ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Wednesday, 21 October 2009

มองแหวกม่านลวงตา

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_41101

"ทุกคนมองว่าตัวเองเก่ง วิเศษ แต่ไม่เคยถามว่า คนอื่นมองตัวเองอย่างไร นี่คือวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นอย่างนี้ไปตลอดกาล บางคนอยากเป็นรัฐมนตรี แต่พอเสนอชื่อไป กลับไม่ได้ เพราะเพื่อนไม่รัก ไม่มีน้ำใจ มันต้องมีอะไรมากกว่าความสามารถ"

ปล่อยหมัดแหวกอากาศมาเลย

กับบทองครักษ์พิทักษ์พี่ชายของนายธานี เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี น้องชาย "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

เปิดฉากซัดกลับนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก หัวหอกกลุ่มทศวรรษใหม่ ที่เดินหน้าถล่ม "เทพเทือก" ฐานเออออห่อหมกกับคิวรื้อรัฐธรรมนูญฉบับหน้าแหลมฟันดำ

ขู่ฮึ่มฮั่มถึงขั้นจะรวมหัวขับออกจากเก้าอี้เลขาธิการพรรค

แต่หมูกลัวน้ำร้อนซะที่ไหน โดยลูกเฮี้ยวของนายชาญชัย เปิดฉากประจานดังๆ ข้อตกลงลับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับ "เทพเทือก" ไปตกลงพิมพ์เขียวแก้รัฐธรรมนูญกับทหาร

แลกกับการพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล

ประชาธิปัตย์เปิดฉากตะลุมบอน ซัดกันเองเลือดกบปาก


อีกฉากก็สหภาพรัฐวิสาหกิจการรถไฟฯเปิดเกมประท้วงหยุดเดินรถ จับเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกัน งัดมุกเก่าป่วนซ้ำซาก

"เขี่ยไฟ" ผสมโรงป่วน กระพือฝุ่นควันการเมืองยิ่งคลุ้งตลบอบอวล

แต่ในฉากป่วนๆของเกมลับลวงพราง หากมองแหวกม่านหมอกลวงตา

โดยคำตอบที่แกะรอยกันได้ ในลีลายึกยักขวางลำเกมรื้อรัฐธรรมนูญกลับไปเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียวของคนประชาธิปัตย์ และการออกมาอาละวาดของสหภาพรถไฟฯที่เครือข่ายโยงใยกับม็อบพันธมิตรฯ ในจังหวะเล่นตามเกมของค่ายการเมืองใหม่

เป้าหมายร่วมอยู่ที่เบรกเกมไหลลื่นของ "เนวิน ชิดชอบ"

ในจังหวะที่ค่ายภูมิใจไทยกำลังสั่งสมยุทโธปกรณ์รบกับพรรคเพื่อไทย แต่ก็โดนเครือข่ายม็อบเสื้อเหลืองตามตัดเกมขั้วอำนาจใหม่ และ "เพื่อนกิน" อย่างประชาธิปัตย์ก็จ้องแทงหลัง

ไม่ให้มาแรงแซงหน้า กลายเป็นหอกข้างแคร่

แต่ที่ทำท่าจะคุมไม่ได้ ไม่อยู่ในวิสัยที่ฝ่ายคุมเกมอำนาจจะสกัดอยู่

กับยุทธศาสตร์ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เปิดตัว "เชนคัมแบ็ก" ด้วยการเผชิญหน้ากับนายเก่าอย่าง "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ

เปิดเกมรุก "ขุน" กันเลย

บ่งบอกว่าการกลับมารอบนี้ ไม่ใช่แค่คนแก่เดินทางไกลที่ถูกเย้ยว่า "พ่อใหญ่ลา"


ยิ่งในจังหวะที่แท็กทีมกันพรึบพรับกับ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ยี่ห้อทหารเฒ่า จปร.7 และการชักแถวของเหล่าเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร

ยังไม่นับคิวดาราคนดัง พระเอกตลอดกาลอย่าง "สมบัติ เมทะนี" ที่แสดงตัวลงชิงผู้แทนฯในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย และที่เตรียมจะเปิดตัวให้ฮือฮา กับคิวของดาราสาว "สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์" จ่อลงสนามการเมืองในทีมของนายใหญ่


ขุนทหาร นายพลตำรวจใหญ่ ดาราคนดังทุกวงการพาเหรดเข้าพรรคเพื่อไทย

เหมือนตั้งใจหักมุม บลัฟกับข้อหา "ทรยศชาติ"

และก็เป็นอะไรที่ใกล้ฉากจบ กับหนังเรื่อง "เชลย"

โดยบทของตัวละคร ต่างฝ่ายก็ถือไพ่ต่อรองอยู่ในมือ แต่ต่างคนต่างก็มีชนักติดหลัง


กับคิวขุดผีคดีการหายตัวไปของนายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ถึงขั้นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขออนุมัติศาลออกหมายจับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 น้องชายของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตบิ๊ก คมช.

ก่อนคดีจะหมดอายุความไม่กี่เดือน


และหนึ่งในทีมที่ถูกดีเอสไอเสนอออกหมายจับก็คือ พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ก็มีชื่ออยู่ในสำนวนคดีโกงเลือกตั้งจังหวัดเชียงราย อันเป็นเหตุให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ มือขวาคนสำคัญของนายใหญ่ โดนโทษแช่แข็งทางการเมือง

โดยเงื่อนไข มันลากไปเชื่อมโยงชักใยกับเกมล้มโต๊ะนายใหญ่

แต่ทั้งหมดทั้งปวง โดยสถานะของประเทศซาอุดีอาระเบีย คือ "พี่ใหญ่ในตะวันออกกลาง" ย่อมเป็นอะไรที่มีอิทธิพลกับเมืองดูไบ ฐานที่มั่นของอดีตนายกฯทักษิณ ใช้เป็นที่กบดานบัญชาการเกมรบในเมืองไทย ไม่มากก็น้อย

ซาอุฯกับ "ทักษิณ" ดีลกันหรือไม่อย่างไร คนไทยอาจไม่ได้ใส่ใจติดตาม

แต่ข่าวสารต่างประเทศเขาว่า อื้ออึงเลย.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน