สถานการณ์บ้านเมืองที่ต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท อุบัติเหตุ ทางการเมือง มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ก่อนสิ้นปี เชื่อกันว่า การเลือกตั้งในประเทศไทยจะมีขึ้นประมาณเดือน ม.ค.หรือไม่ก็ ก.พ. ปีหน้า ถ้าไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นซะก่อน
การจะแก้ไขวิกฤติการเมืองเฉพาะหน้าโดยการยุบสภาก็ดี หรือเกิดความรุนแรงจนถึงขนาดกองทัพต้องเข้ามายึดอำนาจก็ดี มีการตั้งคำถามว่าแล้วจะเอาเหตุผลอะไรมายุบสภาหรือเข้ามายึดอำนาจ
ของอย่างนี้ประมาทไม่ได้ ดูอย่างการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 การชุมนุมของพันธมิตรฯไม่ได้รุนแรง หรือมีคนเข้ามาชุมนุมจำนวนมากเหมือนเสื้อแดงชุมนุมด้วยซ้ำ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. ยังอ้างเหตุยึดอำนาจซะเลย
หรือการชุมนุมของคนเสื้อแดง 2 ครั้งใหญ่ ที่ต้องมีการสลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะยกประวัติศาสตร์การเมืองครั้งไหนมาเปรียบเทียบ ถือว่าไม่รุนแรงเท่ายุคนี้
น่าจะเป็นเหตุให้ กองทัพเข้ามายึดอำนาจ มากที่สุด กลับไม่มีการยึดอำนาจเกิดขึ้น และทำท่าว่ารัฐบาลที่สั่งสลายการชุมนุมจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ใดๆที่เกิดขึ้น และยังจะสามารถบริหารราชการแผ่นดินไปโดยไร้ความรับผิดชอบ ระเบิดการเมืองรายวันมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับความรุนแรงทางการเมืองไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอนาคต จะมากจะน้อยเท่านั้น
มีข้อน่าสังเกตก็คือ ฝ่ายค้านเปลี่ยนยุทธวิธีเล่นไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยเดินเกมแรง ตอนนี้มุ่งไปที่การต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ตามข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามาในที่ประชุม พรรคเพื่อไทย ขอให้เตรียมพร้อมที่จะเลือกตั้ง ให้นำนโยบายเอาใจรากหญ้าออกสู่สาธารณชนในลักษณะต่อเนื่อง เช่น เรื่องของค่าแรงขั้นต่ำที่ 300 บาท เป็นต้น เห็นว่ายังมีนโยบายทีเด็ดอีกร้อยแปดพันเก้า ซึ่งรัฐบาลชุดนี้คงจะตามไม่ทันอยู่แล้ว เฉพาะแก้ปัญหาที่ยังค้างคาก็ทำท่าว่าจะไปไม่รอด
กลายเป็นเชือกพันคอตัวเอง
ถ้ารัฐบาลประชาธิปัตย์ยังเดินเกมการเมือง ชนิดขุดรากถอนโคน อนาคตคงลำบาก ระเบิด ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ชาวบ้านไม่ได้สงสัยเสื้อแดง แต่สงสัยว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์ เองหรือเปล่า มองว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยาที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยไปฉิบ
พฤติกรรมบางอย่างควรจะทบทวน เพราะกระทบความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศอย่างมาก อาทิ กรณีที่สื่อกัมพูชารายงานว่านายกฯกัมพูชาและนายกฯไทยได้พบปะพูดคุยนอกรอบในที่ประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ มีประเด็นที่จะให้ส่งตัวคนเสื้อแดงกลับประเทศไทย โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาพูดเองว่า หัวข้อการส่งคนเสื้อแดงกลับไทยไม่อยู่ในประเด็นการหารือเลยและถ้ามีผู้ก่อการร้ายมาหลบหนีอยู่ในกัมพูชาก็จะส่งตัวกลับเองโดยไม่ต้องร้องขอ เฮ้อ คงไม่ต้องไปอธิบายอะไรกันยืดยาวซ้ำซากอีกแล้ว.
หมัดเหล็ก