เหล็กใน
ถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครออกมาชี้แจงให้กระจ่างสำหรับการเรียกร้องให้รัฐบาลและศอฉ.เปิดเผยงบประมาณที่ใช้ไปทั้งหมดในช่วงประกาศพ.ร.ก.การ บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เพราะมีการคาดการณ์กันว่าศอฉ.น่าจะใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 5 พันล้านบาท
แยกเป็นเบี้ยเลี้ยงจ่ายให้ทหาร 6.7 หมื่นนาย ตำรวจอีก 2.5 หมื่นนาย
กับค่าใช้จ่ายด้านยุทโธปกรณ์ต่างๆ อาทิ น้ำมันเติมรถถัง รถหุ้มเกราะ รถยีเอ็มซี ค่ากระสุนปืน ฯลฯ
รวมทั้งค่าตัวโฆษกไก่อูที่มีข้อมูลว่ารับวันละหลักหมื่นบาท
การใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ และตามรัฐธรรมนูญแล้วประชาชนมีสิทธิ์ให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ต่อสาธารณชน
น่าแปลกใจก็ตรงที่ไม่มีใครยอมชี้แจงเรื่องนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. หรือแม้แต่เสธ.ไก่อู โฆษกคนดัง
ทุกคนพูดแค่ว่ายังบอกตัวเลขเงินที่ใช้ไปไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ปิดบัญชี
พูดแบบนี้ ชาวบ้านตาดำๆ ก็ต้องก้มหน้ายอมรับ จะใช้เงินไปเท่าไหร่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปตรวจสอบ
แม้ว่าจะนำเงินงบประมาณไปใช้ปราบปรามประชาชนก็ตาม
และคงไม่มีใครกล้าออกมาท้วงติงอีก
ไม่เช่นนั้นอาจโดนหมายเรียกจากศอฉ.ให้ไปรายงานตัวข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ตัวอย่างล่าสุดคือนายวสันต์ สายรัศมี หนุ่มกู้ภัย โดนหมายเรียกศอฉ.ไปติดหน้าบ้าน
ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าศอฉ.จะจับขังเลยหรือเปล่า !?
แต่นายวสันต์คนนี้เป็นผู้ที่ออกมาทวงความยุติธรรมให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาพยาบาลที่เสียชีวิต 4 ศพในเหตุการณ์สลายม็อบแดง
เป็นพยานคนสำคัญคดีสังหาร 6 ศพในวัดปทุมวนาราม
สุดท้ายก็ไม่รอดโดนหมายศอฉ.ไปตามระเบียบ
ก่อนหน้านี้ มีนักกิจกรรมทางสังคมออกมาแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะก็โดนศอฉ.จับกุมยัดคุก
นักวิชาการหรืออาจารย์มหาวิทยาลัยที่สนับสนุนแนวคิดของนปช.โดนยัดเยียดข้อหา ถูกลิดรอนเสรีภาพ
คนเสื้อแดงอีกจำนวนมากก็ยังถูกจองจำอยู่ตอนนี้
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีอำนาจล้นฟ้าจริงๆ กดขี่กดหัวประชาชน
ใครคิดต่างเห็นต่างก็กลายเป็นศัตรู ถูกตามเช็กบิลทันที
ต้องขอยืมวาทะของพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อ.ตร.คนดังยุคอัศวินผยอง มาปรับเปลี่ยนให้เข้าสถานการณ์ตอนนี้
"ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ศอฉ.ทำไม่ได้"
เพราะมีการคาดการณ์กันว่าศอฉ.น่าจะใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 5 พันล้านบาท
แยกเป็นเบี้ยเลี้ยงจ่ายให้ทหาร 6.7 หมื่นนาย ตำรวจอีก 2.5 หมื่นนาย
กับค่าใช้จ่ายด้านยุทโธปกรณ์ต่างๆ อาทิ น้ำมันเติมรถถัง รถหุ้มเกราะ รถยีเอ็มซี ค่ากระสุนปืน ฯลฯ
รวมทั้งค่าตัวโฆษกไก่อูที่มีข้อมูลว่ารับวันละหลักหมื่นบาท
การใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ และตามรัฐธรรมนูญแล้วประชาชนมีสิทธิ์ให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ต่อสาธารณชน
น่าแปลกใจก็ตรงที่ไม่มีใครยอมชี้แจงเรื่องนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. หรือแม้แต่เสธ.ไก่อู โฆษกคนดัง
ทุกคนพูดแค่ว่ายังบอกตัวเลขเงินที่ใช้ไปไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ปิดบัญชี
พูดแบบนี้ ชาวบ้านตาดำๆ ก็ต้องก้มหน้ายอมรับ จะใช้เงินไปเท่าไหร่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปตรวจสอบ
แม้ว่าจะนำเงินงบประมาณไปใช้ปราบปรามประชาชนก็ตาม
และคงไม่มีใครกล้าออกมาท้วงติงอีก
ไม่เช่นนั้นอาจโดนหมายเรียกจากศอฉ.ให้ไปรายงานตัวข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ตัวอย่างล่าสุดคือนายวสันต์ สายรัศมี หนุ่มกู้ภัย โดนหมายเรียกศอฉ.ไปติดหน้าบ้าน
ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าศอฉ.จะจับขังเลยหรือเปล่า !?
แต่นายวสันต์คนนี้เป็นผู้ที่ออกมาทวงความยุติธรรมให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาพยาบาลที่เสียชีวิต 4 ศพในเหตุการณ์สลายม็อบแดง
เป็นพยานคนสำคัญคดีสังหาร 6 ศพในวัดปทุมวนาราม
สุดท้ายก็ไม่รอดโดนหมายศอฉ.ไปตามระเบียบ
ก่อนหน้านี้ มีนักกิจกรรมทางสังคมออกมาแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะก็โดนศอฉ.จับกุมยัดคุก
นักวิชาการหรืออาจารย์มหาวิทยาลัยที่สนับสนุนแนวคิดของนปช.โดนยัดเยียดข้อหา ถูกลิดรอนเสรีภาพ
คนเสื้อแดงอีกจำนวนมากก็ยังถูกจองจำอยู่ตอนนี้
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีอำนาจล้นฟ้าจริงๆ กดขี่กดหัวประชาชน
ใครคิดต่างเห็นต่างก็กลายเป็นศัตรู ถูกตามเช็กบิลทันที
ต้องขอยืมวาทะของพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อ.ตร.คนดังยุคอัศวินผยอง มาปรับเปลี่ยนให้เข้าสถานการณ์ตอนนี้
"ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ศอฉ.ทำไม่ได้"