พ.ต.อ.ทรงพล วัฒนชัย รองผู้บังคับการกองอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบก.อก.บชน.) แถลงผลการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) วันที่ 2 พฤศจิกายนที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ว่าที่ประชุมได้พิจารณาการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมในวันนั้นมีภาพผู้หญิง 2 คน ได้เขียนข้อความไม่สมควร หรือไม่บังควร
พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.น.ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลตามภาพถ่าย และศาลได้อนุมัติหมายจับบุคคลทั้งสองแล้วในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำภาพถ่ายพกติดตัวไปดำเนินการสืบสวนในทุกด้านที่ คาดว่าจะปรากฏตัว เบื้องต้นผู้หญิงทั้งสองมีความผิดส่วนบุคคล แต่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไปว่า จะมีการเชื่อมโยงอย่างไรต่อไป หรือแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงสนับสนุนหรือไม่ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้กำชับในเรื่องการหมิ่นสถาบันในที่ประชุม ศอฉ.ว่า หากผู้ใดทำผิดต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ด้าน พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม ควบคุมตัวนายวราวุธ ฐานังกรณ์ หรือสุชาติ นาคบางไทร อายุ 52 ปี แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน มายื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลในการฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 2 ปาก และรอผลสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหา พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเกี่ยวข้องกับความ มั่นคง
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
คำร้องฝากขังสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 เวลา 18.05-18.15 น. ผู้ต้องหาได้กล่าวปราศรัยบนเวที นปช.ที่ท้องสนามหลวง ด้วยถ้อยคำที่จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากศาลอาญา ก่อนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณศูนย์อาหารชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าเดอะแพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา