ใครคือ...‘บุคคลที่ 3’

ที่มา บางกอกทูเดย์

• ประเทศไทย(ก็)ของผม
  
• กุหลาบพิษ

ผมคนหนึ่งล่ะที่เชื่อว่าการที่ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร.เพียงชื่อเดียว เป็นเรื่องที่ไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติหรือปกติธรรมดามันจะปกติได้อย่างไร?? ในเมื่อมาร์คต้องปิดประตูห้องหารือกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงสองต่อสองกันนานกว่า 30 นาที เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา??ที่น่าสังเกต คุยกันเสร็จอภิสิทธิ์มีสีหน้าไม่สู้ดี และสำคัญกว่านั้นอภิสิทธิ์ก็ยกหูถึง “บุคคลที่ 3” ทันทีเสียดายที่ไม่มีใครอยากเดาว่า “บุคคลที่ 3” ที่อภิสิทธิ์โทรศัพท์ไปหานั้น “คือใคร??”สุเทพพูดจาน่ารักเสมอ หลังคุยกับมาร์คเสร็จเขาบอกว่า...เป็นลูกน้องต้องทำตามเจ้านาย!! พร้อมทำตามบัญชานายกฯ ในการเจรจากับ ก.ต.ช. เรื่องการตั้ง ผบ.ตร. “ที่ยังไม่จบ”ทั้งที่...ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ก็รู้กันทั้งนั้นว่าใครเป็นลูกพี่ใคร??ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนมาจาก “โครงสร้าง” ที่ไม่เข้าท่าของรัฐบาลชุดนี้ มีมาตั้งแต่การคบคิดกันจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจในค่ายทหารอภิสิทธิ์จะตกเป็นหนี้บุญคุณใครบ้าง ผมไม่ทราบ??แต่รู้ว่าเป็น “บุญคุณที่ต้องทดแทน”ผมไม่อยากให้มองข้ามประเด็นการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่กำลังจะกลายเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมาร์คล่มสลายมีข่าวหนึ่งมาเล่าให้ฟัง...หลายคนอาจไม่เคยฟังมาก่อนคุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้ออกมาเล่าให้นักข่าวฟังถึงการประชุม ก.ต.ช. เพื่อเลือก ผบ.ตร. เมื่อวันที่20 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าความจริงแล้วท่านไม่ได้เป็นคนเสนอชื่อ พล.ต.อ.จุมพลมั่นหมาย รอง ผบ.ตร. เพียงแต่อยู่ในส่วนที่ยกมือค้านไม่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีเสนอ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ส่วนการประชุมครั้งหน้าจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันอีกที!!เมื่อไม่ได้เป็นผู้เสนอชื่อ แต่กลับถูก ส.ส.ประชาธิปัตย์โจมตีว่า ไม่ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีและให้ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องที่เด็กๆ พูด ไม่จำเป็นต้องตอบโต้เปรียบเสมือนมวย เราเป็นมวยเฮฟวี่เวต จะไปต่อยกับมวยรุ่นเล็กกว่า ชนะไปก็ไม่สมศักดิ์ศรี!!ถ้าความจริงเป็นอย่างนี้ เราท่านทั้งหลายก็จะต้องมองอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลอภิสิทธิ์ในอีกรูปแบบหนึ่งเพราะมันซับซ้อนอย่างที่แทบไม่มีใครคาดคิด!!ตัดฉากมาที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ชาย ผบ.ตร.พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ถูกเชิญมาหารือเกี่ยวกับข่าววันที่30 ส.ค.นี้ จะมีคนออกมาป่วนซึ่งก็คงหมายถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.)เรื่องใหญ่ขนาดนี้ พล.อ.ประวิตร พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแค่ 5 นาที ก็ขอตัวกลับ!!ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นสมการทางการเมืองและสมการทางอำนาจ ที่จะชี้บอกอนาคตว่า คุณอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ จะ “ผ่านมรสุมร้าย” เหล่านี้ไปได้อย่างไร??ถ้าทำได้สำเร็จ?? เขาจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหัวนอกที่อายุน้อยที่สุด และมีพิษสงซ่อนเร้นอย่างที่ไม่มีใครคาดถึงมากที่สุด!!รอดูกันว่า...ฝันกลางแดดมันจะมีจริงได้หรือไม่?? ■