ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 17 March 2009

ขู่ ปลอบ ใส่ไคล้ป้ายสี อย่างไร คนเสื้อแดงก็ไม่หยุดขยายตัว

ที่มา thaifreenews

บทความโดย...ลูกชาวนาไทย

ตอนนี้ทั้งฝ่ายรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ และฝ่ายอำมาตย์ พยายามทุกวิถีทางที่จะสลายสีแดงให้ได้ ด้วยการ "ออกข่าวป้ายสีบ้าง " สร้างสถานการณ์บ้าง สร้างข่าว ส่งผู้ใหญ่ (ตอนนี้ไม่มีใครนับถือผู้ใหญ่แล้วไม่ว่าใคร) มาสร้างภาพ พูดจากลับกลอกให้สามัคคีบ้าง หรือใช้อำนาจทางกฎหมายขู่บ้าง จับบ้าง

คือ ดำเนินกลยุทธ์ "ล้าหลัง" ใช้ "โลกทรรศน์ การเมืองยุคปี 1980 หรือแม้แต่ขู่ จับ เล่นนอกแบบทุกอย่าง

ผมว่าทำอย่างไรก็ไม่มีทางได้ผล เพราะสิ่งที่ทำนั้น มันไม่ใช่ "สาระที่คนเสื้อแดงเขากำลังต่อสู้" ต่อให้ส่งคนไปปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงขวางระเบิดแล้วป้ายสี ให้ภาพพจน์คนเสื้อแดงเสียหาย ผมก็ไม่คิดว่าคนเสื้อแดงจะสนใจ หรือจะส่งผลต่อสถานการณ์แต่อย่างใด เพราะสิ่งที่คนเสื้อแดงต่อสู้คือ พวกเขาต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ พวกเขาไม่สนใจ "กุศโลบาย" กลอุบาย กลยุทธ์เก่า ๆ ที่ใช้ในการทำลายล้างขบวนการคนเสื้อแดง

สิ่งที่คนเสื้อแดงเขาสนใจคือ "ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ สังคมที่มีความเป็นธรรม ไม่เลือกปฎิบัติ ระบบกฎหมายที่บังคับใช้อย่างเท่าเทียมกัน หลักนิติธรรม” และต้องการ “การเคารพในการตัดสินใจของประชาชน"

หากสิ่งที่ผมกล่าวข้างบน ยังไม่มีให้ แต่เอาไปจากพวกเขามากกว่าเดิม การใช้เลห์เพทุบาย ใส่ร้ายป้ายสี ขู่ ปลอบ อย่างไรก็ไม่ได้ผล

แม้ว่าสื่อทุกสื่อ โทรทัศน์ทุกช่อง หนังสือพิมพ์ทุกฉบับประโคมข่าวใส่ร้ายคนเสื้อแดง รวมทั้งปิดเว็บ ขบวนการเสื้อแดงก็ไม่ลดลง มีแต่จะขยายตัวขึ้น เพราะทำอย่างนี้ เท่ากับ "ต่อต้านสิ่งที่คนเสื้อแดงสู้เพื่อให้ได้มา” ตามที่ผมเขียนข้างบน ยิ่งดึง "คุณค่า" ดังกล่าวไปจากพวกเขามากเท่าใด การขยายตัวของคนเสื้อแดงก็จะยิ่งมากขึ้น ตอนนี้ขยายตัวไปแทบค่อนประเทศแล้ว

การสร้างกระแสเรื่องสถาบัน ดึงสถาบันเข้าเพื่อสลายคนเสื้อแดง จะยิ่งทำให้คนเสื้อแดงขยายตัวมากยิ่งขึ้น เพราะอะไรก็ตีความเอาเองก็แล้วกัน เพราะพูดไปก็จะโดนเผาเหมือนแม่มดในยุคกลางของยุโรป แต่เชื่อผมเถอะว่า ยิ่งดึงลงมา คนเสื้อแดงยิ่งมาก เพราะจะทำให้พวกเขารู้สึกว่า "พ่อแม่ไม่รัก" ความเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งมีมากขึ้น ความคับแค้นเพราะพ่อแม่ไม่รักมีมากขี้น ความรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีเส้น มีมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้คนเสื้อแดงขยายตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก

ตอนนี้สิ่งที่คนเสื้อแดงเรียกร้องคือ "คุณค่าของประชาธิปไตย" การพยายามทำลายชื่อเสียง การขู่ การใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม ความลำเอียง การบิดเบือน การใช้อำนาจข่มขู่ ยิ่งทำให้เสื้อแดงขยายตัวยิ่งขึ้น

ผมจึงไม่ค่อยสนใจความลำเอียงของสื่อ เพราะมันเอียงจนผม "หมดศรัทธาไปแล้ว"

ผมไม่ค่อยสนใจการป้ายสีคนเสื้อแดง เพราะป้ายอย่างไรก็ไม่ได้ผล ผมไม่แคร์ด้วย

แม้คนเสื้อแดงบางกลุ่มอาจหัวรุนแรง ฮาร์ดคอร์ ก่อความเสียหายทางด้านภาพพจน์ เช่น ปาไข่ ตีกับพวกเสื้อเหลือง ผมก็ไม่ถือเท่าไหร่ เพราะมันไม่ใช่สาระของสิ่งที่ผมต่อสู้เรียกร้อง ผมถือว่า ในการต่อสู้กันทางการเมือง ก็คงมีคนควบคุมอารมณ์ไม่ได้เป็นปกติอยู่แล้ว อาจทำอะไรไม่ยั้งคิดก็ได้ หากเตือนๆ กัน ทำความเข้าใจกัน พวกเขาก็ใจเย็นลงเอง และกลายเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ดีต่อไป คนเสื้อแดงมีการเรียนรู้

ผมไม่สนใจ ดึงพวกเป็นกลางมาเป็นพวก เพราะคนที่สนใจคุณค่าประชาธิปไตย เขาย่อมมาเอง หากเขาไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเพียงพอ ผมไม่คิดว่าเขาจะมาเป็นคนเสื้อแดงอยู่แล้ว

สถานการณ์ตอนนี้ ผมไม่เชื่อว่าจะมีคนเป็นกลางที่เหลืออยู่ แม้จะมี ก็เป็นคนส่วนน้อย ไร้สาระที่จะไปเก็บเอามาเป็นข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ประชาชนเลือกข้างไปหมดแล้ว พวกที่ไม่เลือกข้างมีไม่กี่เปอร์เซนต์เท่านั้น ก็ช่างหัวมัน อยากเป็นสีขาว ไม่เอาข้างใคร ก็ช่างมัน

สรุปคือ สงครามมันข้ามพ้น กลยุทธ์ตื้นๆ ไปแล้ว

ผมไม่สนใจทหาร เพราะผมเชื่อว่า "พวกมันทำรัฐประหารตอนนี้ก็ไปไม่รอด" พวกมันได้แต่ขู่แบบนักเลง หรือเจ้าพ่อ อำนาจทหาร หากไม่กลัว มันก็ไม่มีความหมาย และผมไม่เชื่อว่าทหารจะทำ ปจว.ได้สำเร็จ ด้วยการใช้ "ค่านิยมโบราณ” เช่น เศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดเทวราชา เป็นต้น ค่านิยมเหล่านี้ เทียบไม่ได้กับ "ความกินดีอยู่ดี ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความเท่าเทียมกัน ความเป็นธรรม"

ดังนั้น ยิ่งอยุติธรรม เสื้อแดงยิ่งขยายตัวมากขึ้น

ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จะยิ่งทำให้เสื้อแดงขยายตัวเต็มแผ่นดินในไม่ช้า

เวทมนตร์อันใดก็หยุดคนเสื้อแดงไม่อยู่แล้ว