ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Sunday, 28 December 2008

กฎแห่งกรรม ความไม่เป็นธรรมในเมืองไทย บนสถานการณ์…แตกแยก 2 ฝ่าย ( คอลัมน์ : Cover Story )

ที่มา ประชาทรรศน์

ศ.เกียรติคุณ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย คาดโทษ “มาร์ค 1” เจอแน่!!!…“กฎแห่งกรรม” ชี้สถานการณ์การเมืองร้อนแรงเข้าสู่จุดวิกฤติ เพราะผู้นำชาติกำหนดแนวทางไปสู่การแบ่งแยกประเทศไทยออกเป็นเสี่ยงๆ จนอาจจะนำไปสู่แนวทางการแบ่งแยกประเทศสู่ระบอบ “สาธารณรัฐ” ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก ชี้ทางรอดบังคับใช้กฎหมายให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย สร้างสมานฉันท์ก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 พร้อมคำอวยพรปีใหม่ อย่าเครียด อดทน อดออม ต่อสู้ต่อไป...

*** ต้นเหตุของการเมืองมาจากสาเหตุของโครงสร้างรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งที่คุณหมอออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่
เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นที่แน่นอนว่ารัฐธรรมนูญ 2550 เป็นรัฐธรรมนูญที่ทำให้การปกครองประเทศไทยไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ทำให้องค์กรต่างๆ ที่ถูกตั้งขึ้นโดยคณะรัฐประหารมีอำนาจเหนือผู้บริหารปกครองประเทศ มีอำนาจเหนือสภานิติบัญญัติ และทำให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศผิดเพี้ยนไป ทำให้ระบบนิติรัฐ และระบบนิติธรรมของประเทศเสียหาย เราถึงได้มาเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ให้เป็นไปตามประชาธิปไตย อย่างน้อยต้องให้เทียบเท่ากับรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ที่จริงแล้วควรจะดีกว่า เพราะการแก้ไขปรับปรุงอะไรควรทำให้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมมันดีขึ้น ฉะนั้นเราคิดว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เราจะเอาฉบับ 2540 มาเป็นต้นร่าง และแก้ไขให้มันดีกว่าฉบับ 2540

** รัฐบาลชุดไหนๆ ก็ตาม ตัวบทกฎหมายของรัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคหรือไม่
ฉบับ 2550 เป็นฉบับที่ผู้ร่างมีอคติต่อนักการเมือง คิดว่านักการเมืองเข้ามาด้วยการทุจริต ฉ้อฉล ซื้อเสียงต่างๆ นานา และพยายามจะออกกฎหมาย หรือออกรัฐธรรมนูญมาเพื่อบีบบังคับนักการเมืองให้ไม่สามารถบริหารปกครองประเทศ หรือออกกฎหมายได้ตามเจตนารมณ์ของประชาชน โดยไม่ผ่านการตรวจสอบจากองค์กรที่คณะรัฐประหารตั้งขึ้น ฉะนั้น เราจะเห็นได้ว่าการจะไปทำการค้า หรือทำสัญญาอะไรกับต่างประเทศ ต้องมาผ่านศาล ผ่านองค์กรอิสระ ให้ตรวจสอบ ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน ถ้าเราบริหารประเทศไม่ได้ ผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีไม่สามารถจะไปตกลงกับประเทศไหนทั้งนั้น ฉะนั้นศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศไม่เหลืออยู่

** รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รับปากว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คิดว่าจะมีการเตะถ่วงเพื่อไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนมาปรับใช้หรือไม่
เราเห็นการมาของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่ามีที่มาไม่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ถูกไหมครับ เพราะว่ามีการแย่งชิง ส.ส. มีการซื้อ ส.ส. อย่างที่มีเสียงกล่าวหากัน มีการใช้กลวิธี อุบายต่างๆ ทั้งใต้ดินและบนดิน ตลอดจนให้ทหารมาร่วมกำกับในการที่จะให้พรรคต่างๆ มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่เป็นไปตามหลักการของประชาธิปไตย ที่มาของรัฐบาลนี้ไม่เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องของระบอบประชาธิปไตยครับ

** ปัจจัยของรัฐธรรมนุญ 2550 จะเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลเดินไปสู่วิกฤติการเมืองอีกรอบหรือไม่
คงเช่นเดียวกับรัฐบาลที่ผ่านมาถึง 2 ชุด นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลที่ขึ้นมาไม่สามารถปกครองประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 ได้

** ตัวเร่งของกลุ่มเสื้อแดง-เหลือง ในการที่ได้รัฐบาลชุดใหม่มา จะทำให้เกิดการนองเลือดรอบใหม่หรือไม่?
เป็นที่น่าเสียใจที่บ้านเมืองเราถูกผู้นำประเทศนำพาไปสู่การแบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย อย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน คือเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง อย่างที่เราพูดกัน ฉะนั้น การบริหารปกครองประเทศจะเดินไปอย่างไม่สะดวก ไม่ราบรื่น และไม่เป็นเอกภาพ การที่เสื้อเหลือง-แดงจะปะทะกันครั้งนี้ โอกาสที่จะสร้างความวุ่นวายยุ่งเหยิงให้บ้านเมืองยังไม่เห็นทางออก เพราะว่าผู้ที่มีอำนาจในประเทศนี้ยังใช้นโยบายแบ่งแยกการปกครองอยู่

