โดยมาตรฐานของคนต้นทุนติดลบ
“สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมเชือดพรรคเพื่อไทย โชว์ต้นขั้วเช็ค 27 ใบ ประกอบแผ่นชาร์ต ไล่เรียงเส้นทางการเงิน และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการ “ไซฟ่อน” ฟอกเงินสนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์ กับบริษัท ทีพีไอ กว่า 258 ล้านบาท
แฉกระบวนการซิกแซ็ก ปกปิดซ่อนเร้นเงินสนับสนุนพรรคการเมืองจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
และโดยลักษณะเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ยังได้มีการไซฟ่อนเงินที่ได้รับเงินสนับสนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 29 ล้านบาท แจ้งเท็จกับ กกต.
โดยมีตัวละครเอกคือ “เสี่ยอ๊อด” นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อยู่เบื้องหลัง
ข้อมูลลึกถึงขั้นระบุตัวบุคคลและชื่อโรงแรมที่ไปนั่งวางแผนกัน
ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง หากที่สุดแล้วมีการตัดสินจากกระบวนการยุติธรรมว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง
อาจนำไปสู่การยุบพรรคประชาธิปัตย์
“ผมจึงอยากพิสูจน์คำว่า นิติธรรม นิติรัฐที่นายกรัฐมนตรีพร่ำบอกอยู่เสมอนั้นว่าจะเป็นจริงหรือไม่ หรือพอเหตุเกิดกับคนกลุ่มหนึ่งต้องผิดทุกเรื่อง แต่พอเกิดกับอีกกลุ่มหนึ่งไม่มีความผิด จึงอยากรู้ว่าบ้านเมืองนี้มีความยุติธรรมอยู่จริงหรือไม่”
เอาเป็นว่า ข้อมูลแน่นๆ แฉชื่อคนกันชัดๆ ไล่เรียงกันเป็นฉากๆ หลักฐานจะจะแบบนี้ ถ้าเป็นฝ่ายประชาธิปัตย์ที่ลงมือเชือดเอง
ฝ่ายตรงข้ามคงถูกประทับตรา “ตายคาสภาฯ”
แน่นอน โดยเงื่อนเวลาและตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคิว “ไซฟ่อนเงิน” ที่เกิดตั้งแต่ยุคประชาธิปัตย์ทศวรรษใหม่ ช่วงนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นั่งเป็นหัวหน้าพรรค โดยนายประดิษฐ์ นั่งเป็นเลขาธิการพรรค
ต้องย้อนอดีตกลับไปปี 2547-2548 ก่อนนายอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งประชาธิปัตย์
เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่
แต่ถ้าเรื่องเก่า “ผิด” ยังไง มันก็ต้อง “ผิด” อยู่วันยังค่ำ
ที่แน่ๆโดยผลของการกระทำ ล่าสุดนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้นำสำนวนคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งมาให้ตรวจสอบ มอบให้ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง พร้อมทำบันทึกเวียนแจ้งให้ กกต.ทั้งหมดรับทราบ ก่อนนำเข้าที่ประชุมใหญ่
และโดยกระบวนการตีเหล็กกำลังร้อน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ทีอ้างปมเงินบริจาคเข้าพรรคสร้างความหวั่นไหวให้ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์
เกรงว่าจะส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ
ล่าสุดทราบว่า คนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมรองรับเรื่องการยุบพรรคไว้แล้ว โดยส่งคนไปจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองไว้จำนวน 2 พรรค ที่มีชื่อคล้ายพรรคเดิม ขอยืนยันได้ว่า จากข้อมูลเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ พรรคประชาธิปัตย์จะต้องถูกยุบแน่นอน
เร้ากระแส “หมัดเด็ด” น็อกได้
ยังไม่นับหมัดแย็บของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ขุดเรื่องเก่า เอามาย้ำแผลทีไร ก็สะดุ้งทุกที
“อภิสิทธิ์” หนีทหาร แต่ทหารอุ้มมาเป็นนายกรัฐมนตรี
โดยไฮไลต์การโรมรันพันตูของฝ่ายค้านต้นทุนติดลบ ในเกมที่ไม่มีอะไรต้องเสีย
งานนี้ยังไงก็ “กำไร”
และไม่ต้องรอนับคะแนนโหวตในสภาฯที่ฝ่ายรัฐบาลชนะตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวที
แต่โดยยุทธศาสตร์ที่พรรคเพื่อไทยเน้น “เผาหัว” ในสภา เร้ากระแสม็อบเสื้อแดง ที่ล่าสุดประกาศร่นเวลาชุมนุมใหญ่จากวันที่ 29 มีนาคม เข้ามาเป็นวันที่ 26 มีนาคม
โดยจะรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง และเคลื่อนขบวนมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องรัฐบาลให้ทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มเสื้อแดง เร่งดำเนินคดีกับม็อบพันธมิตรฯ
เข้าล็อกแผนตีขนาบ
ที่แน่ๆโดยอาการขยับของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมารับมุกแผน “ตากสิน” นำไปสู่ความแตกแยกในสังคม ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ปั˜นกระแส
เบื้องต้นเท่าที่ทราบ ข้อมูลนี้มีอยู่จริง
พร้อมคำรามขู่นิ่มๆว่า การดำเนินการที่ทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย และกระทบต่อสถาบันหลักเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
“ตัวช่วย” รีบคุมเชิงก่อนเลย.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
