ที่มา ไทยรัฐ
ต้องโทษสังคมที่ตั้งความคาดหวังสูงเกินไป
เมื่อโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้ง 35 คน ที่โปรดเกล้าฯแต่งตั้งอย่างเป็นทางการประกาศ ออกมา พี่น้องประชาชนที่ตั้งความหวังไว้สูงปรี๊ดจึงเกิดอาการอึ้งกิมกี่ไปตามๆกัน
อึ้งกิมกี่เพราะคุณภาพรัฐมนตรีไม่ คับแก้วอย่างที่คุย
ถึงจะมีรัฐมนตรีบางกระทรวงที่ดูดี แต่ในเมื่อรัฐมนตรีส่วนใหญ่ดูไม่ดี ก็เกิดกระแสยี้ระเบิดเถิดเทิง
นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงไม่กล้ากินเต้าหู้ยี้ไปอีกหลายวัน
“แม่ลูกจันทร์” ถึงจะผิดหวังกับโฉม หน้า ครม.ดรีมทีม แต่ก็เข้าใจว่าการตั้ง ครม.ครั้งนี้มีข้อจำกัดมากมาย
ทำให้ไม่สามารถวางตัวรัฐมนตรีให้แจ่มแจ๋วอย่างที่ตั้งใจ!!
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี ส.ส.มากพอที่จะพลิกขั้วด้วยตัวเอง จำเป็นต้องไปดึงพรรคอื่นๆเข้ามาร่วมผสมพันธุ์
ต้องพึ่งบารมีบิ๊กทหารให้ช่วยเปลี่ยนขั้วการเมือง
ต้องพึ่งพลังกลุ่มทุนที่ช่วยสนับสนุนเงินทอง
นี่คือการเมืองของจริง ซึ่งแตกต่างจากการเมืองในภาคทฤษฎีอย่างสิ้นเชิง และทำให้การจัดโผ ครม.ทุกรัฐบาลจึงออกมาเป็นหลนเต้าหู้ยี้ทุกที
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าการที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ออกมาไม่แจ๋วสมราคา พี่น้องประชาชนย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา
แต่อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับการเมืองไทย
เพราะระบอบประชาธิปไตยทำตามอำเภอ ใจไม่ได้เหมือนระบอบเผด็จการ
แต่ข้อดีของประชาธิปไตยคือ การให้ อำนาจประชาชนทุกคนเป็นผู้ตัดสินอนาคตการเมือง
ถ้ามองในแง่ดี การที่โฉมหน้า ครม. “รัฐบาลมาร์ค 1” ขัดหูขัดตาขัดใจประชาชน อาจเป็นแรงกดดันให้รัฐบาลทุ่มเททำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
ฉะนั้น ขอโอกาสให้นายกฯอภิสิทธิ์ได้ทำงานพิสูจน์ฝีมือเสียก่อนซัก 3 เดือน!!
เวลา 3 เดือน น่าจะมองเห็นแนวโน้มว่ารัฐบาลสามารถแก้วิกฤติต่างๆได้ผลเป็นอย่างไร??
ถ้าสิ้นเดือนมีนาคม ปีหน้า รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังทำงานไม่เป็นสับปะรดแมวก็ควรไข ก๊อกลาออกไปซะโดยดี
สำหรับรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มีใครบ้างที่ผิดฝาผิดตัว “แม่ลูกจันทร์” จะใส่เข้าเครื่องเอกซเรย์วันต่อไป
แต่วันนี้ขอกระชุ่นถึงปัญหาศึกสายเลือดในพรรคประชาธิปัตย์อย่าง เดียว
เพราะความขัดแย้งจากการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่ไม่เป็นธรรม กำลังเป็นแผลอักเสบที่อาจจะกลายเป็นบาดทะยักในระยะยาว
จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องรีบรักษาความแตกร้าวโดยเร็ว!!
ประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาก็บ่งชี้ว่าเวลาที่เป็นฝ่ายค้านทุกคนในพรรค จะสามัคคีกลมเกลียว
แต่พอได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่จะต้องทะเลาะกันเอง
ข้อสำคัญ ยามที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านจะเปิดประเด็น โจมตีรัฐบาลได้อย่างเจ็บแสบกระดองใจ
แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์พลิกขั้ว เป็นรัฐบาล สิ่งที่เคยโจมตีพรรคอื่นไว้มักจะย้อนมา เข้าตัวเอง
พรรคประชาธิปัตย์เคยโจมตีรัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชายว่าตั้งคนไม่เอาไหน ไม่มีความรู้ความสามารถมาเป็นรัฐมนตรี
แบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีตามโควตาพรรคร่วมรัฐบาล
แถมจัดสรรเก้าอี้ให้ตัวแทนกลุ่มทุนเข้าไปนั่งชูคอเป็นรัฐมนตรี
แม้แต่พวกที่ถูกห้ามเล่นการเมือง 5 ปี ก็ตั้งเมียเป็นรัฐมนตรีนอมินี ท้าทายอำนาจ กกต.
พุทโธ ธัมโม สังโฆ การเมืองเป็นเรื่องอนิจจัง
วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็ทำแบบเดียวกันเป๊ะเลย.
แม่ลูกจันทร์