ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 8 September 2009

“จอม เพชรประดับ”เลิกจัด FM100.5 เหตุสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ

ที่มา Voice TV
 นายจอม เพชรประดับ , แถลงการณ์ขอยุติการจัดรายการ , คลื่นวิทยุ อสมท. , พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร , รายการเอกซ์คลูซีฟ , เอ

ในรายการเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯ ซึ่งกำกับดูแล อสมท. แสดงความไม่พอใจและขอให้ผู้บริหารชี้แจง
นายจอม เพชรประดับ นักจัดรายการอิสระ เขียนแถลงการณ์ ขอยุติการจัดรายการทางคลื่นวิทยุ อสมท. ตั้งแต่วันนี้(7 ก.ย.) เป็นต้นไป หลังจากที่เมื่อวานนี้(6ก.ย.) ได้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกอากาศสดในรายการเอกซ์คลูซีฟ เอฟเอ็ม 100.5 ซึ่งทำให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯ ในฐานะผู้กำกับดูแล อสมท. แสดงความไม่พอใจและสั่งสอบ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เรื่องรายการดังกล่าวที่ตนเป็นผู้ดำเนินรายการทั้งที่ก่อนสัมภาษณ์ได้มีการชี้แจงผู้ฟังให้ทราบว่าเป็นการทำหน้าที่สื่อ ไม่ใช่ลักษณะของการโฟนอินเข้ามาด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือบุคคลที่ถูกมองและถูกกล่าวหาว่า เป็นสาเหตุแห่งวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมไทยเวลานี้ ก็ควรจะได้มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นกิจจะลักษณะ โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้“กระผมนายจอม เพชรประดับ นักจัดรายการอิสระ ขอเรียนให้ทุกท่านทราบ กรณีการสัมภาษณ์พิเศษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทางคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 เม็กกะเฮิร์ซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนผู้รับข้อมูลข่าวสาร ได้พิจารณาตัดสินใจในสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น และเพื่อแสดงถึงหลักการแห่งความเป็นอิสระและเสรีภาพของสื่อสารมวลชนผมไม่ได้เจตนาที่แอบแฝงใดๆ ที่หวังจะทำร้าย หรือสร้างความเสียหาย หรือประสงค์ที่จะให้เกิดผลกระทบกระเทือนต่อรัฐบาล หรือขั้วการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์นี้ของผม ผมก็ได้ยืนยันไปแล้วในรายการ ก่อนที่ผมจะเริ่มสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรหากจะพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรม โดยการฟังการสัมภาษณ์ตลอดทั้งรายการ ก็จะพบเจตนาที่แท้จริงของผม โดยผมหวังว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือบุคคลที่ถูกมองและถูกกล่าวหาว่า เป็นสาเหตุแห่งวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมไทยเวลานี้ ก็ควรจะได้มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง (แม้ฝ่ายตรงข้ามจะมองว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นข้อเท็จเสียมากกว่าข้อจริง แต่หน้าที่ของสื่อมวลชน ก็ไม่อาจจะไปตัดสินหรือสรุปได้เช่นนั้น) และการสัมภาษณ์ก็ไม่ใช่ลักษณะของการโฟนอินเข้ามาด้วยเหตุผลทางการเมืองเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นการให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างเป็นกิจจะลักษณะ ผมมีเป้าหมายอย่างแรงกล้าที่จะให้สังคมไทยได้ร่วมกันหาหนทางที่จะหันหน้าเข้าหากัน มาพูดคุยกัน และร่วมกันสร้างความปรองดอง ความสามัคคีให้เป็นปึกแผ่น เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคน ได้ก้าวพ้นวิกฤตทางการเมืองที่กำลังเกาะกินชาติบ้านเมืองของเราอยู่ในเวลานี้ให้ได้ แต่หากเจตนาบริสุทธิ์และความหวังที่จะให้เกิดความเป็นธรรม เพื่อนำไปสู่การสร้างความเข้าใจของคนไทยทั้งประเทศ รวมทั้งการยึดมั่นในหลักการที่ถูกต้องแห่งวิชาชีพของผมถูกแปรความหมายไปเป็นเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง หรือกลายเป็นประเด็นเพื่อนำไปต่อสู้กันทางการเมือง ผมรู้สึกผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผู้บริหาร หรือพนักงานของ อสมท. คนหนึ่งคนใด ต้องมารับผลกระทบกับสิ่งที่ผมได้กระทำลงไป ผมขอแสดงความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว โดยการขอยุติการจัดรายการทางคลื่นวิทยุอสมท. เอฟเอ็ม 100.5 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แม้ว่าตลอดเวลาเกือบปีที่ผมได้ทำงานร่วมกับผู้บริหาร และพนักงาน อสมท. ผมได้รับเกียรติ และได้รับความไว้วางใจอย่างดีเยี่ยมตลอดมา ต้องขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ อสมท.อีกครั้ง และต้องกราบขอโทษผู้บริหาร และพนักงาน อสมท.ทุกท่านด้วยเช่นกัน ที่ต้องทำให้ลำบากใจในการกระทำของผมครั้งนี้”อย่างไรก็ตาม นายสมจิต ชินสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักวิทยุและกิจการพิเศษ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินว่าจะสั่งถอดนายจอม ออกจากผู้ดำเนินรายการหรือไม่ แต่ตามหลักการแล้ว การหาแขกเข้ารายการนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ดำเนินรายการ เพราะถือว่าเป็นรายการรูปแบบเอกซ์คลูซีฟ ซึ่งหากผู้จัดให้เกียรติผู้ดำเนินรายการ เช่นเดียวกับรายการลับลวงพราง ของ น.ส.วาสนา นาน่วม