ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 29 January 2011

ถอดรหัสแม้วตาสว่างโฟนอินแฉพลเอก2ผัวเมีย?โค่นอำนาจ กับเจ้าของบริษัทระแวงฆ่าพนักงาน

ที่มา Thai E-News


อ่านดูใจความโดยรวมทั้งหมดดี ๆ และถ้าฟังคลิปเสียงการโฟนอินทั้งหมดของทักษิณด้วยจะพบว่า ครั้งนี้ถือเป็นการแย็บไปที่เป้าสูงเป็นครั้งแรกของทักษิณแล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำว่า "ตาสว่าง"(ซึ่งไม่ค่อยเคยได้ยินจากท่าน) และ คำว่า"เจ้าของบริษัท" (ในขณะที่ อ.สุรชัย ใช้คำว่า "เจ้าของคอกม้า")-
นักท่องเน็ตในกระดานสนทนาInternet Freedom

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 มกราคม 2554

คลิปเสียงพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวเสวนากับกลุ่มRED IN JAPAN คลิ้ก http://www.mediafire.com/?acna7nffqdh67y3



การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มายังงาน"ตาสว่างทุกที่ ญี่ปุ่นก็ตาสว่าง"จัดโดย RED IN JAPAN หรือคนเสื้อแดงไทยในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ถูกนักสังเกตการณ์ทางการเมืองประเมินว่า เป็นก้าวสำคัญครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปีหลังถูกทำรัฐประหารโค่นอำนาจ ที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดได้"เฉียดใกล้"ปมปัญหาที่แท้จริงของชาติ เพียงแต่ซ่อนนัยยะเชิงสัญลักษณ์เอาไว้ ที่ไม่ยากจะถูกถอดรหัส

ท่อนแรกคือการกล่าวหาพลเอก 2 ผัวเมีย

อยู่ที่ญี่ปุ่นมียาหยอดตาดีหรืออย่างไรถึงได้ตาสว่าง? ..ความจริงผมไปเห็นมาหลายประเทศ แล้วนึกเสียดายประเทศไทยทำท่ากำลังไปได้ดี แต่ก็เกิดความหวาดระแวงดื้อๆ ทั้งที่ไม่น่าจะเป็น บ้านเมืองวุ่นวายทุกวันนี้ทั้งหมดมาจากพลเอกสองคน คนหนึ่งเป็นผัว อีกคนเป็นเมีย ยศพลเอกทั้งคู่ พลเอกผัวโกรธผมที่โดนผมเตะขึ้นหิ้งข้างบน จากผบ.ทัพไปเป็นผบ.สูงสุด ส่วนพลเอกเมียคอยจะแก้โผ ผมไม่ยอมให้แก้ก็โกรธผม แล้วก็ไปเพ็ดทูลให้บ้านเมืองวุ่นวาย ต่อมาผัวได้เป็นนายกฯ เมียได้แก้รธน.เพื่อให้ตัวเองได้มีโอกาสเป็นใหญ่อีกครั้ง ก็แย่ครับบ้านเมือง


ตามนัยนี้หากถอดรหัสออกมาสำหรับพลเอกคนผัวตามที่ทักษิณกล่าวหานั้น ผู้ที่อาจจะเข้าข่ายน่าจะเป็นพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เพราะเคยถูกรัฐบาลทักษิณให้พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกขึ้นเป็นทหารสูงสุด และต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ปัญหาว่าพลเอกที่เป็นเมียหมายถึงใคร? เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า พลเอกสุรยุทธ์สมรสกับ พันเอกหญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์

พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินผิดไหม เพี้ยนจากพันเอกเป็นพลเอกหรือไม่? คำตอบคือ ไม่น่าจะเพี้ยน เหตุเพราะว่า

ประการหนึ่ง ในการโฟนอินเที่ยวนี้ได้ย้ำว่าพลเอกอยู่ถึง 4 ครั้ง และย้ำว่าเป็น"พลเอกทั้งคู่" ขณะที่ภรรยาพลเอกสุรยุทธ์นั้นมียศเพียงพันเอก

อีกประการหนึ่ง ในการโฟนอินได้ระบุว่า พลเอกคนเป็นเมีย คอยจะแก้โผโยกย้าย เมื่อไม่ยอมก็โกรธ และภายหลังพลเอกคนเป็นเมียมาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ตนเองมีโอกาสเป็นใหญ่อีกครั้ง ...ก็ยิ่งไกลห่างจากพันเอกหญิงท่านผู้หญิงจิตรวดีที่ไม่เคยมีข่าวทำนองนี้

แต่หากเป็นพลเอกอีกรายที่ว่ามีบารมีและชอบแก้โผโยกย้ายทหารตำรวจ และแก้ไขรัฐธรรมนูญถึงขั้นให้ตนเองใหญ่ขึ้นมากหลังรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็นับว่าใกล้เคียงกับบุคคลนี้มาก

