ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 1 July 2010

บันทึกสีแดงจากที่คุมขังถึงมาร์ค

ที่มา Thai E-News



โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา กระดานสนทนาประชาไท
30 มิถุนายน 2553

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย อดีตผู้ถูกคุมขังคดีฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ จะไปยื่นหนังสือต่อสำนักงาน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้ดำเนินการเคลื่อนไหวปล่อยตัว"บก.ลายจุด"นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ซึ่งถูกควบคุมตัวข้อหาฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งให้ยกเลิกประกาศฉุกเฉินด้วย

ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่เข้าเยี่ยมนายสมบัติเปิดเผยภาพถ่ายบันทึกลายมือของนายสมบัติเขียนด้วยปากกาสีแดงหลายฉบับ ระหว่างถูกควบคุมตัวในที่คุมขัง ค่ายตชด.ปทุมธานี ซึ่งมีเนื้อหาบางตอน ดังนี้

เบื้องบนมีเพดาน
เบื้องล่างมีพื้นปูน
เบื้องหน้ามีลวดหนาม
เบื้องลึกยังมีความคิดจักยังต่อสู้

ยุงกินเลือดเราแต่น้อยเพื่อมันดำรงอยู่
กระสุนกินเลือดเราหมดร่างเพื่ออำนาจผู้สั่งการดำรงอยู่

ห้ามฉันพูด ฉันก็จะพิมพ์
ห้ามฉันพิมพ์ ฉันก็จะเขียน
ห้ามฉันเขียน ฉันก็จะคิด
หากห้ามฉันคิด ก็ต้องห้ามลมหายใจฉัน

ขอบคุณที่อภิสิทธิ์พาฉันมาปรองดองที่ค่ายตำรวจตระเวณชายแดนวันหนึ่งคุณคงได้มีโอกาสมานอนปรองดองที่นี่บ้าง ฉันจะรอ

ฉันคว้าปากกาสีแดง แล้วเดินไปที่ป้ายที่ติดไว้บนตึกนอน หาพื้นที่ว่างบนป้ายนั้น แล้ววาดรูปพระอาทิตย์หกแฉกลงไป ข้างๆตัวอักษรเขียนว่าประกาศ

ฉันหยิบเสื้อแดงตัวเก่าที่ยังไม่ได้ซักมาใส่ เพื่อต้อนรับคนเสื้อแดงที่มาเยี่ยม มันคงไม่สกปรกไปกว่ามือที่เปื้อนเลือดของใครบางคนที่ล้างไม่มีทางออก

นายตำรวจยศพล.ต.ต.ท่านหนึ่งขอนั่งคุยกับผมในฐานะหัวหน้าชุดอะไรสักอย่าง เขาเป็นผู้ฟังที่ดีมากคนหนึ่งที่ผมเคยคุยด้วย เขาเรียกการสนทนานี้ว่า"การซักถาม"ไม่ใช่การสอบสวน ส่วนผมบอกกับเขาว่า ผมเรียกสิ่งนี้ว่า"การสนทนา" เพียงแต่ว่าบทสนทนานี้จะถูกเขียนเป็นรายงานให้กับผู้บังคับบัญชา

อย่ามาบอกผมว่า ผมมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิอะไร
สิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งที่ผมมีมาตั้งแต่เกิด
แต่สิ่งที่คุณต้องพูดคือ คุณละเมิดสิทธิของผมอย่างไรต่างหาก

ความคิดที่เสรีบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่สิ่งที่ต้องถูกควบคุม
ความคิดและการกระทำในการละเมิดสิทธิของประชาชนต่างหาก ที่ต้องถูกควบคุม

via;@สมบัติ บุญงามอนงค์



ทนายยื่นคำร้องปล่อยตัวบก.ลายจุด ศาลนัดไต่สวน 2 ก.ค.

ประชาไท รายงานว่า นายอานนท์ นำภา ทนายความของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด หรือหนูหริ่ง นักกิจกรรมซึ่งถูกคุมตัวตามหมายควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ที่บก.ตชด. คลอง5 ปทุมธานี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอปล่อยตัวเนื่องจากการควบคุมตัวไม่ชอบ ศาลนัดไต่สวนในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทนายความได้ยื่นคำร้องขอคัดถ่ายคำร้องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องต่อศาลเพื่อขอหมายควบคุมตัวนายสมบัติ แต่ศาลไม่อนุญาตให้ดูหรือคัดถ่ายสำเนาดังกล่าว

คำร้องขอปล่อยตัว ระบุว่า วันที่ 26 มิ.ย.เวลาประมาณ 17.20 น.ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวผู้ร้องที่ทำกิจกรรมผูกผ้าแดงรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมอยู่ที่แยกราชประสงค์ โดยแสดงหมายควบคุมตัวตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ 116/2553 ลงวันที่ 21 พ.ค.53 อ้างว่าผู้ร้องเป็นผู้ต้องสงสัยตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีความจำเป็นเพื่อป้องกันมิให้กระทำการหรือร่วมกระทำการอันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ให้นำผู้ร้องไปควบคุมตัวที่ บก.ตชด. ซึ่งการควบคุมตัวดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการเพราะการออกหมายดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นเท็จและบิดเบือน ผู้ร้องมิได้มีพฤติการณ์ที่จะกระทำการหรือร่วมกระทำการอันจะทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงดังที่เจ้าพนักงานกล่าวอ้าง

นอกจากนี้การควบคุมตัวดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจโดยไม่สุจริต มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง เพราะตั้งแต่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รัฐบาลได้กระทำการอันเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างรุนแรงหลายประการอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น การปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารของประชาชน ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 45 ซึ่งมิได้บัญญัติข้อยกเว้นไว้แต่อย่างใด, การห้ามมิให้ประชาชนชุมนุมทางการเมืองอันเป็นสิทธิพื้นฐาน โดยรัฐบาลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงให้การชุมนุมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย, มีการใช้กำลังสลายการชุมนุมอย่างอำมหิต ไร้มนุษยธรรม ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก, มีการจับกุม ควบคุมตัวประชาชนผู้เห็นต่างกับรัฐอย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีการคุกคามประชาชนผู้เห็นต่างกับรัฐบาล ใช้กฎหมายกลั่นแกล้งพยายามดำเนินคดีโดยตั้งข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งล้วนเป็นการใช้อำนาจไปตามอำเภอใจของรัฐบาล ขัดต่อหลักนิติธรรม เป็นการลุแก่อำนาจซึ่งศาลทราบดีอยู่แล้ว

คำร้องระบุอีกว่า คำร้องขอควบคุมตัวผู้ร้องนั้น มิได้เป็นดังที่เจ้าพนักงานกล่าวอ้าง เพราะรัฐบาลได้สลายการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 14-19 พ.ค.โดยใช้กำลังทหารทั้งที่การชุมนุมเป็นไปโดยสงบ ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากซึ่งข้อเท็จจริงทั้งหลายเหล่านี้ศาลทราบดีอยู่แล้ว ผู้ร้องเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ไม่อาจนิ่งดูดาย ในวันที่ 21 พ.ค.ผู้ร้องและประชาชนจำนวนหนึ่งจึงนัดพบปะทำกิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร นำภาพถ่ายมาแสดงในเชิงนิทรรศการโดยมิได้ก่อความรุนแรงแต่อย่างใดและการแสดงความคิดเห็นก็เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ การจงใจใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาควบคุมตัวผู้ร้องจึงเป็นการใช้กฎหมายโดยไม่สุจริต

นอกจากนี้การจะจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นก็ต้องทำเท่าที่จำเป็นและจะกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธินั้นไม่ได้ ซึ่งอำนาจตุลาการเป็นองค์กรเดียวที่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร และอำนวยความยุติธรรมแก่ผู้ร้องได้ จึงขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเรียกและเบิกตัวผู้ร้องมาไต่สวนต่อหน้าศาล ไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง และมีคำสั่งปล่อยตัวผู้ร้องเนื่องจากเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้ร้องด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของสังคมและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมแก่ผู้ร้องและประชาชนผู้ถูกจับและควบคุมตัวอีกเป็นจำนวนมากสืบไป