ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 6 October 2009

ตุลาฯ งานเข้า!

ที่มา บางกอกทูเดย์

ครั้งนี้...บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนต่างเดินทางเข้าร่วมประชุมทุกชาติซึ่งนั่นหมายถึงเป็นงานใหญ่ที่กระทรวงกลาโหม ในฐานะแม่งาน ต้องรับผิดชอบและวางหมากให้ดี

เดือนนี้เป็นอีกเดือนในรอบปีที่ “งานเข้า”ทั้งรัฐบาลและกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพที่ต้องรับศึก 2 ด้าน...ทั้งการประชุมอาเซียนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์และ รับศึก “วันแดงเดือด” ที่กลุ่มคนประกาศจะเคลื่อนไหวตลอดทั้งเดือนศึก 2 ด้านครั้งนี้ ที่น่าเป็นห่วงเห็นจะเป็น ศึกแดงเดือดที่แกนนำออกมาตีฆ้องร้องป่าว เรียกรวมพลคนเสื้อแดงตั้งแต่ต้นเดือน พร้อมวางงานตารางชุมนุมตลอดทั้งเดือนณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงมีมติที่จะมีการชุมนุมตลอดทั้งเดือนตุลาคมโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันครบรอบการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2540โดยจะไปชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อทวงคืนรัฐธรรมนูญ 2540 และจะรวบรวมรายชื่อประชาชนยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีภาวะผู้นำ และมีที่มาไม่ถูกต้องวันที่ 17 ตุลาคม จะชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามความคืบหน้าการพิจารณาฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังครบกำหนด 60 วันที่รัฐบาลระบุส่วนในวันที่ 24 ตุลาคมจะเปิดอภิปรายนอกสภาที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ในประเด็นตรวจสอบการทุจริตโครงการต่างๆ ของรัฐบาลดูจากตารางเคลื่อนพลคนเสื้อแดงแล้ว ยังน่าเป็นห่วงว่าในช่วงก่อนการประชุมอาเซียนจะสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดให้กลับคืนมาอีกหรือไม่ด้าน เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า...เป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องการล้มล้างรัฐบาล ซึ่งไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายใดเพราะเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่เลิกที่จะขัดขวางการทำงานของรัฐบาล การอ้างให้เดือนตุลาคม เป็นเดือนแดงเดือด“อยากให้ประชาชนจับตามองว่าเดือน

ตุลาคมจะเป็น“แดงเดือด” หรือ “แดงเดต” กันแน่”นายเทพไท ยังกล่าวด้วยว่า...ที่น่าสังเกตคือ เดือนตุลาคม จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ อ.ชะอำจ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งการแอบอ้างสถานการณ์ต่างๆ มาเคลื่อนไหวย่อมส่งผลกระทบต่อการประชุม และความเชื่อมั่นของมิตรประเทศที่เข้าร่วมประชุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ขณะที่ผู้ที่ต้องรับศึกหนักคงหนีไม่พ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ที่ต้องดูแลสถานการณ์ความเรียบร้อยในพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และหัวหินซึ่ง 2 จุดล้วนแต่เป็นจุดสำคัญ ดังนั้นมาตรการรักษาความปลอดภัยอาจจะต้องยกระดับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และหัวหิน เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปเหมือนดังเช่นที่พัทยาเฉพาะ พรบ.ความมั่นคงที่ใช้ในพื้นที่หัวหินนั้นแว่วมาว่า...กองทัพได้ปรับการทำงานและวางแผนเส้นทางการรักษาความปลอดภัยใหม่หมด หลังจากสรุปบทเรียนจากการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ภูเก็ตมาแล้วนั้นหมายถึงมาตรการคุมเข้มผู้คนที่จะเข้าออกในพื้นที่ประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคงหากงานนี้พลาดนั้นอาจหมายถึงเก้าอี้ของใครบางคนอาจไม่มีให้นั่ง...ฉะนั้น “กลาโหม” จึงต้องเตรียมพร้อมกำลังทุกนายในช่วงเดือนตุลาคมเพราะเป็นเดือนที่ “งานเข้า” อีกแล้วครับทั่น! 