** ล่าสุด นายชวน หลีกภัย ได้เสนอต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า นอกจากปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องที่สำคัญมากคือการปรองดอง และปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คิดว่าเป็นข้ออ้างทางการเมืองหรือไม่
เป็นสิ่งที่พรรคการเมืองทุกพรรคที่ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอ้างเรื่องต่างๆ เหล่านี้ สมานฉันท์ ความสงบในดินแดนในภาคใต้ ปัญหาเศรษฐกิจ ความยากจนของประชาชน แต่จากพฤติกรรมที่แสดงออกมายังไม่เห็นว่ามีรูปธรรมอะไรที่จะแก้ปัญหาเปล่านี้ได้ เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นจากความไม่ปรองดองและความไม่สมานฉันท์ ดังนั้นโอกาสที่รัฐบาลจะสร้างความสมานฉันท์และความปรองดองในประเทศนั้นเป็นไปได้ยาก
ยิ่งดินแดนทางใต้ที่พรรคประชาธิปัตย์ครองเสียงข้างมากมาเป็นเวลายาวนาน ยังไม่ได้ช่วยให้ผู้อื่นหรือฝ่ายปกครองของบ้านเมืองสามารถที่จะให้เกิดความสงบสุขในดินแดนภาคใต้ได้ มิหนำซ้ำ ปีสองปีที่ผ่านมากลับมีการปิดสนามบินหาดใหญ่ ปิดสนามบินภูเก็ต ปิดสนามบินในหลายๆ แห่งในภาคใต้ ซึ่งคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาชิกและผู้ที่เห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีส่วนในการที่ทำให้เกิดการปิดสนามบินดังกล่าว

** กลุ่มของคุณหมอที่ร่วมรณรงค์ ของสมาพันธ์ประชาธิปไตยต่อสู้เผด็จการ คุณหมอตั้งใจที่จะผลักดันเรื่องนี้หรือไม่ เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด โดยอาจจะใช้ระยะเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี ในการผลักดันให้รัฐบาลมีการแก้ไข
ที่จริงเราทำมาโดยตลอดหลังจากเหตุการณ์พฤษภา 2535 ซึ่งเราได้ทำให้รัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องลาออก และได้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จนเราได้รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 มา ซึ่งเรามีส่วน เพราะตอนนั้นเราได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้นเสนอต่อรัฐบาล และหลายอย่างในรัฐธรรมนูญที่เราเสนอต่อรัฐบาล และสภาในขณะนั้นได้นำมาเป็นต้นแบบของรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 เช่น ส.ส. ระบบสัดส่วน ส.ส. แบบเขตเดียวคนเดียว นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. อะไรต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญเราจะทำต่อไป
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมเห็นในช่วงนี้คือว่า จะทำอย่างไรให้คนไทยเกิดความปรองดองและความสมานฉันท์ ด้วยการที่ต่างฝ่ายต่างหันหน้าเข้าหากัน สร้างความสงบให้เกิดขึ้นก่อน แล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ ตราบใดที่ยังมีความขัดแย้งและความแตกแยกอย่างรุนแรง โอกาสที่รัฐธรรมนูญจะถูกเขียนให้เป็นที่พอใจของทุกฝ่ายคงจะเป็นไปได้ยาก

** ขอสังเกตของ อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญว่า ถ้ารัฐบาลไม่แก้รัฐธรรมนูญ จะนำไปสู่กลียุคมากกว่า กลียุคนำไปสู่การสงครามกลางเมือง คุณหมอคิดว่ามันเป็นไปได้หรือไม่
อ.ชาญวิทย์ เป็นนักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศไทย และอาจารย์ได้ใช้บทเรียนทางประวัติศาสตร์ในการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ของบ้านเมือง คิดว่าความคิดของ อ.ชาญวิทย์ อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าผู้นำของประเทศยังไม่สำนึกว่า 3 ปีที่ผ่านมาได้ทำให้ประเทศเสียหายไปอย่างมหาศาลเพียงใด ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ยากจะเรียกคืนได้ เพราะได้ทำให้ประเทศแตกแยกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ซึ่งผมเป็นห่วงว่าต่อไปอาจจะกลายเป็นไม่ใช่ราชอาณาจักรหนึ่งเดียวอีกต่อไป เพราะเขาได้ทำให้ประเทศไทยแบ่งออกเป็นภาค และก็จะกลายเป็นสาธารณรัฐภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคกลาง อะไรต่างๆ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ผู้นำของประเทศได้ทำให้เกิดสภาพการณ์เช่นนี้ขึ้น

** ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรจะต้องมีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ชุดที่ 3 หรือ สสร. 3 เพื่อมีการระดมความเห็นของคนทุกฝ่าย มีความจำเป็นเช่นนั้นหรือไม่
ที่จริงการตั้ง สสร. 3 หรือการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญต่างๆ มันคือข้ออ้างของฝ่ายที่ต้องการร่างเพื่อให้มันเป็นไปตามกฎหรือเงื่อนไขของตน ผมว่าคนรู้ดีว่ารัฐธรรมนูญอะไรเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รัฐธรรมนูญอะไรไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ผมว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจ แต่การที่ตั้ง สสร. แต่ละครั้ง พยายามจะบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน แม้แต่รัฐธรรมนูญ 2540 มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศหลายต่อหลายครั้ง ประชาชนต้องการให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ต้องการให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ สสร.1 ฉบับ 2540 ไม่กระทำตามเสียงของประชาชนที่ได้สำรวจมา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการตั้ง สสร. มันไม่มีความหมายหรอกครับ ถ้า สสร. ที่ตั้งขึ้นมานั้นมีธง...ที่ตั้งเอาไว้แล้ว

** มองว่า รัฐธรรมนูญ ถ้าไม่แก้จะเป็นจุดตายของรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่
รัฐธรรมนูญคงไม่เป็นจุดตายของรัฐบาลอย่างเดียว จุดตายมันมีอะไรหลายๆ อย่างประกอบกัน อย่างที่เรารู้คือวิกฤติเศรษฐกิจโลก ความแตกแยกในประเทศ และความที่รัฐบาลจะไม่สามารถบริหารประเทศได้ เพราะรัฐธรรมนูญ 2550

** กระบวนการเริ่มต้น ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะเป็นอย่างไร
อย่างที่เราคุยมาตลอด คืออย่างที่เห็นแล้วว่ารัฐธรรมนูญที่อาจจะเรียกได้ว่าดีที่สุดที่เคยมีมาคือรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ประชาชนจำนวนมากได้มีส่วนร่วมในการร่าง แม้ว่าผู้ร่าง คือ สสร. ในยุคนั้นพยายามบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน แต่ยังเป็นประโยชน์มากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ มีหลักการความเป็นประชาธิปไตย และประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ ฉะนั้นถ้าเราเอารัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดเป็นตัวตั้ง แล้วอันไหนที่เราเห็นว่าเป็นจุดอ่อน จุดไม่ดี เราตัดทอนออกไป การยกร่างมันจะเสร็จภายในเดือน 2 เดือน แทนที่จะตั้ง สสร. และใช้เวลา 1 ปี 2 ปี และหลายปีกว่าจะร่างเสร็จ อันนี้ผมมองว่าผู้มีอำนาจย่อมรู้ดี

** ข้อกังขาของรัฐบาลชุดนี้กับการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในการยึดสนามบินทั้ง 2แห่ง คิคว่ารัฐบาลจะกล้าจัดการหรือไม่ เพราะตอนนี้คนเริ่มหวั่นไหวว่าจะมี 2 มาตรฐานแล้ว
ที่จริงมันมี 2 มาตรฐานมาตลอดในช่วง 3-4 ปี ที่เราเห็นกระบวนการยุติธรรมของเราไม่ได้ใช้กฎหมายแบบเท่าเทียมเสมอกันกับประชาชนทุกคน แต่มีการใช้กฎหมายแบบเลือกปฏิบัติ และมีการใช้กฎหมายแบบไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน ไม่ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม มีการใช้พจนานุกรมแทนกฎหมายในการตัดสินความ ซึ่ง ไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นเราไม่ต้องมีกฎหมาย ใช้พจนานุกรมแทนกฎหมายจะได้หมดเรื่องกัน

** การที่ออกมาเรียกร้องการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าเป็นการก่อการร้าย และมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้นำ ตรงจุดนี้คิดว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรบ้างหรือไม่?
ผมคิดว่ากระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองต้องดำเนินการและต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันกับทุกคนที่ทำผิดกฎหมาย เรื่องบางเรื่องล่วงเลยมาเป็นเวลา 2-3 ปี โดยกฎหมายไม่ถูกบังคับใช้ แต่มีการยึดสถานที่ราชการ ยึดสนามบิน ปิดถนน ขัดขวางการจราจร กระทบสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น เรื่องนี้มันผิดรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว นอกจากกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นๆ อีกมากมาย แต่กระบวนการยุติธรรมไม่ได้ดำเนินการ และผมอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมของบ้านเมือง และผู้ที่ต้องบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถดำเนินการได้ แม้แต่ศาลสถิตยุติธรรมของเราไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ออกคำสั่งให้พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล เขาไม่ยอมออก ไม่สามารถจัดการอะไรกับเขาได้เลย ไม่ทราบว่าใครเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้

** การที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาจะไม่เป็นเบี้ยล่างของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด คำพูดเหล่านี้ของรัฐบาลน่าเชื่อถือหรือไม่เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ยึดสนามบิน
สิ่งต่างๆ ที่นายอภิสิทธิ์พูดในขณะนี้ไม่ได้เหมือนกับพูดขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ กระทำผิดกฎหมายต่างๆ นานา โดยเขาไม่ได้ออกมาตำหนิติเตียน และได้ให้ ส.ส. ในพรรคของเขาไปร่วมกับพันธมิตรฯ ด้วย ฉะนั้นสิ่งที่เขาพูดไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ในขณะที่เขาปล่อย ส.ส. ของเขาไปร่วมกระทำผิดกฎหมายกับกลุ่มพันธมิตรฯ

** ถ้ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำตามกฎหมายในการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ เหล่านี้มันจะกลายเป็นแรงต่อต้านมากขึ้นหรือไม่
การต่อต้านคงจะไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น นานาอารยประเทศที่เขากำลังจับตามองดูกระบวนการยุติธรรมของบ้านเราอยู่คงจะเลิกคบหาสมาคมกับบ้านเรา เพราะบ้านเราไม่มีความเป็นนิติรัฐและนิติธรรม สุดท้ายยึดสนามบิน ยึดกันได้ไม่มีความผิด ไม่มีบ้านไหนเขาทำกันอย่างนั้น แม้แต่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เขามีการไล่ ประธานาธิบดีอาร์โรโย่ ของเขาทุกวัน ยังไม่มีการยึดสนามบิน เพราะว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่นานาประเทศเขาถือว่าสนามบินเป็นสถานที่ที่มีสิทธิเสรีภาพของคนทั่วโลกที่ใช้สัญจรไปมาระหว่างกัน เหมือนถนนต่างๆ อย่างของประเทศเรา หากมีการไปเบียดบังสิทธิเสรีภาพการสัญจรของผู้อื่น เราจะอะลุ้มอล่วยประนีประนอมกัน แต่นี่คุณไปทำกับชาวต่างประเทศ กับนานาประเทศที่เขาเข้ามาใช้สนามบิน เขาคงยอมไม่ได้ ฉะนั้น การต่อต้านคงไม่ได้ขึ้นอยู่แต่ในประเทศ แต่การต่อต้านจะขยายวงกว้างไปทั่วโลก และถ้ารัฐบาลไม่ดำเนินการให้จริงจัง อีกหน่อยนานาชาติเขาอาจจะบอยคอตรัฐบาลไทยได้

** แกนนำพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ ต้องดำเนินการอย่างอื่นก่อน
เป็นสิทธิ์ที่พรรคประชาธิปัตย์จะพูดอย่างไรก็ได้ในเมื่อเขาเป็นรัฐบาลแล้ว แต่ที่ประชาชนไทยทั้งประเทศและประชาชนทั้งโลกจับตามองอยู่คือ รัฐบาลประชาธิปัตย์จะทำให้ประเทศไทยเป็นนิติรัฐ นิติธรรม ได้หรือไม่ เพราะอันนี้เป็นหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย คุณจะมาอ้างโน่นอ้างนี่อ้างอะไรก็ได้ แต่ตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่เป็นนิติรัฐ นิติธรรม ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นไม่ได้

** ถ้าหากเราไม่จัดการกับพันธมิตรฯ นักลงทุนจะหดหายหรือไม่
ตอนนี้นักลงทุนเขาหดหาย 3 ปีนี้ต่างประเทศเขาถอนเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์ไป กว่าแสนล้านบาท นี่เหยียบ 2 แสนล้านบาทแล้ว และทำให้ค่าเงินของไทยด้อยค่าลงไปอย่างมากมาย เพราะฉะนั้นไม่รู้จะฝากใคร คงฝากประชาชนที่จะต้องตื่นตัวขึ้นเรียกร้องสิทธิของตัวเอง ที่จะมีกิน พอกินอยู่ได้ ไม่ยากลำบาก ไม่ตกงาน ไม่กลายเป็นเบี้ยล่างของพวกนักการเมืองต่างๆ

** คุณหมอกำลังจะอธิบายใช่หรือไม่ว่าหากรัฐบาลไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ มันจะไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของประเทศนี้กลับคืน
แน่นอนครับ ประเทศไหนที่ไม่มีความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม ย่อมไม่มีความเชื่อมั่นต่อต่างประเทศ หรือแม้แต่ประชาชนในประเทศ เพราะหากแม้แต่ความอยุติธรรมยังคงดำรงอยู่ บ้านเมืองจะเข้ากลียุคอย่างที่ อ.ชาญวิทย์ ว่า

** นี่จะเป็นสิ่งที่ต่างประเทศจะบอยคอตทุกอย่างหรือไม่ อย่างการค้าการส่งออก การเจรจา เพราะประเทศเราไม่เป็นประเทศศิวิไลซ์แล้ว
ผมคิดว่าทางผู้นำของประเทศคงสำนึกแล้ว ไม่งั้นคงจะมีการรัฐประหารแบบเดิมๆ เกิดขึ้นแล้วหลังจากที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายมาตลอดหลังจากที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง เพราะไม่สามารถปกครองประเทศได้ เนื่องจากมีกลุ่มพันธมิตรฯ พยายามทำเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อให้ทหารออกมาทำการรัฐประหาร แต่ผู้นำเขาคงเห็นแล้วจากการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา ประเทศชาติเสียหายไปเท่าไร และทรัพย์สมบัติของเขาสูญเสียไปเท่าไร เขาถึงไม่กล้าทำอีก

