อ้างอิง : http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=19304
พระปราโมทย์โต้ปกปิดข้อมูลส่วนตัวเตรียมจดทะเบียนหย่าอรนุชยุติข่าวฉาวพร้อมขออโหสิกรรมฐิตินาถ
15 ต.ค. 53 : สวนสันติธรรมได้ออกประกาศชี้แจง เรื่องบัญชีเงินฝากของพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม และนางอรนุช สันตยากร อดีตภรรยา ทันที หลังจากนางฐิตินาถ ณ พัทลุง นักเขียนชื่อดัง ได้ออกรายการเจาะใจอีกครั้ง โดยมีการระบุถึงบัญชีส่วนตัว ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ตรวจพบ อีก 15 บัญชี ที่มีการปกปิด ทางสวนสันติธรรมชี้แจงว่า การร้องเรียนต่อดีเอสไอ 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นเรื่องบัญชีสวนสันติธรรมและการถือครองที่ดิน แต่ไม่มีการร้องเรียนเรื่องบัญชีส่วนตัว จึงได้ส่งมองเอกสารหลักฐานให้ทั้งหมด ก่อนที่จะมีการร้องเรียนเพิ่มเติม จึงได้ส่งมอบข้อมูลเพิ่มเติม จึงไม่ใช่เรื่องที่ดีเอสไอมาตรวจพบบัญชีที่ปกปิดอยู่แต่อย่างใด
ส่วนข้อกล่าวหาว่าพระปราโมทย์ ยักยอกปัจจัยบูชาธรรมจากบัญชีของสวนสันติธรรม พระปราโมทย์ได้เคยกล่าวต่ออดีตกรรมการสวนสันติธรรมและสาธุชนที่เข้าไปฟัง ธรรมอยู่เสมอว่า มีปัจจัยที่ญาติโยมถวายเป็นการส่วนตัวอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจนำไปสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมในอนาคต หรือเพื่อใช้สร้างเจดีย์และพิพิธภัณฑ์ในสวนสันติธรรม เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีแนวความคิดที่จะตั้งสวนสันติธรรมให้เป็นวัด และเพื่อสร้างอุโบสถและเจดีย์ เมื่อมีแนวความคิดที่จะตั้งวัดแล้วตั้งแต่มกราคม 2553 แต่กลับมีการบิดเบือนว่า พระปราโมทย์เก็บปัจจัยไว้เพื่อจะลาสิกขาออกไปครองเรือนในอนาคต
พระปราโมทย์ ยังปฏิเสธเรื่องเงินส่วนตัว 15 บัญชี เพราะ มีเพียง 4 บัญชี เป็นชื่อของนางอรนุช 3 บัญชี และชื่อของพระปราโมทย์ 1 บัญชี โดยบัญชีแรก จำนวนเงินประมาณ 4 แสนบาท เก็บไว้ใช้เป็นเงินรายจ่ายฉุกเฉินของพระปราโมทย์ หรือสวนสันติธรรม แต่หากยังไม่มีการใช้จ่ายในช่วงนั้น ก็จะตัดเงินไปเข้าเงินฝากประจำ บัญชีที่ 2 ประมาณ 3.6 แสนบาท ใช้ชื่อพระปราโมทย์ เพื่อรับเงินบริจาคในรูปของเช็คขีดคร่อม ซึ่งสั่งจ่ายในนามของพระปราโมทย์ โดยตรง บัญชีที่ 3 เป็นเงินฝากประจำ 3 เดือน ประมาณ 5.5 ล้านบาท และบัญชีฝากประจำ 12 เดือน ประมาณ 2 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีสลากออมสินจำนวน 9 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 17 ล้านบาท เพื่อกระจายความเสี่ยงของเงินฝากที่ต้องดูแลรักษาเพื่อใช้ทำประโยชน์เของพระ ศาสนาในอนาคต พร้อมยืนยันว่าเงินบริจาคทั้งหมดมีที่มาชัดเจนจาก 3 ช่องทาง และได้เปิดเผยถึงทรัพย์สินทั้งหมดของสวนสันติธรรมยังมีที่ดินอีกแปลงหนึ่ง หน้าสวนสันติธรรม เนื้อที่ 20 ไร่เศษ ที่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จังหวัดชลบุรีไว้แล้ว
ขณะเดียวกันพระปราโมทย์ยังเตรียมดำเนินการจดทะเบียนหย่ากับนางอรนุช เพื่อลดความกังขา และนำไปเป็นประเด็นบิดเบือน แม้ว่าในทางกฎหมายและพระธรรมวินัย ไม่ได้กำหนดว่าฝ่ายชายจะต้องหย่าขาดจากภรรยาก่อนบวช
ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาพระ ปราโมทย์ทนรับการดูหมิ่นเหยียดหยามจากสังคมมาโดยตลอดหลายปีนั้น ไม่ใช่เพราะไม่สามารถอธิบายความจริงได้ แต่เป็นเพราะไม่ต้องการสร้างความร้าวฉานในวงการของชาวพุทธ และไม่อยากเปิดเผยเรื่องที่อาจสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นนอกจากการให้ อโหสิกรรมกับทุกคนเท่านั้น