ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Wednesday, 26 January 2011

“อภิสิทธิ์” เผยเป็นไปได้ยุบสภาเมษายน

ที่มา ประชาไท

“อภิสิทธิ์” ระบุมีความเป็นไปะยุบสภาเดือน เม.ย. เพราะหมดเงื่อนไขปัญหาเศรษฐกิจ-และการแก้ รธน. สุเทพ ปัดแจกโควตา รมต.แลกโหวตแก้ รธน.

26 ม.ค. 54 - “อภิสิทธิ์” ระบุมีความเป็นไปได้จะยุบสภาประมาณเดือนเมษายน เพราะหมดเงื่อนไขปัญหาเศรษฐกิจ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนการชุมนุมจะไม่นำมาเกี่ยวข้อง ถ้าชุมนุมอย่างสงบ คงไม่มีปัญหา โต้จัดฉากจับกุมคนลอบประกอบระเบิด ย้ำรัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมทุกสี

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การตัดสินใจยุบสภายังเป็นไปตามเงื่อนไขตารางเวลาที่พูดเอาไว้ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การแก้ไขกฎกติกา หรือรัฐธรรมนูญ และความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนจะเลือกจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการจัดการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับการชุมนุม เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะได้ข้อยุติในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ จากนั้นเป็นกระบวนการเพื่อให้ประกาศใช้ คาดว่าจะประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคม ก็จะหมดไปอีกเงื่อนไขหนึ่ง ส่วนการชุมนุมนั้น หากรักษาแนวทางการชุมนุมว่าเป็นการชุมนุมที่สงบ และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปได้ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่จะยุบสภาในช่วงเดือนเมษายน จึงเป็นไปได้

สำหรับกรณีที่ได้สั่งการให้ติดตามกลุ่มที่ยังคงใช้ความรุนแรงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการข่าวยังมีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่หลบหนี และจากกลุ่มที่สามารถขยายผลได้จากการสอบสวนกลุ่มที่ถูกจับกุมแล้ว ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ซึ่งพยายามไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และจากการสอบสวนคดีที่่เจ้าหน้าที่จับกุมคนลอบประกอบระเบิดข้างทำเนียบ รัฐบาลได้ น่าจะหมดข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องการจัดฉาก เพราะรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม

ส่วนที่แกนนำของผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มยังบอกว่ารัฐบาลจัดฉากนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไร แต่น่าเสียดายว่าคนที่เป็นแกนนำพยายามจะหยิบยกทุกเรื่องขึ้นมา ทั้งที่รัฐบาลพยายามดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมเอง ตนถือว่าไม่ว่าจะเสื้อสีไหน ก็เป็นคนไทย จะพยายามดูแลความปลอดภัยให้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีความพยายามหยิบยกเรื่องนั้นเรื่องนี้มาโจมตีรัฐบาล

ต่อข้อถามว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้คนที่เคยเป็นมิตรกับรัฐบาลกลายเป็น ศัตรูหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เป็นศัตรูกับใคร เมื่อถามว่าการที่ยื่นเงื่อนไขที่เชื่อว่ารัฐบาลทำตามไม่ได้ จะเป็นการบีบให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไปถามผู้ชุมนุม เพราะเห็นว่าแกนนำยังขัดแย้งกันเอง เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ บอกว่ามาไล่ตน และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผู้ประสานงานบอกว่าไม่ได้มาไล่ แต่นายสนธิคนเดียวที่เป็นคนไล่

สุเทพ ปัดแจกโควตา รมต.แลกโหวตแก้ รธน.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีที่สมาชิกรัฐสภาลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 93-98 ในวาระ 2 ตามสูตรเลือกตั้งส.ส.เขต 375 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 125 คน ตามสูตรที่รัฐบาลเสนอ ว่า ตนเรียนมาหลายครั้งแล้วว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหาของบ้านเมือง เพราะเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา จะเป็นผู้ชี้ขาดทิศทางของบ้านเมือง ซึ่งตนมั่นใจอย่างนี้มาตั้งแต่ต้น และการลงมติเมื่อวันที่ 25ม.ค.ที่ผ่านมา เห็นว่าเสียงส่วนใหญ่ก็เห็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ตนรู้สึกสบายใจเพราะหมดเงื่อนไขเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไข 3 ประเด็นที่นายกรัฐมนตรี ระบุดำเนินการแล้วเสร็จก็จะยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในปี 54

ฉะนั้น จึงรู้สึกโล่งใจที่หมดปัญหาไปหนึ่งประเด็น ขณะนี้เงื่อนไขเรื่องเศรษฐกิจและการแก้รัฐธรรมนูญ ดูท่าทางจะไปได้ดี ที่เหลือคือเราต้องพูดคุยเพื่อหาทางคลี่คลายความเห็นที่ไม่ตรงการทางการ เมือง เรื่องการชุมนุม หากเรื่องเหล่านี้สงบบ้านเมืองปกติสุขก็จะเดินหน้าต่อไป เมื่อถามว่ารู้สึกสบายใจขึ้นบ้างหรือไม่ที่พรรคร่วมหันมาสนับสนุนสูตรเลือก ส.ส.375+125 นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมไม่ได้มีอะไรที่กลุ้มใจ มีแต่คนอื่นที่กลุ้มใจ ท่านทั้งหลายมาถาม ผมก็บอกว่าไม่มีปัญหา”

เมื่อ ถามถึงข้อเท็จจริงถึงข่าวที่ว่าได้ไปตกลงกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เกี่ยวกับการให้โควตารัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า “เป็นข่าวที่ไม่มีมูลความจริงเลย และต้องเรียนว่าน่าเสียดายที่มีข่าวเช่นนี้และทำให้ประชาชนสับสน จะไปคิดถึงการแบ่งโควตารัฐมนตรีอย่างไร เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ยุบสภา และต้องมีกระบวนการว่าเมื่อไหร่ที่นายกฯจะยุบสภา และเลือกตั้ง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าใครจะได้หรือตกเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้ ใครจะไปจับมือกับใครเป็นรัฐบาลก็ยังไม่รู้ แล้วผมจะเอาหน้าที่ไหนไปสัญญากับคนโน้นคนนี้ และแจกโควตาลมๆแล้ง เป็นไปไม่ได้”

ส่วนมั่นใจว่าการพิจารณาลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 จะผ่านความเห็นชอบขอรัฐสภาหรือไม่ เพราะส.ว.บางส่วนระบุว่าจะสนับสนุนสูตร 400+100 นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้าที่ทำให้เราวิตกกังวล ไม่มีอะไรหรอก ตนเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ประจักษ์เชื่อนายกฯไม่ยุบสภาเร็วขึ้น

นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า แม้ญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ในวาระที่ 2 ไปได้ด้วยความเรียบร้อย แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะทำให้ นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจยุบสภาเร็วขึ้น ส่วนในการลงมติวาระที่ 3 นั้น เห็นว่า ยังคาดเดาไม่ได้ว่า ส.ส.จะมีมติตามความเห็นของคณะกรรมาธิการ ที่ให้ ส.ส.เขต มีจำนวน 375 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อมี 125 คน เนื่องจากไม่มีใครรับทราบความคิดเห็นของ ส.ส.แต่ละคนได้ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็พยายามควบคุมเสียงของ ส.ส.อยู่ ขณะเดียวกัน นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า การที่ฝ่ายค้าน ได้กล่าวหาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการไกล่เกลี่ยผลประโยชน์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะฝ่ายค้าน ต้องมีหน้าที่คัดค้านอยู่แล้ว

“ตู่” ลั่นไม่เชื่อน้ำยา “มาร์ค” แย้มยุบสภาเมษา

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 2 ไปแล้ว ว่า ตนได้บอกกับเพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ต้นแล้วว่าอย่าผลีผลาม เพราะช่วงแรกนั้นพรรคร่วมรัฐบาลเสียงแข็ง สุดท้ายก็เป็นเกมปั่นราคาแลกผลประโยชน์

อย่างไรก็ตามแม้จะมีการเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่ มีสัดส่วนส.ส.ที่ 375 +125 คน แต่พรรคเพื่อไทยไม่หวั่นไหว พร้อมสู้ทุกรูปแบบ แต่พรรคประชาธิปัตย์นั้นแพ้มาสองครั้งแล้วทั้งสูตรส.ส.400 +100คน และ 400 + 80 คน วันนี้จะเปลี่ยนใหม่ก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้าแพ้แล้วอย่าโวยวาย และอย่าใช้วิธีปล้นอำนาจตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีก

นอกจากนี้ยังขอฝากไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไปจัดเขตเลือกตั้งให้ดี โดยอิงข้อเท็จจริงของแต่ละพื้นที่ อย่าแบ่งซอยเฉพาะเขตที่พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียงแน่นหนาหรือไขว้กันแบบน่า เกลียด แต่ถ้ารัฐบาลยังบริหารประเทศบนความเสี่ยงอย่างนี้ ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระและเกิดการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะยุบสภาในช่วงเดือน เม.ย.นั้นตนไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง.

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย, ไทยรัฐออนไลน์, ไอเอ็นเอ็น, เดลินิวส์