** คุณหมอคิดว่าที่พันธมิตรฯ ยื่นข้อเรียกร้อง 13 ข้อต่อรัฐบาล มีความชอบธรรมหรือไม่
ประชาชนทุกคนอ่านแล้วคงจะสามารถตัดสินใจเองได้ ถ้ามันเป็นคำเรียกร้องที่ไม่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม

** สิทธิของประชาชนที่เขายึดใช้กันมา โดยมีการบอกว่าถ้าคุณอภิสิทธิ์ไปอีสาน ประชาชนก็จะออกมาต่อต้านให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ ตรงนี้จะเกิดปัญหาอะไรหรือไม่
ตรงนี้เป็นกฎแห่งกรรม คือ ใครทำกรรมอะไรไว้จะได้รับกรรมนั้นสนองคืน หรือถ้าอีกคำหนึ่งคือ บาปนั้นคืนสนอง

** กระแสที่บอกว่าประชาธิปัตย์หนุนหลังพันธมิตรฯ
ต้องแสดงให้เห็นชัดเจนนะครับ ถ้าตัวเองได้เป็นรัฐบาลแล้วต้องดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายทุกคน ทุกกลุ่ม อย่างเท่าเทียมกัน

** โดยเฉพาะ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส. สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพันธมิตรฯ
ครับ...ใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ไม่ว่าจะเป็น ส.ต. หรือ ส.ส. สอบตกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร่วมกระทำการผิดกฎหมาย ต้องได้รับการดำเนินการ แม้แต่การขับไล่ออกจากพรรค ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ดำเนินการเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ให้สมาชิกพรรคของตนเอง และ ส.ส. ในพรรคของตนเองกระทำความผิดทางกฎหมาย โดยการวางเฉยว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลซึ่งมันไม่ถูกต้อง

*** มีข่าวว่าพันธมิตรฯ ขอโควตารัฐมนตรี
เป็นสิทธิ์ของเขานะครับ เขาสร้างมา เขามีสิทธิ์ขอต่อรองได้

***มันไม่เหมาะสม
มันไม่เหมาะสมอยู่แล้วละครับจากสิ่งที่เราเห็น ตราบใดที่รัฐบาลนี้มาด้วยครรลองที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม และไม่เป็นไปตามระบอบของประชาธิปไตย มันจะพบกับปัญหาต่างๆ เหล่านี้

** ข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ คือไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาพูดเองว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เขาไปทะเลาะกับพันธมิตรฯ ให้เสร็จก่อน

** นอกจากนี้ข้อเรียกร้องการเมืองใหม่ 70 : 30
ที่จริงแล้วทำไมไม่เอาร้อยเปอร์เซ็นต์ไปเสียเลย จะได้หมดเรื่องหมดราว

** คุณหมอห่วงหรือไม่
ผมไม่ห่วงหรอกครับ แม้ว่าเหตุการณ์ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมานี่จะสร้างผลเสียหายอย่างร้ายแรงและอย่างมหาศาลกับประเทศชาติของเรา แต่ข้อดีของมันคือทำให้ประชาชนรากหญ้าตื่นตัวขึ้น ได้เห็นธาตุแท้ของบุคคลต่างๆ รวมถึงผู้นำของประเทศ ได้เห็นว่าใครเป็นอย่างไร รู้เช่นเห็นชาติกันอย่างชัดเจน
ฉะนั้น...ความตื่นตัวของประชาชนที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากการทำผิดกฎหมายของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น บัดนี้ได้ทำให้เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเขาจะต้องรักษาประโยชน์ สิทธิและเสรีภาพของเขาอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นข้อดีของเหตุการณ์ที่ผ่านมา แม้ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาจะทำให้ประเทศชาติของเราเสียหายอย่างมหาศาลอย่างประเมินค่าไม่ได้

** คุณหมอมองเรื่องนอมินีและคนที่อยู่เบื้องหลังอย่างไร
เรื่องคำว่า นอมีนี คงไม่มีความหมาย เป็นเพียงคำที่เราเอามาใช้ทิ่มแทงกันเท่านั้น แล้วไม่เป็นนอมินี รัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่เป็นนอมินีของใครที่ไปสั่งจัดเรียกพบในค่ายทหารหรือ ผมว่าคำว่านอมินีเป็นคำที่เราใช้ทิ่มแทงกัน ทุกคนมีกลุ่มผลประโยชน์หนุนหลังตัวเอง ทุกคนมีกลุ่มคนที่บีบบังคับอยู่ด้านหลัง หรืออยู่เบื้องหลัง เพราะฉะนั้นไม่มีรัฐบาลใดที่ไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง มันมีทั้งนั้น แม้แต่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาก็มีกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง ฉะนั้นเราอย่าปฏิเสธเรื่องการเป็นนอมินีของใครเลย เพราะมันมีอยู่ทุกประเทศ

** ล่าสุดมีกลุ่มคนที่ตาสว่างว่าพวกนั้นเป็นม็อบมีเส้น คุณหมอว่ามันต้องมีการเปิดโปงให้หมดเลยหรือไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
ตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่เขาทราบอยู่แล้ว แม้จะไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะว่ากฎหมายยังบีบบังคับให้เขาไม่สามารถจะพูดได้อย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนได้

