ที่มา thaifreenews
โดย bozo
Read more from นปช, ประเทศไทย, สิทธิมนุษยชน
โดย หนังสือพิมพ์สปีเกิ้ล
http://www.spiegel.de/international/world/0,1518,742618,00.html
ภาพถ่ายของเหตุการณ์นองเลือดเดือนพฤษภาคมปี 2553
ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครได้ถูกเผยแพร่ไปทั่งโลก
แต่เรื่องราวของการต่อสู้นท้องถนนยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
ทนายชาวแคนาดาผู้ซึ่งพยายามดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ได้แบ่งปันหลักฐานที่เขารวบรวมกับสปีเกิ้ล
ธงแดงของฝ่ายตรงข้ามโบกสบัดอีกครั้ง
เมื่อผู้ชุมนุมราว 40,000 คนรวมตัวกันในใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร
พวกเขาโบกภาพอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรและสวมเสื้อสีแดง
ซึ่งเป็นกลายชื่อของการเคลื่อนไหวพวกเขา
ผู้ชุมนุมต่างรู้สึกโกรธแค้น พวกเขาร้องเพลงและโบกธงขับไล่ “อำมาตย์”
กลุ่มผู้นำซึ่งรวมถึงชนชั้นสูง ทหาร และรัฐบาล
ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ฝ่ายตรงข้ามเชื่อว่าเป็นกลุ่มที่ “ทำลายเสรีภาพ” ของประเทศ
พวกเขาเรียกร้องให้อธิบายถึงเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้น
ช่วงหลังการประท้วงรัฐบาลเมื่อเกือบปีก่อน
“รัฐบาลพูดถึงเรื่องการสมานฉันท์ปรองดอง
แต่สำหรับพวกเราแล้วเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงเป็นเรื่องที่สุดจะทน ”
วรชัย เหมะ หนึ่งในผู้นำคนเสื้อแดงกล่าว
“ผู้นำส่วนใหญ่ของเรายังอยู่ในคุก
และรัฐบาลไม่ดำเนินการสอบสวนถึงอาชญากรรมที่กองทัพกระทำเลย”
ผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันที่แยกราชประสงค์สองครั้ง
ในเดือนมกราคม แยกราชประสงค์เป็นที่ที่ผู้ชุมนุมเลือกให้เป็นสถานที่สัญลักษณ์
ซึ่งเป็นจุดที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหลายสิบรายเสียชีวิตจากการสาดกระสุนของทหาร
และยังใกล้กับห้องเซ็นทรัลเวิร์ล
ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งสิ้นค้าต่างๆและเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงถูกเผาวอดวาย
ความรุนแรงครั้งล่าสุดตั้งแต่ยุค 70
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นเหตุการณ์
ที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ใจกลางเมืองมากกว่าสองเดือน
แสดงให้เห็นถึงการปะทุของความรุนแรงทางการเมืองตั้งแต่ยุค 70
ที่รัฐบาลบดขยี้การชุมนุมประท้วงของนักศึกษา
รูปถ่ายที่สร้างความสนใจให้ชาวโลกเหตุการณ์ปี 2553 อย่างมากคือ
ภาพถ่ายนอกพื้นที่สงคราม
–พลซุ่มยิงพรางตัว และฝ่ายตรงข้ามที่ถูกสังหารเพราะถูกยิงศรีษะ
ผู้ชุมนุมที่ไม่อาจป้องกันตัวเองได้รู้สึกโกรธแค้นทันที
ในขณะที่อีกหลายคนเสียชีวิตต่อหน้ากล้อง
ประชาชนราว 1,900 ได้รับบาดเจ็บ ในระหว่างเหตุการณ์ความไม่สงบ
ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2553 และราว 90 รายเสียชีวิต
ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ไม่สมน้ำสมเนื้อ
–เพราะมีทหารเสียชีวิต 9นาย
แต่มีพลเรือนกว่า 80 รายเสียชีวิต รวมถึงพยาบาล
และนักข่าวต่างชาติสองราย
นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาล
แต่ได้ย้ายที่พักอาศัยไปยังกรมทหารราบที่ 11 ในกรุงเทพมหานคร
เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน
เขาได้รับการสนับสนุนโดยทหารที่ทำรัฐประหารขับไล่ทักษิณ
ซึ่งนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านายอภิสิทธิ์ออกจากตำแหน่ง
และต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีหลายคนเชื่อว่า
นายอภิสิทธิ์ได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์
การสอบสวนไม่ค่อยมีความคืบหน้า
ไม่น่าแปลกใจที่
การสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงของคนเสื้อแดงไม่มีความคืบหน้า
“กองทัพและตำรวจแทบจะไม่ให้ความร่วมมือกับเรา” สมชาย หอมลออ
หนึ่งในคณะกรรมการค้นหาความจริงและปรองดองสมานฉันท์ที่ตั้งขึ้น
เมื่อปีที่แล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง
กำหนดการเผยแพร่รายงานสรุปถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเผยความจริง
โดยไม่ที่ไม่มีการตั้งคำถามกับทหารที่เกี่ยวข้อง สมชายกล่าว
แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนไป
เมื่อทนายชาวแคนาดา นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมได้รวบรวมหลักฐาน
ซึ่งเขานำไปแสดงต่อศาลอาญาระหว่างประเทศในอาทิตย์นี้
และสปีเกิ้ลมีโอกาสได้อ่านแล้ว
เอกสารนี้ไม่เพียงแต่กล่าวหากองทัพไทย
แต่ยังกล่าวหานายกรัฐมนตรีอีกด้วย
หากข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูล
รัฐบาลอภิสิทธิ์มีหน้าที่ที่จะต้องอธิบายเรื่องราวคอคาดบาดตายหลายเรื่อง
หลักฐานหลักของนายอัมสเตอร์ดัมคือ
คำให้การภายใต้คำสาบานของนายทหารตำแหน่งสูงในกองทัพ
ซึ่งในเอกสารของทนายแคนาดาระบุว่าเป็นคำให้การของ “พยานนิรนามปากที่ 22”
คำให้การเหล่านี้ระบุว่า
ทหารรู้ว่าหลังการทำรัฐประหารปี 2549
–ซึ่งเป็นการทำรัฐประหารครั้งที่ 18 ตั้งแต่ปี 2475
—จะมีการชุมนุมต่อต้านครั้งใหญ่จากกลุ่มคนที่สนับสนุนทักษิณจะเกิดขึ้นไม่เร็วก็ช้า
ผู้นำทหารเริ่มวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆที่จะใช้ความรุนแรงทำลายการชุมนุม
และเป็นการกระทำที่ “รัฐบาลรับรู้และให้อนุญาติ” พยานเล่าต่อว่า
พวกเขาได้จำลองถนนในกรุงเทพ “ขนาดเท่าจริง” ภายในกรมทหารราบที่ 11
เพื่อเข้ารับฝึกฝนจากพลแม่นปืนติดอาวุธ
การตอบโต้โดยการสังหารและการโฆษณาประชาสัมพันธ์
หลังจากการชุมนุมประท้วงในปี 2552 พยานอ้างว่า
อดีตนายทหารระดับสูง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้สั่งการเป็นการส่วนตัวให้คนกลุ่มนี้
“ สังหารแกนนำคนเสื้อแดงบางคน” เพื่อตอบโต้การประท้วงหน้าบ้านของเขา
ผู้ชุมนุมอย่างน้อย 6รายถูกสังหาร และพวกเขากล่าวว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คน
เมื่อไม่มีสื่อต่างชาติให้ความสนใจกับการสังหารนี้
ผู้นำทหารไม่รู้สึกผิดต่อการกระทำของตน พยานกล่าว
ในระหว่างนั้น พวกเขายังใช้ยุทธศาสตร์ทางการทหาร
เพื่อสร้าง “ภาพลักษณ์ที่ผิดๆ” ของคนเสื้อแดงต่อสาธารณชนว่า
“เป็นกลุ่มหัวรุนแรง” อันตรายและเป็นภัยต่อสถาบันกษัตริย์
และส่ง “กลุ่มผู้ยั่วยุ” ออกไป
“สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนและโทษว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดง”
โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553
กลุ่มเหล่านี้จะวางระเบิดในหลายพื้นที่
–และโทษว่าเป็นความผิดของคนเสื้อแดง
ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและคนเสื้อแดงไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด
ในวันที่ 10 เมษายน 2553 คนเสื้อแดงยึดพื้นที่ราชประสงค์หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านั้น
และทำให้ศูนย์กลางค้าและโรงแรมบางแห่งในใจกลางกรุงเทพมหานครต้องปิดตัวลง
เมื่อมีการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินได้ราวสามวัน
ทหารได้จัดจุดของพลซุ่มยิงและอาวุธปืนสงครามในจุดสำคัญ
เพื่อไม่ให้การชุมนุมขยายบริเวณ
สิ่งที่ยังไม่รู้คือ รัฐบาลมีบทบาทใดในการเตรียมการกำจัดผู้ชุมนุม
หรือนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์รู้เรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
หากพยานนายอัมสเตอร์ดัมน่าเชื่อถือ
เขากล่าว่านายกรัฐมนตรีมีส่วนรู้เห็นเกือบทั้งหมด
“นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์อยู่ในที่ประชุมกับผู้นำรัฐบาล ผู้นำทหาร และศอฉ.
(ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน) เกี่ยวกับการดำเนินการต่อคนเสื้อแดง ”
พยานยืนกรานว่า “เขาอนุมัติถูกคำสั่งแก่กองทัพ”
การสังหารอย่างไม่เจาะจง
ในวันที่ 10 เมษานย ผู้ชุมนุมหลายพันคนได้รวมกลุ่มกัน
ชุมนุมบริเวณที่ทำการรัฐบาล ตามคำให้การของพยานนิรนามปากที่ 22 ระบุว่า
พลซุ่มยิงยิงใส่ประชาชนแถวแยกคอกวัวเวลาประมาณ 17.00 น.
ซึ่งเป็นการกระทำที่รัฐบาลระบุว่าเป็นการ “ป้องกันตัว”
แต่พยานทหารอ้างว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้ประชาชนทำร้ายทหาร
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
พลซุ่มยิงบนดาดฟ้าโรงเรียนสตรีวิทยาได้ยิงคนเสื้อแดง
และทหารจากกรมทหารที่ 2 ยิงใส่ฝูงชนใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
กระสุนปืนได้คร่าชีวิตของช่างภาพชาวญี่ปุ่น ฮิโร มูราโมโต
พยานนิรนามปากที่ 22 กล่าวว่า
ผู้ชุมนุมแทบจะไม่ตอบโต้กับทหารเลยในตอนนั้น
“แต่อย่างไรก็ตามประชาชนไม่ได้วางเฉยต่อภัยอันตราย”
พยานปากที่ 22 ระบุว่า
“ประชาชนเพียงแค่จุดปะทัดและโยนขวดน้ำพลาสติกใส่ทหาร”
“ราว 19:15 น. เกิดเหตุระเบิดสองลูกด้านหลังที่ตั้งของกรมทหารราบที่ 2”
พยานกล่าวต่อว่า มีทหารหลายนายเสียชีวิตในการโจมตีนั้น
พยานของนายอัมสเตอร์ดัมจึงไม่รู้ว่าทหารถูกสังหารโดยคนเสื้อแดง
หรือกลุ่มผู้ยั่วยุจากกองทัพ การโจมตีนำไปสู่การนองเลือด
เพราะกรมทหารราบที่ 2 ยิงรัวแบบไม่เลือก
ลงท้ายด้วยการเสียชีวิตของประชาชน 25ราย และอีก 800 รายได้รับบาดจ็บ
นักข่าวตกเป็นเป้าสังหาร
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ภารกิจของทหารยังไม่ประสบความสำเร็จ
รูปภาพความโหดร้ายของทหารทำให้ผู้นำทหารรู้สึกกระวนกระวาย
พยานปากที่ 22 กล่าวว่า มีคำสั่งให้ทำทุกอย่าง
เพื่อไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพและวิดีโอของเหตุการณ์
ซึ่งทำให้กรมทหารราบที่ 2 ต้อง “ตั้งเป้าทำร้ายนักข่าวที่เข้ามาในบริเวณดังกล่าว”
นอกจากนี้พยานยังระบุว่า
กองทัพได้รับคำสั่งให้ “ยิงทุกคนที่พยายามเคลื่อนย้ายศพ”
พวกเขา (พยาน) กล่าวว่าปฏิบัติการที่คล้ายกันนี้สำเร็จเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม
ซึ่งเป็นวันที่แยกราชประสงค์ถูกกวาดล้าง
รถถังได้พังเขาไปในรั้วที่ลุกโชนด้วยเปลวไฟของฝ่ายตรงข้ามในตอนเช้า
พลซุ่มยิงยิงลงมาจากดาดฟ้า
และทหารเข้าไปประจำการบนรางรถไฟฟ้า ไล่ให้ลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปอยู่ในลานวัด
พยานของทนายอัมสเตอร์ดัมระบุว่า
ทหารได้รับคำสั่งให้ยิงผู้ต้องสงสัยที่ถืออาวุธ
ซึ่งไม่ใช่อะไรนอกจากหนังสติ๊ก และให้สังหารแกนนำเสื้อแดงด้วย
มีประชาชนอย่างน้อย 14 รายเสียชีวิตในวันนั้น รวมถึงพยาบาลสองราย
และช่างภาพนักข่าวนายฟาบิโอ โปเลงกี ผู้ซึ่งส่งภาพให้สปีเกิ้ลเป็นประจำ
พยานปากที่ 22 ได้ระบุถึงข้อกล่าวหาที่ร้ายร้าง
โดยกล่าวว่าราว 17:45 น. หลังจากที่ทหารบุกเข้าไปในรั้วกั้นของคนเสื้อแดงรั้วสุดท้าย
และแกนนำเสื้อแดงได้มอบตัวกับตำรวจแล้ว
มีกลุ่มบุคคลร่วมกับทหารได้บุกเข้าไปในห้างเซ็นทรัลเวิร์ลและจุดไฟเผาห้าง
เพื่อเป็นหลักฐานแสดงถึงความโกรธแค้นของคนเสื้อแดง
อัมสเตอร์ดัมได้ว่าจ้างผู้เชียวชาญทางการทหาร โจ วิทตี้
ซึ่งเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ
เพื่อเป็นทหารผู้เชี่ยวชาญในคดีนี้ หลังจากศึกษาปากคำให้การของพยาน
และวิดีโอเหตุการณ์ วิทตี้สรุปว่า
“กองทัพตั้งเป้าสังหารประชาชนที่ไม่มีอาวุธครั้งแล้วครั้งเล่า
ในช่วงวันที่ 10 เมษายนและ 19 พฤษภาคม 2553
ซึ่งไม่ใช่การใช้กำลังร้ายแรงตามหลักมาตราฐานของกฎการใช้กำลัง
แต่เป็นการใช้กำลังที่ไม่มีเหตุร้ายประชิดตัว อย่างไม่ชอยธรรม จงใจ
และเป็นการกระทำที่เป็นอาชญากรรม”
http://robertamsterdam.com/thai/?p=688
ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง
ข่าวจากสื่อ
- เครือข่ายประชาธิปไตยแห่ผูกผ้าดำหน้าศาลรธน. จี้ทบทวนมติ
- นายกฯ เปิดงาน"เทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปี 2555"
- "ศันสนีย์"โฆษกรัฐบาลคนใหม่เผยพร้อมประชาสัมพันธ์งาน รบ.เชิงรุก
- ชี้ทางออก"ปรองเดือด"สู่"ปรองดอง"
- เสื้อแดงแจ้งธาริตเอาผิดมาร์ค-สุเทพฐานสร้างความปั่นป่วน
- ห่วงบานปลาย คอป.ห้ามทัพ พท.-ศาลรธน.
- นปช.นัดชุมนุมขับไล่ศาล รธน. พร้อมล่ารายชื่อถอดถอนใน 2 สัปดาห์
- "พานทองแท้" สอนมวย "มาร์ค"-จี้ขอโทษประชาชน ฐานปล่อยส.ส.โชว์เถื่อนในสภา
- ใช้ปมแก้รธน. ยุบเพื่อไทย ดูดสส.ตั้งรบ.
- "สมศักดิ์ เจียมฯ" เสนอรบ.-สภา "ชน" ศาลรธน. จี้พท.-นปช.ทบทวนยุทธศาสตร์การเมืองทั้งหมด
- นิติราษฎร์" แถลงชี้-ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- นิติราษฎร์แถลงชี้คำสั่งศาลรธน.ชะลอแก้รธน. 'ไร้อำนาจ'
- งามแต้ๆ เจ้า! "นายกฯ ปู" แต่งชุดพื้นเมือง-ผ้าซิ่นสีชมพูแอ่วเมืองพะเยา ปชช.แห่ต้อนรับเพียบ (ชมภาพชุด)
- กกต.เชียงใหม่เตรียมรับรองผลเลือกตั้งส.ส.ใน 7 วัน-"เกษม" ขอบคุณปชช.
- "จาตุรนต์"ปลุกกระแสต้าน"รัฐประหาร" ชี้ปม"ศาลรัฐธรรมนูญ"สั่งสภาฯระงับพิจารณาร่างรธน.
- “จาตุรนต์” ชี้ อำนาจประชาชนถูกปล้น- “ชนชั้นนำ” ไม่อยากปรองดอง - คาดเกิด “ยุบพรรค” อีกรอบ
- "ปู"ทำบุญเปิดหอฉันวัดเชียงบาน ชาวพะเยากว่า2,000คนต้อนรับแน่น
- อาจารย์เกษียร เสียดาย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" คิดได้แค่นี้หรือ..!?!
