ที่มา Thai E-News
โดย ชำนาญ จันทร์เรือง
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
๒๑ กันยายน ๒๕๕๓
หาก เรายังจำกันได้เมื่อครั้งจบเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙ แล้ว ผู้นำนักศึกษาและประชาชนบางคนถูกตั้งข้อหาในคดีที่เรียกกันว่า “คดี ๖ ตุลา” โดยนายสุธรรม แสงประทุม กับพวกรวมทั้งหมด ๑๘ คน ถูกตั้งข้อหาว่าก่อกบฏ ก่อจลาจล ต่อสู้และพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐ และร่วมกันกระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ ฯลฯ คดีนี้เริ่มต้นที่ศาลทหารโดยมีการฟ้องคดีในวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๒๐
ใน ตอนแรกลักษณะของการพิจารณาคดีไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานความยุติธรรมแต่อย่างใด เพราะผู้ต้องหาไม่มีสิทธิใช้ทนายความพลเรือนในการปกป้องตนเอง แต่หลังจากมีการรณรงค์เรียกร้องทั้งภายในและภายนอกประเทศในเรื่องนี้ และหลังจากที่รัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ถูกล้มไปโดยการรัฐประหารที่เกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์ ๖ ตุลาในอีกหนึ่งปีถัดมา ลักษณะของคดีในศาลก็เปลี่ยนไปและมีการยินยอมให้แต่งตั้งทนายความพลเรือน สำหรับฝ่ายจำเลยได้
แต่การณ์กลับปรากฏว่าแทนที่คดี ๖ ตุลา จะเป็นการพิสูจน์ความผิดของฝ่ายจำเลยโดยฝ่ายรัฐ ตัวฝ่ายรัฐเองกลับกลายเป็นจำเลยที่แท้จริงต่อสังคม นอกจากรัฐจะไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้แล้ว คดีนี้กลายเป็นเวทีในการนำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ ๖ ตุลา ออกมาประกาศต่อสาธารณะ นอกจากนั้นตั้งแต่วันแรกของการขึ้นศาล คดีนี้กลายเป็นเวทีของประชาชนในการประท้วงภายนอกศาลในเรื่องสิทธิเสรีภาพอีก ด้วย ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องรีบประกาศนิรโทษกรรมผู้ต้องหาทั้งหมดในวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๒๑ ก่อนที่ข้อมูลอื่นๆ จะออกมาสู่สาธารณะและจะวกกลับมาเล่นงานตนเองและเจ้าหน้าที่
เหตุผลใน การประกาศกฎหมายนิรโทษกรรมในคราวนั้น คือ โดยที่รัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่า การพิจารณาคดีเนื่องในการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระหว่างวันที่ ๔ ถึงวันที่ ๖ตุลาคม ๒๕๑๙ นั้น ได้ล่วงเลยมานานพอสมควรแล้วและมีท่าทีว่าจะยืดเยื้อต่อไปอีกนาน ถ้าจะดำเนินคดีต่อไปจนเสร็จสิ้นก็จะทำให้จำเลยต้องเสียอนาคตในทางการศึกษา และการประกอบอาชีพยิ่งขึ้น และเมื่อคำนึงถึงว่าการชุมนุมดังกล่าวก็ดี การกระทำอันเป็นความผิดทั้งหลายทั้งปวงก็ดี เกิดขึ้นเนื่องจากความไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่แท้จริงเพราะเหตุแห่งความ เยาว์วัยและการขาดประสบการณ์ของผู้กระทำความผิด
ประกอบกับรัฐบาล นี้มีความประสงค์อย่างแน่วแน่ที่จะให้เกิดความสามัคคีในระหว่างชนในชาติ จึงเป็นการสมควรให้อภัยการกระทำดังกล่าวนั้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กระทำความผิดทั้งผู้ที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่และผู้ที่ หลบหนีไปได้ประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ถูกที่ควรและกลับมาร่วมกันทำคุณ ประโยชน์และช่วยกันจรรโลงประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการ ชุมนุมในหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระหว่างวันที่ ๔ ถึงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๒๑ โดยมีพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเกิด กรณีพฤษภาอำมหิตขึ้นในปี ๒๕๕๓ นี้ จึงได้มีความพยายามที่จะยกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมขึ้นมาอีกด้วยเหตุผลในทางลึก ก็คือเมื่อคดีขึ้นสู่ศาลแล้วย่อมต้อมมีการอ้างพยานหลักฐานต่างๆนานาขึ้นมา ต่อสู้กันในศาล ซึ่งย่อมที่จะหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่ฝ่ายรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่าย ศอฉ.จะต้องกลับกลายมาเป็นจำเลยของสังคมดังเช่นกรณี ๖ ตุลาที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ร่างกฎหมายที่รอการบรรจุวาระนั้น เป็นร่าง พรบ.นิรโทษกรรมผู้ก่อเหตุความไม่สงบทางการเมืองตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ จนถึงปี ๒๕๕๒ โดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เป็นผู้เสนอตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี ๒๕๕๒และพรรคภูมิใจไทยจะเสนอเพิ่มเติมเข้าไปใหม่แทนร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดิมให้ครอบคลุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปี ๒๕๕๓ไปด้วยโดยใช้ชื่อว่า “พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมืองของ ประชาชนระหว่างวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม๒๕๕๓ พ.ศ.....”
