู่จะเอาไฟเผา กระทืบทารุณนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าใส่ชุดดำ คลุมหน้าคลุมศีรษะด้วยหมวกไหมพรมคล้ายชายชุดดำที่สร้างสถานการณ์ในช่วง ชุมนุม

"ทหารที่เข้ามาทำร้ายผมกับเพื่อน 3 คน มีกลุ่มหนึ่งที่ใส่ชุดเขียวที่ตั้งด่านจับพวกผม ตอนที่เขาจับตัวไปทารุณให้สารภาพ เขาเรียกอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาซ้อมทารุณพวกผมต่อ เขาเรียกว่าไอ้โหด กลุ่มนี้คลุมหัวไอ้โม่งใส่ชุดดำครับผมยืนยันได้ครับ เพราะผมโดนกระทืบโหดร้ายขนาดนั้น จำติดตา ผมจึงยืนยันได้ว่าทั้งทหารชุดเขียวและชุดดำคือพวกเดียวกันแน่นอน"(ชมคลิปใน นาทีที่37)

นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกนปช.กล่าวว่า จากเหตุการณ์นี้น่าเชื่อว่าชายชุดดำเป็นคนที่กองทัพจัดสร้างสถานการณ์ขึ้น เพื่อป้ายสีเสื้อแดง เพราะสังเกตว่าผ่านไปเป็นปียังไม่เคยมีการจับชายชุดดำได้เลย จึงขอเรียกร้องให้กองทัพออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง



ชมคลิปรายละเอียดนายกฤษณะ ชัยพงษ์ แถลง ซึ่งในคลิปการแถลงข่าวนี้ยังมีเรื่องนปช.ตั้งศูนย์สกัดโกงเลือกตั้ง และดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ กล่าวตอบโต้ไก่อู ศอฉ.ที่อ้างว่าถูกเขาบิดเบือนกรณีผังล้มเจ้าว่า"ใครจะไปบิดเบือน ในเมื่อพ.อ.สรรเสริญเขียนคำแถลงยอมความเอง และแถลงต่อศาลมิใช่หรือว่า ผังล้มเจ้าดังกล่าวไม่ได้บอกว่าใครอยู่ในขบวนการล้มเจ้า แต่สื่อเอาไปขยายความเอง แล้วทำไมมาแก้ตัวไปอีกเรื่องในภายหลัง"