ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Wednesday, 7 October 2009

รวมบทกวีรำลึก 6 ตุลาฯ หน้ากำแพงประวัติศาสตร์ มธ.

ที่มา ประชาไท

6 ตุลาคม 2552 มีการจัดพิธีรำลึกถึงผู้สูญเสียในเหตุการณ์เหมือนเช่นทุกปี ในปีนี้เป็นไปอย่างเงียบๆ เรียบง่าย (เหมือนเช่นทุกปี ?) โดยพิธีกรรมในช่วงเช้ามีการอ่านบทกวี 3 ชิ้น คือ “6 ตุลา 2552” ของวัฒน์ วรรลยางกูร, “Red October” ของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที, “หลับเถิด...หนุ่มสาวผู้บริสุทธิ์” ของ Homo erectus และ เพียงคำ ประดับความ ในนามของสมัชชาสังคมก้าวหน้า
6 ตุลาคม 2552
วัฒน์ วรรลยางกูร
เบื่อเต็มทีรำลึก 6 ตุลา
รำลึกว่า 30 ปี ไม่มีเปลี่ยน
รถถังยังโง่งงแล่นวงเวียน
ฉีกแล้วเขียนเขียนแล้วแก้โคตรพ่อโคตรแม่ – รัดทำมะนวย-
เลี่ยนจริงๆ รำลึก 14 ตุลา
เห็นลอยหน้าเกลื่อนกล่นวีรชนห่วยๆ
ด็อกต้งด็อกเต้อนักวิชการวิชากวย
เฮงซวยกอดเก้าอี้ไม่มีอุดมการณ์
เคยแลกชีวิตเรียกร้องรัฐธรรมนูญ
กลับสิ้นสูญความจำทำอลหม่าน
หยามหมิ่นมหาชนเพ้อลนลาน
หนุนรัฐประหารหวังเป็นใหญ่เป็นโต
เลิกรำลึกได้แล้ว 6 ตุลา
อ้ายหัวโจกบงการฆ่ายังอ่าโอ่
ส่วนเพื่อนคนถูกฆ่าพาเลโล
แกล้งโง่ทำไม่รู้ใครเป็นใคร
เลือกอยู่ข้างฝ่ายชนะสิวะแน่
สู้ก็แพ้ประชาชนไม่เคยเป็นใหญ่
ไม่ว่าท้องฟ้าจะมีสีอะไร
แทงข้างไหนเมียไม่ด่าอย่าเขินอาย
รำลึกไปได้แค่งานเช็งเม้ง
ร้องบรรเลงเพลงกวีไม่มีความหมาย
เลิกร้องเพลงเปิบข้าว แสงดาวแห่งศรัทธา คนกับควาย
ดินสอโดมเดียวดายเหลืออาลัย
ดูสิ ประชาธิปไตยไทยมีชีวิตชีวา
โอ่เย...สื่ออเมริกาว่าไว้
คอมเมนต์การเมืองเรื่องไทยๆ
เยส...ออไรต์โคตรมีชีวิตชีวา
ฉีกรัฐธรรมนูญเกือบยี่สิบฉบับ
ขี้เกียจนับถ้วนทั่วกลัวเป็นบ้า
กลุ่มคนครึน่าเบื่ออยู่เหนือประชา
เลือกตั้งมาไม่ถูกใจแม่ง.. ไล่ทุกที
นักเลือกตั้งก็ตั้งตาหาทางรอด
ผลประโยชน์ใบ้บอดกอดเก้าอี้
หลักประชาธิปไตยยังไม่มี
นี่แหละชีวิตชีวาบ้าๆ บอๆ
เอาบ้างสิรัฐประหารโอบาม่า
จะได้มีชีวิตชีวาโรคติดต่อ
เดโมแครตเป็นงูเห่าเข้าพันคอ
ลับลึกก็มอแดนไอแคนเซย์
วันนี้ยังต้องรำลึก 6 ตุลา
คิดจริงจังอาจเป็นบ้าเหงาว้าเหว่
พูดความจริงถูกขังเข้าซังเต
พูดความเท็จถ่อยเท่เพื่อนวีรชน
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ไม้หนึ่ง ก.กุนที
การเช็งเม้ง และระลึกถึงผู้วายชนม์ในวาระครบรอบวันตายของพวกเขา หามีแก่นสารอยู่บ้าง ก็ตรงที่ทำให้เราจำขึ้นมาได้ว่า พวกเขาเป็นใคร ทำอะไรมา ตายยังไง และตายเพื่ออะไร
แต่ความรู้สึกแค่นี้ก็คงไม่ให้อะไรมากไปกว่างานเลี้ยงรุ่น งานรวมญาติ แล้วนำไปสู่ความอ่อนไหวทางจิต เหมือนดั่งบทกวีของตู้มู่ เขียนไว้ว่า
“ เทศกาลเช็งเหม็ง ฝนโปรยปราย
ผู้มาไหว้บรรพชน หัวใจสลาย
ถามหาสุรา อยู่ที่ใด
เด็กเลี้ยงวัวชี้ไป...ที่กระท่อมดอกเห็ด!
จบงาน พวกเราก็แห่กันไปเป็นกลุ่ม หรือแยกย้ายกันเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อกินอาหาร ดื่มเครื่องดื่มตามรสนิยม ในเสียงเพลงดราม่าเก่าๆ
มีกี่คนที่ระลึกอยู่เสมอถึงสาระหลักของงาน แก่นสารที่ว่าผู้ที่ตาย ตายเพื่ออะไร ความฝันใฝ่และเป้าหมายที่เขาตายเพื่อ บรรลุผลหรือยัง! และใครฆ่าเขา!
ผมกำลังพูดถึงการล้างแค้น และงานที่คั่งค้าง
เหตุการณ์ 6 ตุลาได้เผยโฉม อสูรกายหลักที่กัดกินสังคมไทยมาโดยตลอด
อสูรกายนี้แหละที่เข่นฆ่าวีรชนของเรา
อสูรกายนี้แหละที่ครอบงำสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และกระบวนการทางความคิดให้สับสนวุ่นวาย
ขณะนี้คนเป็นจำนวนมากได้เห็นพ้องกันแล้วว่า อสูรนี้เป็นปัญหาแห่งการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน
วีรชน 6 ตุลา ตายเพื่ออะไร?
เขาตายเพื่อสังคมประชาธิปไตยที่เป็นจริง มิใช่หรือ
คนที่ฆ่าเขาคือใคร?
ก็คืออสูรร้ายที่ไม่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยนั่นเอง!
ดูเหมือนว่าการงานอันคั่งค้างตั้งแต่ 77 ปีก่อน ที่หลอมรวมกันมาถึงปัจจุบัน ได้รวมศูนย์ปัญหามาอยู่ที่จุดเดียวกันทั้งสิ้น
ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือที่งานระลึก 6 ตุลาครั้งนี้จะยกระดับไปสู่การก่อขบวนคนยากครั้งสำคัญ ที่จะสะสางภารกิจที่เหลือของเพื่อผู้วายชนม์ให้เสร็จสิ้น เพื่อแผ่นดินประชาธิปไตยได้เป็นของปวงชนชาวไทยโดยสมบูรณ์
Red October
ผ่านตุลา มากี่ ตุลาแล้ว
ล่วงแนวแตก แหวกรบ ศพสหาย
ลับไปกับ ความฝัน เพริดพรรณพราย
ราษฎร ยึดครองได้ แค่สายลม
เราบุกบั่น บรรลุอีก ตุลาหนึ่ง
อึงคะนึง ราชดำเนิน จะถล่ม
เนิ่นนานถัก ทางทาส ทางระทม
เขาไม่ล้ม เราไม่รู้ อยู่อย่างไร
ประชาชน ทนทุกข์โต้ ชะตากรรม
ดาหน้านำ ประเทศสู่ ตุลาใหม่
ตีนที่กล้า ขาต้องก้าว ตัดทางไกล
สร้างรัฐไทย สิทธิสาธารณะ
เมื่อสังคม ทิ้งเปลือก เลือกเอาแก่น
ทั้งแผ่นดิน เดินเข้าถึง ซึ่งสัจจะ
หลังเศษปรัก หักพัง ซากปะทะ
พลเมือง วัฒนะ ใหม่ทั้งมวล
เพื่อประชาธิปไตยได้เป็นจริง
จงทิ้งเท็จ เอาแท้ ทุกภาคส่วน
มหาชน กระแสสูง ก่อขบวน
ใครคิดหวน คืนล้าหลัง พังทลาย
ผ่านตุลา มากี่ ตุลาแล้ว
ล่วงแนวแตก แหวกรบ ศพสหาย
ประวัติศาสตร์ ปลุกลุก แล้วเปล่าดาย
ผู้วางวาย ไม่ได้สู้ เพื่อสายลม
เราบุกบั่น บรรลุอีก ตุลาหนึ่ง
อึงคะนึง ราชดำเนิน จะถล่ม
ถนนทาส ต้องผุเปื่อย เป็นเลนตม
ทางระทม ต้องเปลี่ยนเป็น ถนนไท
ประชาชน ทนทุกข์โต้ ชะตากรรม
กำลังนำ ประเทศสู่ ตุลาใหม่
ตีนที่กล้า ขาต้องก้าว ตัดทางไกล
สร้างรัฐไทย สิทธิสาธารณะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
หลับเถิด...หนุ่มสาวผู้บริสุทธิ์

Homo erectus และ เพียงคำ ประดับความ


หลับเถิด...หนุ่มสาว...ผู้บริสุทธิ์
ความเป็นไทย...คร่าฉุด...ชีวาเจ้า
6 ตุลา...นองน้ำตา...ฟ้าสีเทา
สังเวยแด่...อำนาจเก่า...สังคมไทย

ในนามแห่ง...ปฏิกิริยา...พวกขวาจัด
อุดมการณ์...นิยมกษัตริย์...โถมซัดใส่
ความเป็นคน...สูญสลาย...มลายไป
เพียงชั่วเหยี่ยว...กระหยับปีกไกว...ในเมฆา

ในนามแห่งความ...จงรักภักดี
มวลชนพร้อม...ยอมพลี...เพื่อการฆ่า
กระทิงแดง...นวพล...ใครบัญชา
สนองต่อ...สักการ์...คาเลือดคาว

กำแพงธรรม...แห่งศาสตร์...มิแกร่งพอ
มิต้านต่อ...การคลุ้มคลั่ง...ครั้งอื้อฉาว
ชาติราชา...นิยม...จึงยืนยาว
สามสิบสามปี...มิก้าว...พ้นขื่อคา

คือนิทาน...เรื่องเก่า...มาเล่าใหม่
คือตำนาน...พิฆาตซ้าย...ของฝ่ายขวา
คือเหลี่ยมเล่ห์...กลเกม...อำมาตยา
ตีตรวนตรา...ตอกตรึง...จึงดักดาน

หลับเถิด...หนุ่มสาว...ผู้บริสุทธิ์
ก้าวล่วงรุด...สู่ดินแดน...อันไพศาล
เราจะสืบ...ทอดต่อ...อุดมการณ์
มิยอมแหลก...มิยอมราญ...อีกต่อไป

หลับเถิด...หนุ่มสาว...ผู้บริสุทธิ์
ภายใต้การ...สิ้นสุด...แห่งยุคสมัย
ดื่มด่ำเถิด...ปีกฝัน...ขอบฟ้าไกล
เสรีภาพ...ประชาธิปไตย...อีกไม่นาน

ดื่มด่ำเถิด...ปีกฝัน...ขอบฟ้าไกล
เสรีภาพ...ประชาธิปไตย...อีกไม่นาน

หมายเหตุ - แก้ไขล่าสุด 11.20 น.(7 ตุลาคม 2552)

เพิ่มเติมบทกวีของไม้หนึ่งฯ บทที่ 5 ขออภัยในการตกหล่นมา ณ ที่นี้