- ขึ้นป้ายไล่"หมอวรงค์"ทำคนพิษณุโลกอับอาย
- โลกออนไลน์ เบื่อหน่ายพฤติกรรม ส.ส. ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา
- "เรืองไกร" ฉวย! ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ "ณัฎฐ์" ดูคลิปหวิวในสภา อ้างนำความเสื่อมเสียมาสู่สภาฯ
- แกนนำนปช...."อย่าเป็นวัวลืมตีน"
- ข่าว"เหตุเกิดในมาเลเซีย" ข่าว"เมด อิน ไทยแลนด์" ข่าวกระพือ"ไฟใต้"
- "ณัฐวุฒิ" สวน "กรณ์" ขวางปรองดอง-ไม่ทวงข้อเท็จจริง "10เมษา" ตั้งแต่ยุค "รบ.อภิสิทธิ์"(ชมคลิป)
- เสียงก้องจาก 2 กูรู "ตุลาการ" ไม่มีอคติ ไม่มีล็อบบี้ ไม่มีใบสั่ง
- "ทักษิณ"เข้าสักการะพระธาตุหลวง-เผยซึ้งใจได้ทำบุญ แกนนำแดง อดีต ส.ส. แห่รับพรึบ (ชมคลิป)
- "จตุพร" ท้าตั้ง คตส.ตรวจสอบการทำงาน "มาร์ค-ชวน" เหมือนกับที่ทำกับ "ทักษิณ" ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- "หาดใหญ่"อ่วมซ้ำ ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์กลางเมืองวอดเรียบ!
- "ทักษิณ"ทำบุญสีบชะตาที่ลาว ลั่นไม่นานเกินรอกลับไทย ขบวนแดงแห่ร่วมคึก
- “แม้ว” ทำบุญในลาวแฟนคลับเสื้อแดงแห่รับเพียบ
บทความจากสื่อ
- ประชาธิปัตย์...เปลี่ยนเถอะ !โดย ฐากูร บุนปาน
- กฤษฎีกาชี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งชะลอลงมติร่าง รธน.วาระ 3 ไม่เคยเกิดขึ้นในโลก บอกไร้ช่องทางต่อสู้
- เกม"แก้ รธน.291" สภาชน"ศาลรัฐธรรมนูญ" เกมค่ายกล′ยุบพรรค′?
- ปัญหา"มาตรา68" สกัด"ร่างแก้ไขรธน. แหลมคมจาก"นิติราษฎร์"
- งามหน้าสภาไทย ! เมื่อท่านประธานฯ ถูกจี้คาบัลลังก์
- แกะกล่อง "หัวใจสองสี" ขัตติยา สวัสดิผล
- "ทักษิณ-เพื่อไทย"ปรับแผน เปลี่ยน"รูปมวย"...รู้จัก"รอ" ย้ำภาพ"ฝ่ายมีเปรียบ"
- ฐากูร บุนปาน : เจรจา-ผิดตรงไหน?
- พระราชทานเครื่องราชฯ 'มหาปรมาภรณ์' แก่นายกฯ
- ซ่อนหลัง"หน้ากาก"
- ดร.โกร่ง คนเดินตรอก : การบริหารจัดการมหเศรษฐกิจ
- ยอดคลิกทะลุ! รวมข่าวที่มีคนอ่านมากที่สุดใน "มติชนออนไลน์" ประจำวันที่ 6เม.ย.2555
- วิเคราะห์ปัญหา-ค้นคว้าทางออกของเหตุความรุนแรงภาคใต้กับ "ชัยวัฒน์-รอมฎอน"
- ปฏิบัติการ "ป๋า" ภาค 2 สู้ "นารีพิฆาต" กับปากคำ "บิ๊กบัง" เรื่อง "ป๋า" และการเมืองแสนซับซ้อน ในมุม "ประยุทธ์"
- กลุ่มสตรีมองปมร้อน'โฟร์ซีซั่นส์'
- ดูกันชัดๆ บทบาทฝ่ายค้าน เล่นของ ว. 5 ปักทิ่ม ยิ่งลักษณ์ เอาให้ตาย!!
- ต่อสู้ 2 แนวทาง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ กรณี โฟร์ซีซั่นส์
- นิวัฒน์ธำรง-ลงธรรมาสน์ ธุดงค์ในทำเนียบ เผยแพร่ลัทธิเพื่อไทย กางสูตรรัฐบาล + พล.อ.เปรม = การเมืองนิ่ง
- ยกร่าง′รัฐธรรมนูญ′ และความห่วงใย ล็อกสเปก′สภาร่างฯ′
- "กุนซือ" คิด "ปคอป." พูด ข้อมูล-คีย์เวิร์ด "เยียวยา"