** ล่าสุด กลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา
ที่จริงผมอยากให้เขามีการตั้งพรรคการเมืองมานานแล้ว ให้ต่อสู้ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ต่อสู้โดยใช้การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยยึดสถานที่ราชการ ยึดสนามบิน ก่อกวนกวนสิทธิและเสรีภาพของคนทั่วไป ซึ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ถ้าคุณอยากปกครองประเทศ อยากจะบริหารประเทศ อยากสร้างการเมืองใหม่ คุณมาตามกติกาของระบอบประชาธิปไตย คุณอย่าเอาวิธีผิดกฎหมายเพื่อที่จะขึ้นมาสร้างการเมืองใหม่

** ทางสมาพันธ์ประชาธิปไตยเห็นว่าร่างอันไหนที่สมควรจะแก้ไขก่อน เพราะมีหลายคนเริ่มเห็นว่ารัฐธรรมนูญนี้เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง และออกมาเรียกร้องกันมากขึ้น
อย่างที่บอกไป อย่างที่เรียกร้องให้ยุบสภา ต้องการที่จะให้บ้านเมืองสงบ เพราะยุบสภาต้องเลือกตั้งทุกคน ความแตกแยกจะยุติลง พวกเสื้อเหลืองเสื้อแดงจะเป็นเพียงพวกเสื้อหลายสี เพราะมีหลายพรรคที่ต้องแข่งขันชิงชัยกัน ฉะนั้นบ้านเมืองมันจะสงบ และจะทำให้เราผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจโลกไปได้อีกช่วงหนึ่ง แต่ในเมื่อมันออกมาแบบนี้ การแก้ไขคิดว่ามันจะเป็นไปได้ยากแล้ว เพราะว่าถ้ามันเป็นไปได้ง่ายต้องเป็นรัฐบาลที่อย่างน้อยต้องขึ้นมาได้แล้วไม่ทำให้เกิดการสับสนวุ่นวาย หรือการจลาจลในประเทศ คือต้องมีรัฐบาลที่ขึ้นมาเพื่อทำอะไรบางอย่างแล้วแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตย เสร็จแล้วยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง โดยเลือกเร็วที่สุดเพื่อที่จะให้เราสามารถแก้ปัญหาความไม่สงบในแผ่นดิน และแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าประเทศได้ แต่ถ้ายังมัววุ่นวายแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี คิดเพียงว่าจะต้องเอาประโยชน์คืนอย่างไรจากการที่ใช้เงินดูด ส.ส. ดึง ส.ส. มันคงจะทำให้บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะวิกฤติเร็วขึ้น

***ในกลุ่มคนเสื้อแดงคุณหมอจะให้แนวคิดในการต่อสู้ทางการเมืองอย่างไรต่อไปในปีหน้า
อยากจะบอกกับกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหลายว่า คุณเห็นพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อเหลืองแล้ว กรุณาอย่าเลียนแบบเขา เพราะว่าเขาทำผิดกฎหมาย การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงถ้าจะให้ถูกต้องชอบธรรมต้องเลิกทำในสิ่งที่กลุ่มเสื้อเหลืองทำ และต่อสู้โดยสันติวิธี โดยการสร้างมวลชนให้แผ่ไพศาลไปทั่วประเทศ เมื่อมีมวลชนแผ่ไพศาลไปทั่วประเทศแล้ว อำนาจต่างๆ จะไม่สามารถที่จะมาข่มเหงพวกคุณได้อีก

***วันนี้ฝ่ายเสื้อแดงหรือฝ่ายประชาธิปไตยถือว่าพ่ายแพ้หรือยัง
ที่จริงอย่างที่บอกแล้ว สิ่งสำคัญของระบอบประชาธิปไตยคือความเป็นนิติรัฐ และนิติธรรม และอันที่สอง ความตื่นตัวของประชาชนส่วนใหญ่ ตอนนี้ประชาชนตื่นตัวขึ้น และกำลังเรียกร้องความเป็นนิติรัฐ และนิติธรรม ผมว่าอันนี้ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นการก้าวช้าๆ เพื่อไปสู่ความเป็นระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น

***กระแสที่บอกว่าในอนาคตจะมีการแบ่งแยกเป็นเหนือเป็นใต้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ ในช่วงไหน
อย่างนี้คงคาดหมายไม่ได้แน่ ต้องอยู่ที่ผู้นำประเทศ หรือผู้บริหารปกครองแผ่นดินว่าจะทำให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะแม้แต่หนังสือต่างประเทศยังเขียนแสดงความเป็นห่วงว่าประเทศไทยจะเป็นแบบนั้น ซึ่งเราไม่อยากให้เป็น

*** วิกฤติในเรื่องนี้จะมีหนทางอื่นบ้างหรือไม่ที่จะให้ประชาชนเรียนรู้เร็วขึ้น
อยากจะให้ทุกคนช่วยกันพูดแบบปากต่อปากกันไปว่าเหตุการณ์จริงเป็นอย่างไร อย่าให้สถานีวิทยุ หรือสถานีโทรทัศน์บางกลุ่ม บางสถานี มอมเมาและล้างสมองพวกเรา จนเราเข้าใจสิ่งต่างๆ ผิด แม้แต่นักวิชาการ แพทย์ พยาบาล และกลุ่มอาชีพชั้นสูงต่างๆ ยังถูกล้างสมองจนไม่เข้าใจว่าระบอบประชาธิปไตยคืออะไร กลายเป็นระบอบไสยเวทไปแล้ว

*** คนเสื้อแดงในขณะนี้มีมากมายกลายกลุ่ม
อันนี้เป็นของดี ซึ่งที่จริงประชาชนแต่ละกลุ่มไม่จำเป็นต้องเป็นก้อน เป็นกำลังแบบเสื้อเหลืองที่มีการจัดตั้งอย่างเข้มงวด การที่ประชาชนในแต่ละกลุ่มต่างๆ เป็นดอกไม้หลากสี แต่ว่าทุกคนมีความเชื่อมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เชื่อมั่นในหลักนิติรัฐและนิติธรรม โดยลุกขึ้นต่อสู้ด้วยตนเอง อันนี้จะเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าระบบการจัดตั้ง เพราะการจัดตั้งมากๆ มันคือเผด็จการ คุณต้องมีคนสั่ง มีคนหาทรัพย์ หาปัจจัยมาหล่อเลี้ยงบริวารให้อยู่กับคุณ แต่อย่างนี้เขาขึ้นเอง ทุกคนเลี้ยงตัวเอง ทุกคนทำกิจกรรมด้วยความสำนึกด้วยตัวเอง อันนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่

***การแสดงออกของม็อบในตอนนี้เป็นการกดดันหรือไม่ เพราะมีการปิดล้อม
ต้องบอกว่ามวลชนที่ไม่มีผู้นำอันแข็งแกร่งหรือผู้นำที่คุมมวลชนได้ มันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้แหละ เพราะเวลาที่อยู่ในฝูงชนจะเหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เข้ามาอยู่ในฝูงชน ถ้าใครกระทำด้านหนึ่งด้านใด ความเป็นจิตวิทยาหมู่จะนำฝูงชนอื่น คนอื่นๆ มากระทำการเช่นเดียวกัน ฉะนั้นอันนี้เป็นจิตวิทยาหมู่ หรือจิตวิทยาฝูงชน ที่มันจะเกิดขึ้นเสมอ ฉะนั้นอยู่ที่ผู้นำประเทศจะเข้าใจว่าอันนี้ถ้าคุณสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชน และประชาชนมารวมตัวกันโดยไม่มีแกนนำ ความรุนแรงจะเกิดขึ้นง่ายกว่าการที่ประชาชนมารวมตัวกันและมีแกนนำที่คุมฝูงชนได้

** ในการแถลงนโยบายวันที่ 29 ธันวาคมนี้ มีการประกาศว่าจะนำฝูงชนไปปิดล้อมรัฐสภา จะเป็นความรุนแรงอีกรูปแบบหนึ่งหรือไม่
อันนี้เขาคงเลียนแบบมาจากคราวที่แล้ว อย่างที่ได้พูดว่านี่เป็นกฎแห่งกรรม หรือบาปนั้นคืนสนอง คือเขาเลียบแบบ กลุ่มนั้นทำได้ กลุ่มนี้ต้องทำได้ ใช่ไหมครับ ฉะนั้น...ไม่รู้ ผมเองไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น ไม่อยากให้มีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บล้มตายอะไรกัน แต่ว่าบางครั้งเราไม่มีวาสนาหรือมีอำนาจบารมีที่จะไปป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น

** การที่กลุ่มคนเสื้อแดงไปล้อมสภา คิดว่าตำรวจ-ทหารจะใช้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่
ถ้าตำรวจกับทหารจะใช้มาตรฐานที่ต่างกัน ความรุนแรงยิ่งจะเกิดขึ้นทั่วประเทศ

** ยังคงยืนยันว่าการเรียกร้องเป็นสิทธิที่จะพึงกระทำได้
ตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างนั้น และคนที่บังคับใช้ต้องอย่าเลือกปฏิบัติ ถ้าเลือกปฏิบัติความรุนแรงจะยิ่งกระจายออกไป

** ในอนาคตความรุนแรงในสังคมเมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามา จะเกิดวิกฤติเหตุการณ์ร้ายๆ หรือไม่
ก็นี่แหละครับ...เป็นเรื่องที่น่าห่วงว่า ระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้แบ่งแยกประเทศไทยเป็นภาคแล้ว แบ่งเป็นสีแล้ว ฉะนั้นผู้ที่ทำเช่นนั้นก็พึงสำนึกและตระหนักว่า ตนเองได้ทำให้แผ่นดินไทยนี้ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เหมือนอย่างกรณีกรือเซะ และตากใบ ที่ทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีวันหวนกลับมาสู่ความสงบอีกได้

