ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Friday, 26 February 2010

ยุติธรรมอำมหิตหวยล็อกออกตามโผ บลูมเบิร์กชี้หุ้นชินขึ้นจิ๊บๆ หุ้นเครือทรัพย์สินฯพุ่ง717%

ที่มา Thai E-News



แต่งดำไว้ทุกข์-พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ใส่ชุดดำไว้ทุกข์ให้คำพิพากษายึดทรัพย์4.6หมื่นล้านบาท คืนให้3หมื่นล้านบาท โดยระบุว่า จะแสวงหาความยุติธรรมไม่ว่าในนรก สวรรค์ ในประเทศหรือนอกประเทศ วันนี้ผมไม่ได้รับความยุติธรรม ผมจะแสวงหาความยุติธรรมต่อไป


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
26 กุมภาพันธ์ 2553

หวยล็อกออกตามโผสูตรยึดบางส่วนคืนบางส่วน ที่สื่อสิงคโปร์นำเสนอข่าวล่วงหน้ามาตั้งแต่วันที่18ก.พ. ส่งผลให้นักเลงหุ้นต่างชาติซื้อหุ้นไทยดักหน้า เพราะเชื่อว่าเป็นสูตรที่ทำให้การเมืองไทยประนีประนอมกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุหุ้นSHINช่วงทักษิณเป็นนายกฯจนถึงวันขายให้เทมาเส็กขึ้นน้อยกว่าตลาดรวม ขณะที่ปูนใหญ่-ไทยพาณิชย์ของสำนักงานทรัพย์สินฯขึ้นพรวด717% ทักษิณโอดไม่ได้รับความยุติธรรม ขอสู้ต่อไป ซัดอำมาตย์ไม่เกลียดคนทุจริตแต่ไม่ชอบคนป๊อบปูลาร์


หวยล็อกแม่นจริงๆสูตรยึดบางส่วน คืนบางส่วน

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าผลตัดสินจะออกมาในสูตร"ยึดบางส่วน คืนบางส่วน"เพื่อให้เกิดการประนีประนอมกัน ปรากฎว่าผลตัดสินออกมาคือยึด46,373ล้านบาท คืนให้30,247ล้านบาท

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์บล็อก Bangkok Pundit รายงานว่า นายปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ ซึ่งกำลังอยู่ที่ Institute of Southeast Asian Studies สิงคโปร์ เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Strait Times สื่อของสิงคโปร์ ดังต่อไปนี้

สัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้อยู่ "วงใน" ที่เกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์ของทักษิณ ผมได้รับการบอกว่า ตุลาการ 9 คนที่ได้รับมอบหมายให้พิจารณาคดีตระหนักดีว่า คำตัดสินของพวกเขาสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าการเมืองไทยได้ ดังนั้น พวกเขาจะพยายามทำให้สถานการณ์มีความสงบและบรรลุซึ่งการประนีประนอมบางอย่าง กับขบวนการที่เชียร์ทักษิณ

เป็นไปได้อย่างมากว่า ตุลาการจะแบ่งทรัพย์สินทักษิณออกเป็น 3 ส่วน เพื่อยุติจุดตันทางการเมืองของไทย ทรัพย์สินบางส่วนคงจะถูกยึด, บางส่วนอายัดไว้ (frozen) และบางส่วนคืนให้ทักษิณ
....
สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นคือ ตุลาการจะคืนให้ทักษิณ ทรัพย์สินส่วนที่เขามีอยู่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 - ทรัพย์สินที่เขาอ้างว่า เขาได้มาอย่างสุจริต


ผลจากการที่สื่อสิงคโปร์นำเสนอข่าวดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์นี้ปรับตัวสูงขึ้น เพราะหากผลออกมาในสูตรนี้ นักลงทุนในตลาดหุ้นเชื่อกันว่าจะนำไปสู่การประนีประนอมกัน และไม่นำไปสู่ความรุนแรง โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นฝ่ายซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง

สำนักข่าวต่างประเทศชี้หุ้นSHINขึ้นน้อยกว่าตลาดรวม ปูนใหญ่ขึ้นช่วงเดียวกัน717%

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นสำนักข่าวทางด้านการเงินการลงทุนชั้นนำขอวงโลก รายงานว่า
Shin shares gained 121 percent from when Thaksin took office on Feb. 9, 2001, to when his family sold the company on Jan. 23, 2006, compared with a 128 percent gain in the benchmark SET index, according to data compiled by Bloomberg. Siam Cement Pcl, Thailand’s fourth-biggest company, which is controlled by the monarchy’s investment arm, gained 717 percent in that time.


