ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 30 June 2011

ลือทหารไฟเขียวปรองดองให้ พท.ตั้งรัฐบาล แต่อย่าเอาผิดคนฆ่า 91 ศพ

ที่มา ประชาไท

ลือว่อนเน็ต วัฒนา เมืองสุข, ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เจรจาลับที่บรูไน ทหารอนุญาตพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้ไม่รัฐประหาร แต่ต้องอย่าเอาผิดคนฆ่า 91 ศพ อย่าแก้แค้นที่แล้วมา ขอประยุทธ์อยู่ต่ออีก 3 ปี

30 มิ.ย. 54 - ไทยอีนิวส์นำเสนอรายงาน "ปูดข้อตกลงลับ 3 ฝ่าย พลังพิเศษยอมเพื่อไทยตั้งรัฐบาล แลกนิรโทษกรรมมาร์ค+ฆาตกร 91 ศพ-หยุดหมิ่น" อ้างอิงบทความจากเว็บไซต์ Asiatimes มีเนื้อหาระบุว่าเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน อ้างแหล่งข่าวว่ามีการเปิดเจรจากันระหว่างนายวัฒนา เมืองสุขคนของทักษิณ กับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหมที่บรูไนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้หารือกันอีกหลายครั้ง รวมทั้งที่นครดูไบ ซึ่งทักษิณลี้ภัยอยู่ โดยกองทัพตกลงที่จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง แลกกับคำมั่นสัญญาของทักษิณที่จะไม่แก้แค้นทางการเมือง หรือ ดำเนินคดีกับบรรดาผู้นำทหารที่อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจเมื่อปี 2549 และเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของกองทัพ เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 3 ปี รวมทั้งฝ่ายทักษิณจะต้องห้ามปรามพวกที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ด้วย โดยเฉพาะบรรดาคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศไทย

นอกจากนี้ทั้ง 3 ฝ่ายได้หารือกันถึงเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่ ซึ่งจะให้ข้อเสนอแนะในเรื่องการปรองดอง รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว และกองทัพ โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวจะถูกเสนอให้มีการลงประชามติ ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลทักษิณ ได้ตอบรับที่จะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้แล้ว

'วัฒนา' ยันไม่เคยพบ 'ประวิตร' ที่บรูไน

ด้านสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นรายงาน ว่านายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยเดินทางไปประเทศบรูไน และไม่เคยพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามที่ข่าวปรากฏว่ามีการพบกัน เพื่อทำปฏิญญาบรูไน หรือ ทำข้อตกลงอะไรทั้งสิ้น ส่วนประเทศดูไบนั้น ยอมรับว่า เคยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จริง ซึ่งก็ไปพบในฐานะที่เป็นผู้มีบุญคุณกับตนและเคยร่วมทำงานกันมา

นอกจากนี้ นายวัฒนา ยังกล่าวถึง กรณีที่มีข่าวว่าตนเดินสายเจราจาพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อประสานในการหาพรรคร่วมมาจัดตั้งรัฐบาล โดยยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวก็ไม่เป็นความจริงอีกเช่นกัน โดยนายวัฒนา ยืนยันว่า ตนไม่มีชื่อชั้นเพียงพอที่จะก้าวขึ้นไปพูดคุยเจรจาต่อรองเรื่องแบบนี้ได้ และมั่นใจว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้น ไม่ว่ากับพรรคไหนๆ ก็ตาม เนื่องจากโดยธรรมเนียมแล้ว ผลการเลือกตั้ง มีส่วนอย่างมากในการกำหนดทิศทางการเจรจา ดังนั้น หากยังไม่มีผลการเลือกตั้งออกมา มั่นใจว่า จะไม่มีการเจราจาใดๆ เกิดขึ้นแน่นอน

ขณะที่มีผู้ประเมินว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล จะมีการปฏิวัติกลับมาอีกครั้งนั้น มองว่า เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นจากคู่แข่งทางการเมืองมากกว่า เนื่องจากหากพรรคได้รับเลือก ก็เป็นเพราะประชาชน แล้วพรรคที่มาจากประชาชน จะมีทหารมาปฏิวัติได้อย่างไร ขณะที่การประเมินเก้าอี้ ส.ส. ที่พรรคเพื่อไทย อาจได้นั้น นายวัฒนา เชื่อว่า น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 250 หรือ อาจจะถึง 300 คน ซึ่งแม้ได้ 300 คน จริง พรรคร่วมก็ยังมีความสำคัญ เพราะแจกันคงมีแต่ดอกไม้ไม่ได้ ต้องมีใบเฟิร์นประกอบด้วยแน่นอน

"สุรเกียรติ์" ปฏิเสธข่าวตอบรับนั่งปธ.ปรองดองชุดใหม่

มติชนออนไลน์รายงาน ว่านายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขณะนี้อยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นการเดินทางมาตามคำเชิญของผู้ใหญ่ในรัฐบาลจีน ได้ทราบว่ามีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าว รู้สึกแปลกใจมาก ขอปฏิเสธว่า ข่าวการตกลงตั้งคณะกรรมการปรองดอง ที่ตนเองตอบรับเป็นประธานแล้วนั้นไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง ตนเองไม่เคยไปพบกับบุคคลใดๆ ตามข่าว ส่วนข่าวการพบปะระหว่างบุคคลต่างๆ เพื่อหารือถึงเรื่องการตั้งรัฐบาลใหม่นั้นทราบว่า นายวัฒนา ได้ปฏิเสธข่าวไปแล้ว

อดีตรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้แสดงความเห็นในการเสวนาและในการให้สัมภาษณ์ต่างๆอย่างชัดเจน ว่า รัฐบาลใหม่น่าจะมอบหมายให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความ ปรองดองแห่งชาติ หรือคอป. ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ได้ทำหน้าที่ต่อไป และได้กล่าวย้ำไว้ด้วยว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องตั้งกรรมการชุดใหม่ให้เสียเวลา และเสียโอกาส เพื่อที่งานปรองดองจะได้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ที่มาข่าว: ไทยอีนิวส์, มติชนออนไลน์ , ไอเอ็นเอ็น