โดยให้เหตุผลว่าสืบเนื่องจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ประเทศไทยได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง มีการแบ่งแยกทางแนวความคิด ทำให้เกิดการประท้วง มีการรวมกลุ่มและชุมนุมของประชาชน ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวเกิขึ้นภายใต้ความคิดและความขัดแย้งทางการเมืองอย่าง รุนแรง จึงเป็นผลให้มีการกระทำความผิดทางอาญาและขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย
แต่เมื่อได้พิจารณาเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เห็นว่าประชาชนที่มาร่วมประท้วงเรียกร้องทางการเมืองล้วนแสดงออกทางความเห็น ทางการเมืองโดยสุจริต การเกิดหตุการณ์วุ่นวายและนำมาซึ่งความร้ายแรงตามกฎหมายได้ยุติไปแล้ว เพื่อให้ประเทศชาติมีความรักความสามัคคีและรู้จักการให้อภัย จึงเห็นควรออกกฎหมายดังกล่าว โดยมีเนื้อหาที่สำคัญโดยย่อ ดังนี้
มาตรา ๓ บรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นของบุคคลใดๆ ที่เกิดขึ้นในหรือเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมประท้วงเรียกร้องทางการเมืองของ ประชาชน ระหว่างวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ถึง วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ และได้กระทำในระหว่างวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ถึง วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ไม่ว่าจะได้กระทำในกรุงเทพมหานครหรือในต่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักรแลไม่ว่า จะได้กระทำในฐานะที่เป็นตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำหรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดทั้งในทางอาญาและทาง แพ่งโดยสิ้นเชิง
มาตรา ๔ บรรดาการกระทำของเจ้าพนักงานหรือผู้ช่วยเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการเกี่ยวกับ หรือกระทำต่อบุคคลที่ร่วมชุมนุม และได้กระทำขึ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา ๓ ไม่ว่าจะได้กระทำในฐานะผู้ออกคำสั่งหรือผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง หากการกระทำนั้นผิดกฎหมายก็ให้ผู้กระทำนั้นพ้นจากความผิดและความรับผิดในทาง อาญาและทางแพ่ง รวมทั้งความผิดทางวินัยโดยสิ้นเชิง
มาตรา ๗ โดยผลของการนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.นี้ ให้ศาลปล่อยตัวจำเลยทั้งหมดซึ่งถูกฟ้องหรือ คุมขังอยู่และให้พนักงานสอบสวนยุติการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งถูกกล่าวหา
มาตรา ๘ การนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.นี้ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้ได้รับนิรโทษกรรมในอันที่จะฟ้องร้องเรียกสิทธิประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
โดย ในมาตรา ๕ ได้บัญญัติให้ไม่มีผลนิรโทษกรรมแก่ผู้ที่เป็นตัวการในการกระทำอันเป็นความ ผิดในลักษณะความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน และความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายไว้ด้วยซึ่งก็เป็นประเด็นปัญหาใหญ่อีก ล่ะครับว่าใครคือตัวการตามความหมายนี้
ผมเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วร่าง กฎหมายฉบับนี้ก็คงต้องเข้าสู่สภาดังเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นในกรณี ๖ ตุลา ๑๙ และเนื้อหาคงมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างตามการแปรญัตติของ ส.ส.และ ส.ว. โดยถึงแม้ว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์จะแสดงละครลิงชิงหลักกับพรรคภูมิใจ ไทยอยู่ก็ตาม
นอกจากนั้นพรรคภูมิใจไทยยังระดมล่ารายชื่อเพื่อเสนอ กฎหมายนี้อีกทางหนึ่ง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแล้วทำไม่ได้เพราะประชาชนไม่มีสิทธิเสนอกฎหมายในลักษณะนี้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับหมวด ๓ ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของชนชาวไทยและหมวด ๕ ว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ให้ประชาชนเพียง ๑๐,๐๐๐ชื่อเท่านั้นก็สามารถเสนอกฎหมายได้โดยไม่จำเป็นต้องล่าชื่อกันเป็นแสน ตามที่พรรคภูมิใจไทยกำลังพยายามทำอยู่นี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะผ่านสภาก็คงมีการปะทะกันในทางความคิดกัน อย่างหนักไม่ว่าจะจากฝ่ายไหนหรือสีไหนก็ตาม
จะอย่างไรก็แล้วแต่ถึง แม้ว่าจะมีกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ออกมาแล้วก็ตาม ผมก็ยังยืนยันอีกครั้งว่าผู้ที่รับผิดชอบทั้งหลายไม่สามารถรอดพ้นจากอำนาจ ของศาลอาญาระหว่างประเทศ(International Criminal Court) ไปได้ เพราะอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศสามารถดำเนินการเอาผิดต่อผู้ที่กระทำผิดต่อ มวลมนุษยชาติได้ ถึงแม้ว่าจะมีการออกกฎหมายมานิรโทษกรรมเขาเหล่านั้นแล้วก็ตาม ที่สำคัญก็คือคดีประเภทนี้ในศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีอายุความเสียด้วยสิ ครับ
ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง
ข่าวจากสื่อ
- เครือข่ายประชาธิปไตยแห่ผูกผ้าดำหน้าศาลรธน. จี้ทบทวนมติ
- นายกฯ เปิดงาน"เทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปี 2555"
- "ศันสนีย์"โฆษกรัฐบาลคนใหม่เผยพร้อมประชาสัมพันธ์งาน รบ.เชิงรุก
- ชี้ทางออก"ปรองเดือด"สู่"ปรองดอง"
- เสื้อแดงแจ้งธาริตเอาผิดมาร์ค-สุเทพฐานสร้างความปั่นป่วน
- ห่วงบานปลาย คอป.ห้ามทัพ พท.-ศาลรธน.
- นปช.นัดชุมนุมขับไล่ศาล รธน. พร้อมล่ารายชื่อถอดถอนใน 2 สัปดาห์
- "พานทองแท้" สอนมวย "มาร์ค"-จี้ขอโทษประชาชน ฐานปล่อยส.ส.โชว์เถื่อนในสภา
- ใช้ปมแก้รธน. ยุบเพื่อไทย ดูดสส.ตั้งรบ.
- "สมศักดิ์ เจียมฯ" เสนอรบ.-สภา "ชน" ศาลรธน. จี้พท.-นปช.ทบทวนยุทธศาสตร์การเมืองทั้งหมด
- นิติราษฎร์" แถลงชี้-ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- นิติราษฎร์แถลงชี้คำสั่งศาลรธน.ชะลอแก้รธน. 'ไร้อำนาจ'
- งามแต้ๆ เจ้า! "นายกฯ ปู" แต่งชุดพื้นเมือง-ผ้าซิ่นสีชมพูแอ่วเมืองพะเยา ปชช.แห่ต้อนรับเพียบ (ชมภาพชุด)
- กกต.เชียงใหม่เตรียมรับรองผลเลือกตั้งส.ส.ใน 7 วัน-"เกษม" ขอบคุณปชช.
- "จาตุรนต์"ปลุกกระแสต้าน"รัฐประหาร" ชี้ปม"ศาลรัฐธรรมนูญ"สั่งสภาฯระงับพิจารณาร่างรธน.
- “จาตุรนต์” ชี้ อำนาจประชาชนถูกปล้น- “ชนชั้นนำ” ไม่อยากปรองดอง - คาดเกิด “ยุบพรรค” อีกรอบ
- "ปู"ทำบุญเปิดหอฉันวัดเชียงบาน ชาวพะเยากว่า2,000คนต้อนรับแน่น
- อาจารย์เกษียร เสียดาย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" คิดได้แค่นี้หรือ..!?!
- ขึ้นป้ายไล่"หมอวรงค์"ทำคนพิษณุโลกอับอาย
- โลกออนไลน์ เบื่อหน่ายพฤติกรรม ส.ส. ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา
- "เรืองไกร" ฉวย! ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ "ณัฎฐ์" ดูคลิปหวิวในสภา อ้างนำความเสื่อมเสียมาสู่สภาฯ
- แกนนำนปช...."อย่าเป็นวัวลืมตีน"
- ข่าว"เหตุเกิดในมาเลเซีย" ข่าว"เมด อิน ไทยแลนด์" ข่าวกระพือ"ไฟใต้"
- "ณัฐวุฒิ" สวน "กรณ์" ขวางปรองดอง-ไม่ทวงข้อเท็จจริง "10เมษา" ตั้งแต่ยุค "รบ.อภิสิทธิ์"(ชมคลิป)
- เสียงก้องจาก 2 กูรู "ตุลาการ" ไม่มีอคติ ไม่มีล็อบบี้ ไม่มีใบสั่ง
- "ทักษิณ"เข้าสักการะพระธาตุหลวง-เผยซึ้งใจได้ทำบุญ แกนนำแดง อดีต ส.ส. แห่รับพรึบ (ชมคลิป)
- "จตุพร" ท้าตั้ง คตส.ตรวจสอบการทำงาน "มาร์ค-ชวน" เหมือนกับที่ทำกับ "ทักษิณ" ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- "หาดใหญ่"อ่วมซ้ำ ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์กลางเมืองวอดเรียบ!
- "ทักษิณ"ทำบุญสีบชะตาที่ลาว ลั่นไม่นานเกินรอกลับไทย ขบวนแดงแห่ร่วมคึก
- “แม้ว” ทำบุญในลาวแฟนคลับเสื้อแดงแห่รับเพียบ
บทความจากสื่อ
- ประชาธิปัตย์...เปลี่ยนเถอะ !โดย ฐากูร บุนปาน
- กฤษฎีกาชี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งชะลอลงมติร่าง รธน.วาระ 3 ไม่เคยเกิดขึ้นในโลก บอกไร้ช่องทางต่อสู้
- เกม"แก้ รธน.291" สภาชน"ศาลรัฐธรรมนูญ" เกมค่ายกล′ยุบพรรค′?
- ปัญหา"มาตรา68" สกัด"ร่างแก้ไขรธน. แหลมคมจาก"นิติราษฎร์"
- งามหน้าสภาไทย ! เมื่อท่านประธานฯ ถูกจี้คาบัลลังก์
- แกะกล่อง "หัวใจสองสี" ขัตติยา สวัสดิผล
- "ทักษิณ-เพื่อไทย"ปรับแผน เปลี่ยน"รูปมวย"...รู้จัก"รอ" ย้ำภาพ"ฝ่ายมีเปรียบ"
- ฐากูร บุนปาน : เจรจา-ผิดตรงไหน?
- พระราชทานเครื่องราชฯ 'มหาปรมาภรณ์' แก่นายกฯ
- ซ่อนหลัง"หน้ากาก"
- ดร.โกร่ง คนเดินตรอก : การบริหารจัดการมหเศรษฐกิจ
- ยอดคลิกทะลุ! รวมข่าวที่มีคนอ่านมากที่สุดใน "มติชนออนไลน์" ประจำวันที่ 6เม.ย.2555
- วิเคราะห์ปัญหา-ค้นคว้าทางออกของเหตุความรุนแรงภาคใต้กับ "ชัยวัฒน์-รอมฎอน"
- ปฏิบัติการ "ป๋า" ภาค 2 สู้ "นารีพิฆาต" กับปากคำ "บิ๊กบัง" เรื่อง "ป๋า" และการเมืองแสนซับซ้อน ในมุม "ประยุทธ์"
- กลุ่มสตรีมองปมร้อน'โฟร์ซีซั่นส์'
- ดูกันชัดๆ บทบาทฝ่ายค้าน เล่นของ ว. 5 ปักทิ่ม ยิ่งลักษณ์ เอาให้ตาย!!
- ต่อสู้ 2 แนวทาง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ กรณี โฟร์ซีซั่นส์
- นิวัฒน์ธำรง-ลงธรรมาสน์ ธุดงค์ในทำเนียบ เผยแพร่ลัทธิเพื่อไทย กางสูตรรัฐบาล + พล.อ.เปรม = การเมืองนิ่ง
- ยกร่าง′รัฐธรรมนูญ′ และความห่วงใย ล็อกสเปก′สภาร่างฯ′
- "กุนซือ" คิด "ปคอป." พูด ข้อมูล-คีย์เวิร์ด "เยียวยา"