แปลสั้นๆแบบสรุปว่า ตั้งแต่ทักษิณเป็นนายกฯถึงวันขายหุ้นออก หุ้นSHINขึ้นมา 121% เทียบกับดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมช่วงเดียวกันขึ้น128% ส่วนหุ้นSCC หรือปูนซิเมนต์ไทย และSCBหรือแบงก์ไทยพาณิชย์ ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินฯเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ขึ้นมา 717%

"แม้ว"ซัดอำมาตย์ไม่เกลียดคนทุจริตแต่ไม่ชอบคนป๊อบปูลาร์ ขบขันคำพิพากษายึดทรัพย์จากหุ้นที่เพิ่มขึ้น

"ทักษิณ"ขำศาลยึดทรัพย์จากมูลค่าหุ้นเพิ่มเชื่อศาลเป็นเครื่องมือการเมือง ขอโทษลูก-เมีย แต่งดำไว้ทุกข์ความดื้อขอเป็นเหยื่อคนสุดท้าย ซัดอำมาตย์ไม่เกลียดคนทุจริตแต่ไม่ชอบคนป๊อบปูลาร์ ชี้"บิ๊กบัง"แค่หุ่นเชิด คนตั้งธงคนเดียวกับคนอุ้มรัฐบาล ยกโคลงศรีปราชญ์"ดาบนั้นคืนสนอง"


เมื่อเวลา 20.20 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งยึดทรัพย์ที่ได้จากเงินค่าขายหุ้นและเงินปันผลซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควรสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ตกเป็นของแผ่นดินโดยให้ยึดเฉพาะเงินค่าขายหุ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นหลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและเงินปันผล จำนวน 46,373,687,454.74 บาท และคืนให้ราว3หมื่นล้านบาท ว่า ทรัพย์สินที่สั่งยึดนั้นศาลอ้างเป็นราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการเป็นนายกฯ ได้มาด้วยการใช้อำนาจมิชอบ คงขบขันกันทั้งโลก ว่า ตนเป็นนายกฯ ทำให้หุ้นขึ้น แต่หุ้นขึ้นทั้งตลาด

"เมื่อฟังศาลอ่านรู้สึกเหมือนครั้งพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ตั้งแต่ก่อนปฏิวัติเล็กน้อย ศาลถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยผู้พิพากษามีกลุ่มที่เล่นการเมือง แต่วันนี้เล่นการเมือง100% เป็นการกล่าวหาผม"
อดีตนายกฯ กล่าว

อดีตนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวานทำใจว่าโดนแน่ แต่จะโดนอย่างไร สรุปแล้วตนเป็นนายกฯ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นไม่เห็นได้แบ่ง แต่บริษัทครอบครัวธุรกิจดีขึ้น มาบอกว่าตนโกงต้องยึดทรัพย์ มาบอกว่าตนเป็นนายกฯ มาโกงให้บริษัทตัวเอง แล้วหุ้นที่เหลือไม่ขึ้นหรือ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นแบงก์กรุงเทพฯ ยูคอม ทีพีไอ ยูคอม หรือปูนซิเมนต์ไทย ไม่ขึ้นหรือ

"วันนี้ผมแต่งชุดดำผูกไทดำไว้ทุกข์ให้กับความดื้อของตัวเอง ทั้งที่คุณหญิงพจมาน (ดามาพงศ์ อดีตภริยา) กับลูกค้านไม่ให้เข้าการเมือง เขาบอกว่าชีวิตการเมืองวุ่น ให้ใช้ชีวิตเศรษฐีดีกว่า แต่ด้วยความเป็นนักเรียนนายร้อย แต่ลาออกมาประกอบธุรกิจ ก็มีความรู้สึกอยากทดแทนแผ่นดิน พ่อขอโทษด้วยนะลูกที่ดื้อ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ผมเดือดร้อนคนเดียวไม่เป็นไร"


วันนี้การเมืองดุมากและใจดำ ขอให้ตนเป็นเหยื่อการเมืองคนสุดท้าย ถ้าเมื่อไรประเทศได้ประเทศชาติที่แท้จริงและมีระบบถ่วงดุลอย่างเหมาะสม คงไม่มีเหยื่ออย่างตนอีก แต่วันนี้ดุลทั้งหมดอยู่อำมาตย์ที่กดปุ่มสั่งการให้อำนาจหนึ่งเหนืออำนาจหนึ่ง

"กฎหมายไทยเหมือนเล่นติ๊ต่าง ถ้าเป็นพวกผม กฎหมายก็จะไม่ยุ่งกับคุณ ถ้าคุณไม่ใช่พวกผม กฎหมายเดินเร็ว ตีความให้คุณเดือดร้อน ขาดมาตรฐานสากลรุนแรง มีคนคนเดียวกระชากไทยถอยหลัง"



"ผมเป็นเหยื่อที่ไม่ได้รับความยุติธรรมที่สุด คิดว่าวันนี้ต้องขอโทษผู้พิพากษาที่มีอุดมการณ์ ไม่อยากเห็นสถาบันนี้ต้องกลายเป็นแบบนี้ ขอโทษจริงๆ ที่เขาต้องจัดการผมโดยใช้สถาบันท่าน หวังว่าทุกอย่างคงดีขึ้น ถ้าเขาได้ทำถึงที่สุดแล้ว ต้องขอโทษผู้พิพากษาด้วย"


อดีตนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เคยกราบบังคมทูลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะไม่รับตำแหน่ง และเคยประกาศหน้าทำเนียบฯ เมื่อเดือน เม.ย. 2546 จะไม่ขอรับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งตอนหลังก็มีการยกเลิกเลือกตั้งครั้งนั้น แต่กว่าจะประกาศเลือกตั้งใหม่ในเดือน ต.ค. ถือนานมาก แต่ไม่ได้เลือกตั้ง เพราะรอไม่ไหว เกิดปฏิวัติเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ก่อนการปฏิวัติก็มีความลอบฆ่าตนหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ

"ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดควาามเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ทางการเมือง ก็ไม่รู้ว่าได้เปอร์เซนต์หรือไม่ ถ้าได้ถือว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ สนธิบัง (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือคมช.) เป็นเพียงหุ่นเชิด แต่คนปักธงเป็นคนอุ้มรัฐบาล"


นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณเสื้อแดงที่ไม่มาชุมนุม ถ้าไม่เช่นนั้นอาจถูกกล่าวหาว่าทำทุกอย่างเพื่อตน ให้เป็นเรื่องของตนล้วนๆ เสื้อแดงอดทนต่อสู้ด้วยสันติให้ได้มาด้วยประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นประเทศจะต้องตกอยู่ในมืออำมาตย์ ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ไม่สามารถทำนายอนาคตได้

"พี่น้องสู้ต่อไปนะครับ อย่าท้อ ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย ไม่งั้นลูกหลานจะไม่มีอนาคต ต่างชาติไม่เชื่อมั่นประเทศไทย แต่ขอให้สู้ด้วยสันติ อย่าให้มีเหตุให้รัฐบาลหาเรื่อง"


ส่วนนักธุรกิจ บทเรียนวันนี้บอกอย่าเล่นการเมืองเลย เพราะนักธุรกิจมีนิสัยทะลุทะลวงอยากทำงานให้สำเร็จ คนละวัฒนธรรมกับนักการเมือง ถ้ามีอะไรเข้ามา อาจโดนยึดทรัพย์ ถ้ารักบ้านเมือง ขายให้เกลี้ยง อย่าเอาอะไรเข้ามา อำมาตย์ไม่รังเกียจคนไม่ทุจริต แต่อย่าป็อปปูลาร์มาก ผมเป็นนายกฯ คนเดียวและคนแรก ได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 แต่อำมาตย์ไม่อยากเห็นรัฐบาลป็อปปูลาร์

"ผมขอยืนยันว่าผมทำตามหน้าที่ดีที่สุด ไม่คิดโกงใคร ตอนเป็นเด็กยังไม่เคยลอกข้อสอบ นิสัยโกงไม่มีตั้งแต่เด็ก และไม่จำเป็นต้องโกงเพราะมีหลักทรัพย์มาก่อนเล่นการเมือง ฉะนั้นผมไม่มีความจำเป็นต้องโลภมาก วันนี้ใส่นาฬิกาครั้งละเรือนถ้าใส่หลายเรือนเขาจะหาว่าบ้า ผมเป็นคนชอบกินก๋วยเตี๋ยวกินได้ทุกวัน ถ้ากินหูฉลามไม่สามารถกินได้ทุกมื้อ

วันนี้เขาว่าผมโกงมันเป็นเรื่องการเมืองทั้งนั้นคุณหญิงพจมาน ไม่เคยสอนลูกฟุ่มเฟือย ไม่มีความจำเป็นต้องไปคดบ้านโกงเมือง จึงเป็นที่มาของคนที่ดิ้นรนเข้ามาทำงานการเมือง ผมเป็นคนแรกที่ถูกยึดทรัพย์ส่วนตัวของครอบครัว เพื่อสังเวยการเมือง แน่นอนผู้ชนะ คือ ผู้เขียนประวัติศาสตร์ แต่วันนี้ผมยังไม่ชนะ ถ้าผมโกงอย่างที่เขาว่าขอให้มีอันเป็นไปใน 7 วัน10 วัน"


พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ยกโครงสี่สุภาพบทหนึ่งของ "ศรีปราชญ์"กวีเอกของไทย ฝากไว้ว่า

ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน

เราก็ศิษย์อาจารย์ หนึ่งบ้าง

เราผิดท่านประหาร เราชอบ

เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนั้น คืนสนอง



"ผมจะแสวงหาความยุติธรรมไม่ว่าในนรก สวรรค์ ในประเทศหรือนอกประเทศ วันนี้ผมไม่ได้รับความยุติธรรม ผมจะแสวงหาความยุติธรรมต่อไป ขอให้ย้อนไปว่าตั้งแต่ผมทำงานมาเป็นอย่างไร ก่อนที่จะถูกปฏิวัติ มีการใช้สถาบันต่างๆจัดการการเมืองอย่างเป็นระบบอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นบ้านเราไม่ปกติ คนที่ต้องการและรักษาความยุติธรรมขอให้สู้ต่อไปสู้อย่างสันติ เพื่อประชาธิปไตยเฟื่องฟู ขอให้เป็นบทเรียนที่ดี ผมเจ็บคนเดียวไม่เป็นไร ขอให้สิ่งที่เกิดกับผมวันนี้นำไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตย ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง น้ำใจของท่านยิ่งใหญ่นัก และผมขอโทษลูกๆอีกครั้งที่ผมดันทุรังเข้าสู่การเมือง ผมเสียใจครับ "
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว