ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 6 October 2009

ห้องเครื่องไปแล้วหนึ่ง

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_37620

โดยความรับผิดชอบใหญ่หลวงที่เกินจะทัดทาน

ที่สุดแล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ต้องจดปากกาลงนามรับทราบในหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

เสีย "ห้องเครื่อง" สำคัญไปแล้วหนึ่ง

เอาเป็นว่า โดยปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงความสำคัญของคนชื่อ "นิพนธ์ พร้อมพันธุ์" การันตีโดยยี่ห้อ "ชวน หลีกภัย" ลงทุนต่อสายโทรศัพท์อ้อนให้อยู่ประคองรัฐบาลต่อไป เพราะความเก่งรอบด้าน ทั้งในเรื่องของการจัดงบประมาณและชั้นเชิงบริหาร

ช่วยอุ้มนายกฯอภิสิทธิ์ได้เยอะ

แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันอยู่ที่ "ภารกิจฉากหลัง" คอนเนกชั่นของนายนิพนธ์ที่เครือข่ายโยงใยครอบคลุมทุกวงการ โดยเฉพาะในฐานะมือดีลกับแกนนำตัวจริงเสียงจริงของพรรคร่วมรัฐบาลที่เรียกกันติดปากว่า "เฮีย"


"นิพนธ์" เคลียร์ได้ทุกช็อต ยามที่เกิดปัญหา

โดยคุณสมบัติตามนี้จึงเป็นอะไรที่ยากจะหาคนมานั่งในตำแหน่ง "ห้องเครื่อง" แทน

ก็อย่างที่เห็นอาการอึกๆอักๆของนายกฯอภิสิทธิ์ ต้องยื้อเวลาคัดเลือกบุคคลมาแทนภายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่ฟันธงว่าจะโยกนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สลับเก้าอี้มานั่งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือไม่

แค่แบะท่าไว้ จะต้องปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ จะดูไปตามความจำเป็น

ตามคิวเลย จุดที่ลงตัวน่าจะอยู่ที่ชื่อของนายกอร์ปศักดิ์

เพราะจะเป็นโอกาสดีที่นายกฯอภิสิทธิ์จะได้ฉวยจังหวะซักคราบสกปรกมอมแมมจากคิวทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง ที่เชื้อกำลังลามติดโครงการไทยเข้มแข็ง

ยิ่งปล่อยนาน คราบยิ่งฝังลึก

เคลียร์ "กอร์ปศักดิ์" พ้นจุดปัญหา มันก็น่าจะลดอาการหวาดระแวงลงได้ระดับหนึ่ง


และกับอีกช็อตหนึ่ง โดยการขยับนายกอร์ปศักดิ์เปลี่ยนงานไปนั่งเป็นเลขาธิการนายกฯ ก็เท่ากับแยกวง "คุณชายละเอียด" ออกจากคิวขัดขากับพรรคร่วมรัฐบาลในการคุมงานกระทรวงด้านเศรษฐกิจ

เหยียบตาปลากันจนงานไม่เดิน

โดยสถานภาพ "ส่วนเกิน" ชื่อของนายกอร์ปศักดิ์จึงลงตัวด้วยประการทั้งปวง

แต่บังเอิญว่า ในสถานการณ์ที่แหล่งข่าวพรรคประชาธิปัตย์ก็ยอมรับกันเป็นนัย ยามนี้อยู่ในช่วงเปราะบางของรัฐบาล

ต้องหลีกเลี่ยงแรงกระเพื่อมจากคิวปรับ ครม.


โดยเฉพาะสมาชิกชมรมคนอกหักในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันเอง ที่จ้องรอเสียบเก้าอี้กันตาไม่กะพริบ รอช่องเปิดเมื่อไหร่ มีหวังได้ฟัดกันฝุ่นตลบ

และที่เสียเชิงกว่านั้น ถ้าขยับนายกอร์ปศักดิ์ก็เท่ากับเข้าทางพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งออกมาไล่บี้ให้นายกฯอภิสิทธิ์ปรับ ครม. โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่เดินผิดทาง

ยอมรับสารภาพกันเป็นนัย

โดยจังหวะขึงพืด เงื่อนไขภายในของประชาธิปัตย์ที่ขยับกันไม่ออก

แต่ในอารมณ์ที่ผ่อนคลาย ดีกรีตึงเครียดในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลที่วูบวาบสวนทาง


เช็กบรรยากาศวงถกแกนนำตัวจริงเสียงจริงของพรรคร่วมรัฐบาลที่บ้านพิษณุโลก ทุกสายตรงกัน เป็นไปอย่างชื่นมื่น และก็เป็นนายกฯอภิสิทธิ์ที่ชิงเสนอพิมพ์เขียวประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องรอให้พรรคร่วมรัฐบาลทวงสัญญาลูกผู้ชาย

"ได้ทั้งนั้นครับพี่"

ประโยคที่ขาใหญ่พรรคร่วมรัฐบาลฟังแล้วอมยิ้ม กับบท "เด็กดื้อ" ที่ลดโทนเฮี้ยวลง


และโดยช็อตต่อเนื่องหลังจบคิวทางการที่บ้านพิษณุโลก นายกฯอภิสิทธิ์แยกตัวกลับ "เทพเทือก" นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลดินเนอร์ต่อที่โรงแรมหรูกลางกรุง เปิดอกคุยกันตามภาษานักเลงน้องๆพี่ๆ เคลียร์คำถามคาใจของพรรคพวก

"เฮียนิพนธ์ไปแล้ว พี่เทพจะลาออกตามหรือเปล่า"

คำตอบคือ ไม่มี

และก็เป็นอะไรที่ฟ้องอุปาทานหมู่ ช็อตที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหารือกันถึงคิวที่ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ หวนคืนการเมือง รับเป็นแม่ทัพพรรคเพื่อไทย


กระตุ้นต่อมคึกให้ลูกข่าย "นายใหญ่"

คงจะมียุทธศาสตร์อะไรใหม่ๆออกมาเดินเกมเคลื่อนไหว และพรรคเพื่อไทยคงเอา พล.อ.ชวลิตเข้ามาเพื่อหวังจะตรึงพื้นที่ภาคอีสานเอาไว้

ให้ได้มากที่สุด

อาการของคนกลัวผี "ทักษิณ" แอบซุบซิบกันมุมห้อง

อย่างไรเสีย พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องกอดคอกันต่อไป.


ทีมข่าวการเมือง รายงาน