ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Monday, 26 July 2010

อย่าเดินคด

ที่มา ข่าวสด

บทบรรณาธิการ


มีข้อสงสัยและคำถามถึงมาตรฐานในกระบวนการทำคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ในการทำคดีข้อหาก่อการร้ายกับนายสุรชัย เทวรัตน์ หรือหรั่ง

ตั้งแต่การระบุว่าผู้ต้องหามีความเกี่ยวพันกับความผิดถึง 8 คดี
โดยที่ผู้ต้องหายังมิได้ให้การใดๆ หรือไม่รับสารภาพ

และยังมิได้มีการแสดงหลักฐานหรือข้อมูลใดๆ
ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาเกี่ยวพันกับความผิดที่ถูกระบุเอาไว้จริง

ล่าสุด ยังระบุว่าพร้อมจะกันตัวมารดาและภรรยาของผู้ต้องหาเอาไว้เป็นพยาน

แลกกับการที่จะให้ผู้ต้องหารับสารภาพตามข้อหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษระบุเอาไว้


ประเด็นที่จะต้องพิจารณามีอยู่ว่า
หากกรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่ามารดาและภรรยาของผู้ต้องหา มีความเกี่ยวข้องกับคดี อาทิ
เป็นผู้รับประโยชน์จากการซื้อขายอาวุธจริง

แม้พนักงานสอบสวนจะมีอำนาจในการกันตัวผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นพยาน
เพื่อประโยชน์ของการดำเนินคดี

แต่ที่จะต้องพิจารณาเป็นเบื้องต้นก็คือ
ภรรยาและมารดาของนายสุรชัยมีส่วนร่วมในคดีที่ถูกระบุถึงจริงหรือไม่

และถึงหากทั้งสองตกเป็นผู้ต้องหาหรือผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย

ก็ยังมีคำถามว่าสมควรหรือไม่ที่จะใช้วิธีการ "ต่อรอง" กับผู้ต้องหาสำคัญ

แน่ใจหรือว่าข้อมูลที่ได้จากการต่อรองเช่นนี้คือข้อมูลที่แท้จริง


เพราะหากมั่นใจในข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ ย่อมไม่มีความจำเป็นอย่างใดเลย
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะต้องใช้วิธีการนอกรูปแบบ
เพื่อ "รีด" เอาคำสารภาพจากผู้ต้องหาให้มามัดตัวเองหรือโยงไปสู่บุคคลอื่นๆ ที่ต้องการ

และเพราะวิธีการดำเนินคดีที่ "ล้ำเส้น" ของความเป็นพนักงานสอบสวนที่ดีนี่เอง
ที่ทำให้สังคมตั้งคำถามเอากับความเที่ยงตรงชอบธรรมของกรมสอบสวนคดีพิเศษเอง

ในสถานการณ์ที่หมิ่นเหม่ล่อแหลม
ในสถานการณ์ที่ความยุติธรรมความตรงไปตรงมาจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหา
หรือสร้างความสมานฉันท์

การกระทำอื่นๆ นอกเหนือไปจากนี้มีแต่จะก่อปัญหายิ่งขึ้นกว่าเดิม