** มองอย่างไรกับการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาบอกว่าการประชุมนานาชาติซัมมิต ต้องไม่จัดที่เชียงใหม่ ให้เลื่อนออกไป
ไม่เป็นไร เป็นสิทธิที่เขาจะต้องตัดสินใจ แต่เขาจะเห็นว่าสิ่งไหนที่เขาได้ทำไว้มันคือกฎธรรมชาติที่ พระพุทธองค์เทศนาไว้แล้วว่า มีสิ่งนี้เกิดขึ้น จึงมีสิ่งนี้เกิดขึ้น มีสิ่งนั้นเกิดขึ้น จึงมีสิ่งนั้นเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเขาจึงเกิดการกลัว เราะรู้ว่ามันจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

** ในเมื่อนายอภิสิทธิ์ไปเหนือ-อีสานไม่ได้ แล้วจะบริหารอย่างไร
ก็ไม่รู้...ถ้าเขามาตามครรลองคลองธรรมที่ถูกต้อง ประชาชนจะต้อนรับ เหตุการณ์เหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อเขามาด้วยความไม่ถูกต้องตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย เหตุการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้น

** รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ ควรจะเรียกร้องค่าเสียหายที่ม็อบพันธมิตรฯ ยึดสนามบิน และหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องค่าเสียหาย คิดว่าส่วนนี้รัฐบาลต้องดำเนินการด้วยหรือไม่
ที่จริงรัฐบาลเขาไม่เกี่ยวเท่าไรนะ ผมว่าผู้เสียหายคือส่วนราชการ ห้างร้านต่างๆ และประชาชนมีสิทธิที่จะเรียกร้องในฐานะที่ถูกละเมิด และเรียกร้องค่าเสียหาย นั่นคือ คดีทางแพ่ง ใครที่ได้รับบาดเจ็บหรือถูกทำร้ายสามารถเรียกร้องทางอาญาได้ สิ่งต่างๆ ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญายังบังคับใช้อยู่ และรัฐบาลมีสิทธิอย่างเดียวคือ คุณอย่าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอย่าไปบอกเขาว่าชะลอเรื่องนี้ก่อน เอาเรื่องอื่นก่อน

** พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ออกมาระบุว่ามี 16 บริษัทที่หนุนกลุ่มพันธมิตรฯ ในการบุกยึดสนามบิน และส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการยึดทรัพย์
ผมว่าถ้าคุณจงรักจะพูดให้น้อยหน่อย และทำให้มากหน่อย จะเป็นประโยชน์มากกว่านี้ เพราะความผิดมันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา แต่คุณยังไม่เคยจับกุมหรือฟ้องใครเลย คุณทำงานอะไรอยู่ ถูกไหมครับ? ตำรวจเห็นคนปล้นอยู่ คนตีกันอยู่ และคุณไม่จับ ถือว่าละเลยต่อหน้าที่

** หน่วยงาน ปปง. ควรที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่
ที่จริงหน่วยราชการทุกหน่วยที่มีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายแล้วคุณไม่ทำ ถือว่าคุณละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ถือว่าผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แม้แต่กองทัพเหมือนกัน ที่ปล่อยให้เขายึดสนามบินได้ ในเมื่อเขามอบหมายให้พวกคุณปกป้องสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ

** คุณหมอจะบอกว่าหน่วยใดบ้างที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่
เห็นอยู่ชัดๆ นะครับ คุณเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายและคุณละเลยต่อหน้าที่ของคุณ ต่อการทำหน้าที่ของคุณ คุณต้องผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผมว่าไม่ต้องเอ่ยชื่อ ใครที่ไม่ทำตามหน้าที่ของตนเองน่าจะสำนึกและเร่งกลับตัวกลับใจ ทำหน้าที่ให้ประเทศไทยเป็นนิติรัฐ และมีหลักนิติธรรมอย่างสมบูรณ์

*** สรุปว่าการที่กลุ่มพันธมิตรฯ ยึดสนามบินเที่ยวนี้ นอกจาจะทำลายระบบนิติรัฐแล้ว ประเทศได้เสียหายมากมายอย่างไร
ที่จริงทำให้ศักดิ์ศรีของประเทศไทยในสายตานานาชาติกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน อาจจะล้าหลังกว่าพม่า พม่ายังไม่มีการยึดสนามบินเลย

*****************
** ในวาระปีใหม่นี้ อยากให้อวยพรให้ผู้อ่านหนังสือประชาทรรศน์
ขอให้ท่านผู้อ่านได้ตระหนักว่า แม้จะเป็นเพียงวันหนึ่งและจะผ่านไป แต่อย่างน้อยความขลังในวันปีใหม่ ขอให้ท่านผู้อ่านนิตยสารรายสัปดาห์ ประชาทรรศน์ และท่านผู้ฟังทางเว็บไซต์ ได้ทำให้เกิดความสงบในจิตใจของท่าน มีความสุขความเบิกบาน พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเครียด และทำให้ชีวิตของท่านมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง เพราะในปีหน้านี้เราอาจจะพบภาวะวิกฤติต่างๆ มากยิ่งขึ้น ขอให้อดทน อดออม และต่อสู้ต่อไปครับ...