ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 23 October 2010

เจาะ'ประเด็น'พิสูจน์คดียุบปชป.

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ รายงานพิเศษ




คดี ยุบพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีเงิน 29 ล้านบาทใกล้ได้ข้อสรุป ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกร้องนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 ต.ค. พร้อมนัดแถลงปิดคดีด้วยวาจาในเช้าวันที่ 29 พ.ย.

นักกฎหมายที่ติดตามการไต่สวนคดีนี้มาเป็นลำดับตั้งแต่ต้น ได้ตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถชี้แจงหักล้างได้ พร้อมนำพยานหลักฐานมาแสดงผ่านบทความ ดังต่อไปนี้



สิ่งที่จะ นำเสนอนี้เป็นตัวอย่างพยานหลักฐานสำคัญในคดียุบพรรคประ ชาธิปัตย์ จนเป็นเหตุให้นายทะเบียนพรรค การเมืองต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรม นูญมีคำสั่งยุบพรรค

เพราะมีการใช้เงินกองทุนเพื่อพัฒนา การเมือง 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์

ตัวอย่างพยานหลักฐานที่จะแสดง เป็นประเด็นข้อเท็จจริงทางการเงินที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช้โอกาสที่มีในการ ไต่ สวนพยานแต่ละนัดที่ผ่านมาเพื่อหักล้าง

หรือแสดงให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าพยานหลักฐานตามคำร้องของนายทะเบียนพรรคการเมือง (ผู้ร้อง) ไม่ถูกต้อง



การละเลยไม่ชี้แจงหักล้างนี้อาจถือได้ว่าจงใจหลีกเลี่ยงไม่ตอบข้อสงสัย ของประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินกองทุนเพื่อพัฒนาการเมืองที่แท้จริงด้วย

จึงไม่น่าประหลาดใจที่คนในสังคมไทยให้ความสนใจกับคลิปคดียุบพรรคประชา ธิปัตย์ที่มีการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และกำลังจับตามองไปที่การแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรที่กำลังจะมาถึงใน เดือนพ.ย.นี้ว่า

พรรคประชาธิปัตย์จะใช้โอกาสที่มีในเฮือกสุดท้าย ชี้แจงหักล้างพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง ในกรณีข้อพิรุธที่จะกล่าวต่อไปนี้อย่างไร?

หากพรรคประชาธิปัตย์สามารถชี้แจงหักล้างพยานหลักฐานเหล่านี้ได้อย่างตรงไป ตรงมา ปราศจากข้อกังขาแล้ว จะเป็นพรรคการเมืองที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง มีสิทธิ์โดยชอบที่ดำรงอยู่ต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรีในฐานะพรรคการเมืองหนึ่งของ ประชาชนด้วยเหตุผลอันสมควรโดยแท้

มิใช่ชนะด้วยเทคนิคข้อกฎหมายที่ขัดแย้งกับความรู้สึกโดยธรรมของประชาชน



สำหรับประเด็นที่สืบเนื่องมาจากพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรค การเมืองที่ยังรอการชี้แจงหักล้างจากพรรคประชาธิปัตย์ มีดังนี้

1. กรณีการจ่ายค่าจ้างทำป้ายฟีเจอร์บอร์ด (feature board) ให้บริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด จำนวน 23,314,200 บาท พรรคประชาธิปัตย์มีเช็คสั่งจ่ายวันที่ 10 ม.ค.48 แต่มีใบเสร็จรับเงินลงวันที่ 7 ม.ค.48 (ดูตัวอย่างที่ 1)

2. กรณีการจ่ายหมึกสกรีน น้ำมันพิมพ์ป้าย ให้บริษัท วินสันสกรีน จำกัด 1,013,102.23 บาท พรรคประชาธิปัตย์มีเช็คสั่งจ่ายวันที่ 12 ม.ค.48 แต่มีใบเสร็จรับเงินลงวันที่ 11 ม.ค.48 และใบส่งของทุกฉบับลงวันที่ตั้งแต่ 2-30 ธ.ค.47 (ดูตัวอย่างที่ 2)

3. กรณีการจ่ายค่าแผ่นป้ายฟีเจอร์บอร์ด ให้บริษัทป๊อปปูล่า อินเตอร์พลาส จำกัด 1,284,160.50 บาท ตามใบสำคัญรับเงินลงวันที่ 10 ม.ค.48 แต่ใบส่งของกลับระบุเป็นวันที่ 28 ธ.ค.47 และในสำเนาบัตรประชาชนของนายธาตรี ลีลุตานนท์ เพื่อรับเช็ค

ระบุว่า "...รับเงินจากคุณแอน" (ดูตัวอย่างที่ 3)

4. กรณีการจ่ายค่าซื้อแผ่นป้ายฟีเจอร์บอร์ด ให้บริษัท อุตสาหกรรมอีโค่พลาส (ประเทศไทย) จำกัด 4,697,128.80 บาท ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีเช็คสั่งจ่ายวันที่ 10 ม.ค.48 แต่มีใบกำกับภาษี ใบส่งสินค้า และใบเสร็จรับเงินลงวันที่ 23 ธ.ค.47 (ดูตัวอย่างที่ 4)

5. กรณีการสร้างหลักฐานเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบรายงานการใช้จ่ายเงิน โดยการสั่งจ่ายเช็คและใบสำคัญรับเงินจากบริษัท เกิดเมฆ แอ๊ดเวอร์ ไทซิ่ง แอนด์ กรุ๊ป จำกัด 2,093,713.04 บาท มีจำนวนไม่ถูกต้องตรงกับใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี (ดูตัวอย่างที่ 5)

เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของตัวอย่างในสำนวนการไต่สวนคดียุบพรรคครั้งนี้ ยังมีอีกหลายประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ มิเพียงไม่สามารถหักล้างได้เท่านั้น

แต่ยังไม่กล้าแตะต้องเลยด้วยซ้ำ