นักท่องเวบบอร์ด กระดานสนทนาการเมืองรายหนึ่ง ถอดรหัสด้วยการใส่รหัสอีกชั้นว่า

555 พลเอกผัว - เขายายเที่ยง
พลเอกเมีย - คงเป็นตุ๊ดเฒ่า 555


ส่วนทักษิณจะมีนัยยะตามนี้หรือไม่...ไม่ทราบ! เพราะหากจะหมายถึงตามนั้นก็นับว่ามีผลเสียหายต่อพลเอกสุรยุทธ์ที่อาจทำให้สังคมเข้าใจท่านไปในทางที่เป็นลบด้วย


ท่อนสองคือการกล่าวหาเจ้าของประเทศขี้ระแวง เจ้าของบริษัทฆ่าพนักงาน


สิ่งที่เขาทำกันภาษิตโบราณเรียกว่าวัวพันหลัก ก็พันคอตัวเองเข้าเรื่อย พันไปพันมา ทำผิดแล้วผิดอีก ทำเรื่องผิดไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรมตลอด เวลานี้ที่เลวร้ายก็คือว่า เปรียบเหมือนบ้าน อยู่ดีๆไม่มีโจรผู้ร้าย มีตำรวจเฝ้าอยู่ดีๆ ไล่ตำรวจออกเอาโจรมาเฝ้า บ้านเลยถูกโขมยของ คอรัปชั่นกันทุกเรื่อง

นี่คือความเลวร้ายในรอบ4-5ปีมานี้ เหตุเพราะเทียบเหมือนบ้าน เจ้าของบ้านระแวงตำรวจ ไล่ตำรวจออก ให้โจรมาเฝ้าแทน มันก็ขโมยเจ้าของบ้าน ก็ปล้นเจ้าของบ้าน อีกหน่อยก็คงข่มขืนเจ้าของบ้าน

เวลานี้ในแง่ส่วนตัวผมเฉยๆ เรื่องกลับเมืองไทย ถ้าไม่ห่วงพี่น้องประชาน ผมก็ทำมาหากินไปได้ สบายๆไม่เดือดร้อนอะไร แต่สงสารชาวบ้านที่ต้องลำบาก จู่ๆเจ้าของประเทศระแวงลูกจ้าง ไล่ลูกจ้างออก เปลี่ยนลูกจ้างไหม่ ไม่ชอบลูกจ้างคนนี้ ไม่ชอบพนักงาน ให้พนักงานออก แจ้งข้อหาพนักงานให้ออก ฆ่าพนักงานมั่ง (เน้นเสียงตรงคำว่าฆ่า) เจ้าของบริษัทไประแวง เสียดายประเทศจริงๆเป็นห่วงพี่น้องคนไทยมากๆ"


ในท่อนหลังนี้จะพบว่าการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณมีคำเปรียบเปรยอยู่ 3 คำหลักๆ คำแรกคือประเทศ-เจ้าของประเทศ,บ้าน-เจ้าของบ้าน,เจ้าของบริษัท-ลูกจ้าง,พนักงาน

ท่อนที่ต้องโฟกัสคือ "จู่ๆเจ้าของประเทศระแวงลูกจ้าง ไล่ลูกจ้างออก" และ"ฆ่าพนักงานมั่ง"

โดยนัยตรงๆแล้ว"เจ้าของประเทศที่ไล่ลูกจ้างออก"คือใคร? ...พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ไล่ทักษิณออกใช่หรือไม่ หรือเป็นคณะทหารคมช.นำโดยพลเอกสนธิ บุณยะรัตกลิน ที่ทำการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549?

หรือเป็นไปตาม ความรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 3 กำหนดว่า"อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้"

คือ"ปวงชนชาวไทย ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย" หรือพูดแบบชาวบ้านคือ"เป็นเจ้าของประเทศ"ได้ไล่ลูกจ้างคือทักษิณออกใช่หรือไม่?

หรือหากไม่ใช่ แล้วใครอีกที่จะเป็นเจ้าของประเทศ?

ส่วนเรื่องเจ้าของบริษัท"ฆ่าพนักงานมั่ง"ตามเสียงที่พ.ต.ท.ทักษิณเน้นในการโฟนอินนั้น คงต้องให้DSIได้สอบสอบสืบสวนกันต่อไปว่า เป็นบริษัทไหนที่มีพฤติการณ์ดังที่ทักษิณกล่าวหา

หากเหลือบ่ากว่าแรงที่DSIจะทำคดีบริษัทนี้ได้ ก็อาจต้องพึ่งศาลโลก ซึ่งทักษิณกล่าวในการโฟนอินคราวนี้ว่า โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายฝรั่งกำลังไปใช้ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่แถลงข่าวยื่นฟ้องต่อศาลโลกในวันที่ 31 มกราคมนี้...

ก็อาจขอแรงให้พ่วงคดีบริษัทปริศนานี้ไปด้วยเสียเลย